ครูผู้สอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ใช้ห้องปฏิบัติการทางภาษาในการสรุปบทเรียนแต่ละบทเรียน หรือในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ที่จะต้องฝึกการฟัง ฟังเสียงจากครูผ้สอนชาวต่างประเทศจากสื่อการเรียนรู้ประเภทแถบบันทึกเสียง
บทบาทของครูผู้สอนได้แก่ การเตรียมความพร้อมในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ และเนื้อหา โดยเฉพาะสื่อการเรียนรู้ต้องเตรียมไว้พร้อมใช้เสมอที่นักเรียนทุกชั้นเรียนจะเข้ามาใช้
นักเรียนให้ความสนใจและชอบการเรียนรู้แบบนี้ เพราะเป็นอิสระที่นักเรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ โดยครูผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแล
ผลที่ได้จากการปฏิบัติ คือ นักเรียนมีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
การจัดการเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการ มักนิยมใช้กันมาก เพราะมีความเชื่อว่านักเรียนได้ฝึกการฟัง การพูด โดยได้เรียนรู้จากเสียงของเจ้าของภาษาตามเนื้อหาที่ครูผู้สอนจัดให้
แต่ถ้าถามครูผู้สอนว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการสอนโดยตัวครูเอง กับการสอนแบบนี้ในห้องปฏิบัติการภาษา โดยใช้เวลาเท่ากัน รู้สึกเป็นอคติว่า นักเรียนจะเรียนรู้กับครูผู้สอนได้เร็วมากกว่าเรียนในห้องปฏิบัติการภาษา
ต้องทำวิจัยในชั้นเรียนดูก่อนจึงจะสรุปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อย่างน้อย ครูสอนง่าย ไม่เหนื่อย นักเรียนสนใจ สนุก แต่สิ้นเปลืองเวลาและต้องทุ่มทุนสร้างมากหน่อย
อรุณสวัสดิ์คะ"อาจารย์สิริพร"
หากเราร่วมมือกัน...ร่วมคิดร่วมทำ...
สร้างสรรค์...อนาคตของชาติ
เชื่อเลยว่า...อนาคตเด็กไทย...
ไปได้ไกล..แน่นอนคะ...
และที่สำคัญหากเราเข้าใจ...
กระบวนการสร้างความรู้
ของคน...และการเสริมสร้าง
กระตุ้นให้เกิดกระบวนการทางปัญญา
ให้เด็กได้เรียนรู้ตามศักยภาพ...
แน่นอนว่า...ไม่ว่าเด็กจะเจอ...
สถานการณ์..แบบใดเขาก็จะสามารถ
ใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้และการสร้างความรู้นี้
ไปใช้ได้แน่นอนคะ
ความร่วมมือร่วมใจเป็นสิ่งที่ครูไทยทุกคนปฏิบัติอยู่แล้ว สังเกตจากคำสั่งปฏิบัติการในทุกเรื่องครูไทยทำได้ทุกเรื่องทุกอย่าง
ความสร้างสรรค์ ครูไทยมีผลงานสร้างสรรค์มากมายจากครูแห่งชาติ ครูมืออาชีพ ครูเกียรติยศ ฯลฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาตนเองของครูให้รอบรู้ในเนื้อเรื่อง กระบวนการปฏิบัติ และยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
ครูมักจะเข้าใจในสิ่งที่ปฏิบัติไปแล้ว ปฏิบัติเป็นปัจจุบัน และควรปฏิบัติ ทั้งๆที่มีเวลาและภาระเป็นตัวแปรที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทุกเรื่องแปรไป
เรื่องของศักยภาพ เป็นเรื่องที่ครูไทยต้องรู้และปฏิบัติให้ถูกต้อง ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการบริหารของหน่วยงานที่สังกัดเป็นตัวอย่างนำร่อง ศักยภาพของครูมีมาก แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงออกอย่างมีกระบวนการ และไม่ชัดเจน
ครูมีแต่ให้กับให้ แล้วมีใครให้ครูบ้าง