วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554
วันนี้ผมไม่ได้ขึ้นเวรครับ แต่มีธุระเข้าหมู่บ้าน ไปหาพี่ อสม. ตอนช่วงเย็น ๆ คุยธุระนิดหน่อย จับสาระไม่ได้
ผมยังเห็นภาพกลุ่มคนมากมายแน่นเนื่อง ตามทางแยกระหว่างคุ้มของหมู่บ้าน ก็บางอ้อว่า ต้องมีการแก้เคล็ดเกิดขึ้น เพราะผมเคยเขียนเกี่ยวกับประเด็นนี้หนึ่งบันทึกแล้ว
พอดีวันนี้ ผมมีกล้องจากมือถือด้วยครับ จึงขออนุญาตถ่ายรูปมาฝากด้วยครับ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ตอนนี้ขยายกลุ่มเป้าหมายด้วย คือ ใครที่มีชื่อ อักษร-ออ-อ่าง ให้เเก้เคล็ด...
นับเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายในการฉวยโอกาสของผมด้วย
และผมยังได้รับความรู้ในความหมายของภาษาลาวที่ลึกซึ้ง ทั้งที่เป็นคนอิสานนะครับ คือ
คำว่า แม่หม้าย คือ ผัวตาย ส่วนคำว่า แม่ฮ้าง (ร้าง) คือ ผัวปะ (ผัวหนี หรือ ทิ้งผัว) ครับ
และนี้คือ ภาพบันทึก "ใครที่มีชื่อ อักษร-ออ-อ่าง ให้เเก้เคล็ด" ของตาอ๊อด ของผม
ผมอวยพรให้ตาอ๊อดมีความสุขมาก ๆ กับงานแก้เคล็ด ที่สนุกสนาน และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และขนมจีนที่อร่อย ท่ามกลางกำลังใจของญาติ พี่น้อง ลูกหลาน ภายในหมู่บ้าน
นับเป็นบันทึกหนึ่ง ที่ผมเขียนไปด้วยความสุขที่เต็มหัวใจและเต็มท้องครับ....
ใครที่มีชื่อ อักษรสอเสือ ให้เเก้เคล็ด...การฉวยโอกาสของผม...
หลายวันผ่านมา...ผมขับรถผ่านบ้านเรือนหลายละแวกคุ้ม ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน พบว่า จะมีชาวบ้านมารวมตัวกัน ราวเป็นงานบุญ และบ่งบอกว่า มีการเลี้ยงอาหารกันด้วย เพราะมีหม้อ มีถาดผัก และถ้วยจาน
ตอนแรกผมคิดว่า คงเป็นงานเลี้ยงแสดงความยินดี เพราะช่วงนี้ ไม่น่าจะมีบุญเกิดขึ้นในแถบภาคอีสาน และถ้าเป็นงานศพ ก็คงจะไม่มีการผูกข้อต่อแขนกันด้วยด้านสายสิญจ์
จนเวลาล่วงเลยมาหลายบ่าย ก็จำนวน 3 บ่ายแล้ว ผมจึงถามพี่ อสม. ที่มาส่งรายงานที่สถานีอนามัย พี่เขาหัวเราะและบอกผมว่า คุณหมอช่างตกข่าวนะ ....
