ถึง ญาติโก-ทู-โนว์...มารายงานตัวครับ ว่ากลับจากเมืองหลวงแล้ว ด้วยความคิดถึง คืนนี้จึงเขียนกลอนพร้อมภาพวาดมาฝากเช่นเคยครับ...-ปณิธิ ภูศรีเทศ
-ปณิธิ ภูศรีเทศ- (ภาพสีไม้:วัดจุฬามณี พิษณุโลก-ปณิธิ) 1. ไม่มีเหยียบ แล้วไฉน จะได้ยืน ไม่มีสะอื้น แล้วไฉน ยิ้มได้เห็น
ไม่รู้ร้อน แล้วไฉน ได้รู้เย็น ได้รู้เพ็ญ โสภี เพราะมีแรม
2. ใดอยู่สูง ใช่สูงค่า กว่าอยู่ต่ำ ใดมืดดำ ฤๅต่ำค่า กว่าเจิดแจ่ม
เสียงร้องไห้ จึงยังอยู่ คู่ยิ้มแย้ม มาแต่งแต้ม โลกพิสุทธิ์ ยุติธรรม
3. ยอมถูกเหยียบ เพื่อให้ยอด ได้หยัดยืน เก็บสะอื้น เพื่อส่วนรวม ไม่ร้องร่ำ
เป็นอิฐทน อิฐทาน อิฐด้านดำ สร้างสถาปัตยกรรม...งามสัมบูรณ์
*** ฐานชีวิตของมนุษย์ถ้าหยุดคิด
เพ่งดวงจิตเห็นสิ่งใดก็ไร้ค่า
อนิจจังทุกขังอนัตตา
ฐานศรัทธาคุณธรรม์สร้างปัญญา
ไม่มียอดไม่มีฐานเท่ากันหมด
ธรรมชาติตั้งกฎกำหนดค่า
จะเป็นฐานหรือยอดสูงมุ่งสู่ฟ้า
ในที่สุดก็ลงมาเสมอดิน.
อิฐต้องแกร่ง แข็งกล้า ท้าลมฝน
อิฐต้องทน ต้านทาน งานหนักหนา
อิฐไม่ท้อ ไม้พ้อ โชคชะตา
อิฐรักษา รากฐาน ทานยอดทน
หมายรวมถึง "อิฐ" คนนี้ด้วยค่ะ
ถ้าโดนเหยียบโดนย่ำแล้วล้ำค่า
ยังดีกว่าอยู่ภูผาค่าไม่เห็น
ทำความดีอยู่ที่ไหนไม่ลำเค็ญ
ความโดดเด่นอยู่ที่ใจใช่ร่างกาย
ขอบคุณบทกลอนของ "คุณยาย" ครับ
ปณิธิ ภูศรีเทศ
งามสัมบูรณ์ทูนศาสน์ศิลป์เกิดดินสวย เวลาช่วยเพิ่มคุณค่าสง่าศรี
โบราณสถานงานศรัทธาบารมี จากคนดีที่เสกสรรให้บ้านเมือง