โครงการตรวจเยี่ยมพระธรรมจาริกภาคสนาม เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน 1: ทำความรู้จัก“พระธรรมจาริก”
โครงการตรวจเยี่ยมพระธรรมจาริกภาคสนาม เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน 1 : ทำความรู้จัก“พระธรรมจาริก”
เกริ่นนำ ทำความรู้จัก“พระธรรมจาริก”
“ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงจาริกไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่คนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล และความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ พวกเธอจงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด"
“พระธรรมจาริก” ผู้จาริกตามรอยพระบาท เป็นโครงการพระบัณฑิตอาสา ได้สร้างพระนิสิตของมหาวิทยาลัยให้เป็นพระรุ่นใหม่ ที่มีแนวการพัฒนาชาวเขารูปแบบใหม่ และเอาใจใส่ชาวเขาอย่างจริงจัง ทำงานเพื่ออุดมการณ์ตามแนวความคิดที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา อันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้ผลิตพระบัณฑิตออกมารับใช้พระศาสนาและสังคม ได้ตระหนักว่า ควรที่จะขยายภารกิจการเผยแผ่พระศาสนาไปสู่ชาวเขาเหล่านั้นด้วย จึงได้จัดโครงการพระบัณฑิตอาสาพัฒนาชาวเขา (ธรรมจาริก) เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๓โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ๕ ประการ คือ
๑. เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวเขา
๒. เพื่อช่วยพัฒนาจิตใจตามแนวพระพุทธศาสนา และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
๓. เพื่อให้การศึกษา ภาษา หน้าที่พลเมืองที่ดี ตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ตลอดถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม
๔. เพื่อช่วยแนะนำและสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ
๕.เพื่ออบรมสั่งสอนชี้ให้เห็นถึงหลักการดูแลสุขภาพพื้นฐานและพิษภัยของยาเสพติด โรคเอดส์ ตามพื้นที่เป้าหมาย ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
เราในฐานะผู้ที่สามารถสนับสนุนเป็นกำลังใจ ให้การปฎิบัติงานในฐานะธรรมจาริก สำเร็จไปได้ด้วยดี ทั้งฝ่ายคณะสงฆ์ พระผู้ใหญ่ หลายรูปหลายฝ่าย ตลอดจนฆราวาส ก็ได้หาปัจจัย เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรค (เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับที่ไกลๆเช่นนั้นมาก) เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ไปสนับสนุนมาโดยตลอด ทางภาคใต้นำโดยพระเทพสุธี (สงคราม อสิญาโณ) เจ้าคณะภาค ๑๖ และคณะ ร่วมกับพระเทพกิตติเวที รองเจ้าคณะภาค ๑๗ วัดเบญจมบพิตรและคณะ ได้เดินทางไปสนับสนุนให้กำลังใจในหลายปีที่ผ่านมา
จากซ้ายไปขวา ท่านวุฒิ (หันข้าง วัดเขาแก้ว) เจ้าคุณพุ่ม วัดปากน้ำภาษีเจริญ(กทม) พระเทพสุธี (สงคราม อสิญาโณ) เจ้าคณะภาค ๑๖ และพระเทพกิตติเวที รองเจ้าคณะภาค ๑๗ วัดเบญจมบพิตร
ปีนี้โชคดีที่ meepole และสามีมีจังหวะที่ว่าง จึงได้มีโอกาสติดตามไปกับคณะ ขอนำเรื่องราวอีกมุมหนึ่งและหลายๆมุมที่ได้เก็บภาพและสะเก็ดข่าวมาลปรร ทั้งยังได้มีโอกาสมองเห็นชีวิตในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนครูผู้ปิดทองหลังพระที่นั่น ซึ่ง meepole ได้รับปากไว้และยังไม่ลืม
เรื่องงานที่คณะสงฆ์ที่ไปท่านปฏิบัติเป็นหลักคือ การนำสิ่งของไปมอบ (ถวายผ้าป่า)ให้ทั้งคณะพระธรรมจาริกจากอาศรมต่างๆที่มาพบ ณ.จุดนัดพบ (ไม่สามารถเดินทางไปทุกอาศรมได้เนื่องจากเวลา แต่จะแวะเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละปี) ให้โอวาทและมอบของจำนวนมากและเงินที่นำไปแจกชาวเขาที่มา
ตั้งขบวนอีกครั้ง หลังอาหารเช้า รถคันแรกสีดำของ meepole
คณะเดินทางตั้งต้นจากภาคใต้ 5 คันรถ บรรจุของเพียบ เช่นไข่เค็มไชยา เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว ขนมปังและขนมอื่นๆสารพัดรูปแบบ เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ตอนหน้าจะเริ่มเดินทางจากกทม......ไปตามเส้นทางสู่ อมก๋อย
ความเห็น (8)
- สาธุๆๆ
- รออาจารย์เล่าต่อ
- ทีแรกก็งงงงในอนุทินว่าอาจารย์ไปเหนือทำไม
- ผมส่งเมล์ผ่านระบบ gotoknow
- ไม่เป็นไรเขียนใหม่
- khajitfoythong347(at)gmail.com
- เปลี่ยน at ให้เป็น @ ก่อนนะครับ
- มี robot ส่งเมล์ขยะ
- จะส่งเมล็ดผักไปให้อาจารย์ครับ
- อยากได้ที่สถานที่ส่งครับ
- ขอบคุณมากๆๆครับ
งดงามจริง น้ำใจใสสดงดงาม
สวัสดีค่ะ อจ.ขจิต วศิน อาร์ม ที่ให้กำลังใจไว้ขียนตอนต่อไปค่ะ :)
สวัสดีค่ะ ครูหยุย
ครูหยุยได้ทำงานเพื่อสังคมมากมายกว่า meepole มากค่ะ ชื่นชมนะคะ
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับคณะพระธรรมจาริกทุกท่านค่ะ นับว่าเป็นการบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ทุกท่านมีความเสียสละจริงๆค่ะน่าชื่นชม
สวัสดีค่ะ
 |
ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยือนและร่วมอนุโมทนาบุญ meepole เองก็เพิ่งได้ไปเห็นการใช้ชีวิตของท่านเพียงสั้นๆเท่านั้น แต่สามารถรับรู้ได้ถึง เมตตา ขันติ ทมะ ที่ท่านต้องมี ในการดำรงชีวิตที่นั่นค่ะ
|
พระธรรมจาริก
โครงการพระธรรมจาริก กับ โครงการพระบัณฑิตอาสา
เป็นคนละโครงการกันนะครับ
โครงการพระธรรมจาริก http://www.jarik-highland.com/ หรือ www.phradoi.com
โครงการพระบัณฑิตอาสา www.phraasa.com