พี่ อสม.เล่าว่า มีผู้มีบุญญาบารมีฝันว่า ใครที่มีชื่อ อักษรสอเสือ ให้ทำการเเก้เคล็ดด้วยการเลี้ยงขนมจีนน้ำยา จำนวน 9 กิโลกรัม ในทุกหัวมุมถนนของชุมชนหรือหมู่บ้าน หรือเลือกเอามุมใดมุมหนึ่ง หรือเเยกใดเเยกหนึ่ง และเชิญให้หญิงหม้าย จำนวน 9 คน มาผูกข้อต่อแขนกันด้วยด้านสายสิญจ์ให้ ไม่อย่างนั้นอาจตายได้
พอฟังแล้วผมก็รู้สึกว่า ผมตกข่าวจริง ๆ ด้วยครับ แต่ปรากฎการณ์ทำนองนี้ ก็เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก
ผมรู้สึกทึ่งครับ กับปรากฎการณ์อย่างนี้ และมองว่าเป็นสุดยอดของความเชื่อที่มีบนโลก
และผมของตั้งข้อสังเกตจากมุมมองของผมนะครับ
1. ผมมองว่า ตลาดการค้าขนมจีนคึกคัก และเหมาะสมกับบริบทไทยด้วยครับ ถ้าผมฝันอยากกินอาหารผมคงจะขอเป็นไก่ย่างห้าดาว KFC MK แต่นี้คือ การคิดของคนไทยนะครับ ขนมจีนน่าจะเหมาะสมนะครับ แสดงถึงความเป็นเหตุเป็นผล
2. ผมมองอีกว่า ทำไมอะไร ๆ ต้องลงท้ายด้วยเลย 9 ก็เพราะเลข 9 เป็นเลขที่บ่งบอกถึงความเป็นสิริมงคลของคนไทย
3. ผมมองอีก ๆ ว่า ทำไมเอาหญิงหม้ายด้วยครับ เพราะมีแต่รุ่นคุณย่าคุณยาย ทำไมไม่เลือกเอาหนุ่มหล่อ - สาวสวย มาผูกข้อมือให้ คงเพราะความนอบน้อมและกตัญญูต่อผู้สูงอายุ ที่คนไทยทุกท่านควรแสดงความเคารพ
และผมมองว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นมีประโยชน์ต่อการทำงานของผมมากมาย
1. ชาวบ้านมารวมกลุ่มกัน แต่ก่อนอาจจะต่างคนต่างอยู่ ได้พบปะพูดคุยกันมากขึ้น ผมน่าจะฉวยโอกาสไปเยี่ยมบ้านแบบกลุ่มได้ เมื่อพิธีกรรมเสร็จแล้ว ระหว่างกินขนมจีนผมให้ความรู้เรื่องการส่งเสริมและป้องกันโรคจากหมออนามัยด้วย คงมีประโยชน์ไม่น้อย และผมก็ไม่ได้ลงทุนเรื่องงบอาหารและเครื่องดื่มผู้เข้ารับการประชุมเลยจริงไหมครับ
2. น่าจะได้ผลงานด้านสุขภาพจิตนะครับ เพราะชาวบ้านหลายคนหลายรุ่นมาอยู่พร้อมกัน ได้ไถ่ถามสารสุขสุกดิบกัน เรื่องไหนทุกข์อกทุกข์ใจ ก็เล่าสู่กันฟัง ห่วงใยกัน น่าจะคลายความเครียด และรู้สึกผูกพันของคนในชุมชนได้มากขึ้น
3. น่าจะได้ผลงานผู้สูงอายุ เพราะคนที่มีอักษรชื่อแรกตัวสอเสือ ต้องไปรับหญิงหม้าย หรือคุณย่าคุณยายแก่ ๆ เป็นใครต้องรู้สึกดีใจที่ลูกหลานยังให้ความสำคัญ และการที่เด็กกว่าไหว้คุณยายคุณย่า ช่างเป็นภาพที่งดงามแห่งความเคารพนอบน้อมต่อผู้สูงอายุ
4. คนที่มีอักษรชื่อแรกตัวสอเสือ คงเป็นคนที่รู้สึกสุขใจที่สุด เพราะใครผ่านไปผ่านมา ต้องมากินขนมจีนของเราที่เราเตรียมไว้ สุขเล็ก ๆ ที่ทำให้ผุ้อื่นมีความสุขนะครับ
บอกแล้ว...ผมเป็นนักฉวยโอกาสจริง ๆ ครับ
ไม่มีความเห็น