การประชุมสภาครูอาเซียน ASEAN Council of Teachers Convention

ผมเป็น 1ใน11 คนของ สมาคมเครือข่ายพัฒนาชีวิตครูแห่งประเทศไทย ที่ได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ หัวข้อเรื่อง “ASEAN Educators ; Rising Above Challenging Times ” เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบอนาคตของการจัดการศึกษาไทยแล้วพบว่า ไทยเราควรปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ของตนในฐานะพลเมืองที่ดี ซื่อสัตย์ รักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ให้มีการคอรัปชั่น ให้เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นสำคัญ เห็นได้จาก ฟิลิปปินส์ ที่ประชากรทั้งประเทศจะถูกปลูกฝังให้อยู่อย่างเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ มีคนยากจนมากถึง ๘๐ % และ มีระบบการเมืองที่คอรับชั่นมากที่สุด กิจการสาธารณูประโภคถูกขายให้เอกชนดำเนินการ ๑๐๐ % สร้างคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่เป็นภูมิปัญญาและมีเอกลักษณ์ประจำชาติ ที่ควรค่า แก่การอนุลักษณ์ เพราะ ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่รับวัฒนธรรมจากสเปนมาเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้รูปแบบของวัฒนธรรมผิดแปลกไปจากทุกประเทศในเอเชีย

การประชุมสภาครูอาเซียน ASEAN Council of Teachers Convention โดย องค์กรสมาชิกสภาครูอาเชียน 9 ประเทศ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อให้มีเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ส่งเสริมให้ความร่วมมือกับประชาคมอาเชียนในการดำเนินโครงการและแผนงานที่เป็นประโยชน์ในด้านวิชาชีพครู การศึกษา และวัฒนาธรรม โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 เป็นต้นมา

ประเทศไทยโดยคุรุสภาร่วมกับ สมาคมการศึกษาแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย สมาคมครูสถานศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย สมาคมสหภาพครูแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ร่วมส่งผู้แทนครูไปประชุมสภาครูอาเซียน ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 9 – 13 ธันวาคม 2553 ณ เมืองซูบิค สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ผมเป็น 1ใน11 คนของ สมาคมเครือข่ายพัฒนาชีวิตครูแห่งประเทศไทย ให้ได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ในหัวข้อเรื่อง “ASEAN Educators ; Rising Above Challenging Times ”

วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๕.๐๕ น. เดินทางโดยสายการบินไทยอินเตอร์ TG ๖๒๔ ถึงสนามบินเมืองมะนิลา เวลา ๑๙.๓๐ น. เข้าพัก ณ โรงแรมดุสิตธานี

วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. ออกจากที่พักเดินทางสู่ เมืองซูบิก ระหว่างทางศึกษาแหล่งเรียนรู้ดังนี้

ชมเมือง ZAMBALES ที่เป็นฐานทัพของอเมริกันสมัยสงครามโลก ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศฟิลลิปปินส์ เคยเป็นอาณานิคมของสเปน ๔๑๗ ปี อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศญี่ปุ่น ๔ ปี และได้ปกครองประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเวลา ๔๒ ปี หลังจากประกาศอิสรภาพ ปัจจุบันมีระบบการปกครองอยู่ภายใต้นักการเมืองที่มีปัญหาทางการคอรัปชั่น เป็นผลให้ประชาชนทั้งประเทศขาดการพัฒนา ความเจริญล้าหลังประเทศไทย ถึง ๒๐ ปี และมีวัฒนาธรรมประจำชาติเรียนแบบชาติสเปน

ชมค่าย JET CAMP ที่อยู่ของชาว IMTA เป็นเผ่าพื้นเมือง ที่สอนการดำรงชีวิตในป่า ให้ทหารอเมริกัน

เข้าที่พัก โรงแรม ZUBIC International ร่วมประชุม วางแผนและมอบหมายภารกิจ การร่วมกิจกรรมงานประชุมสภาครูอาเชียน

ร่วมงานเลี้ยงตอนรับผู้ร่วมประชุมสภาครูอาเชียน Friendship Night ณ ZUBIC BAY

วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๐๐-๐๘.๓๐ น.ลงทะเบียน รายงานตัวเข้าร่วมประชุม

ฟังบรรยายเรื่อง ASEAN Educatiors-Rising Above Challenging time

การนำเสนอรายงาน Country Report ของผู้นำประเทศทั้ง ๙ ประเทศ จัดเรียงตามลำดับตัวอักษร

- การนำเสนอของประเทศไทย โดย ดร.ดิเรก พรสีมา

การแสดงศิลปะประจำชาติของประเทศที่เข้าร่วมประชุม

๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ การประชุมกลุ่มย่อย เสวนาแนวทางการพัฒนาการศึกษา

การนำเสนอแนวทางการพัฒนาการศึกษาของแต่ละประเทศจัดเป็นสองห้องประชุมใหญ่

ดร.ดิเรก พรสีมา ได้บรรยาย

การแบ่งกลุ่มประชุมเพื่อให้ความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ ๓ กลุ่ม

กลุ่มที่ ๑ บรูไน ดารุสซามาลาน / อินโดนีเซีย / มาเลเซีย

กลุ่มที่ ๒ สิงคโปร์ / ไทย / ลาว (โดยคณะของ ดร.พลสัณห์ โพธิสีทอง )

กลุ่มที ๓ กัมพูชา / เวียดนาม / ฟิลิปปินส์

มีประเทศเกาหลี เสนอตัวเข้าร่วมประชุมในกลุ่มที่ ๒ และแสดงความชื่นชมแนวทางการ

จัดการศึกษาของไทย และสกสค.

พิธีปิดการประชุมสภาครูอาเชียน

เวลา ๑๕.๓๐-๑๗.๓๐ น. พาคณะผู้ร่วมประชุม แยกเป็น ๒ คณะ ไปดูงานโรงเรียน

ประถมศึกษา และ โรงเรียนมัธยมศึกษา

วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ เดินทางจาก เมืองซูบิก กลับสู่เมือง มะนิลา ระหว่างทาง ได้ศึกษาแหล่งเรียนรู้ ภูเขาไฟ TA-AL ที่เป็นภูเขาไปที่เล็กที่สุดในโลก ชมหมู่บ้าน TAKATAY เป็นหมู่บ้านภูเขาไฟที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๒,๒๕๐ เมตร

เวลา ๑๙.๐๐ -๒๔.๐๐ น. เลี้ยงอำลา และชมการแสดงโชว์พื้นเมือง ณ ZAMBOCA RESTAURANT

ประโยชน์ที่สามารถนำไปพัฒนา

๑. จากการไปราชการครั้งนี้ สถานศึกษาสามารถนำมาเป็นกรณีตัวอย่างที่อ้างถึงผลดีของการพัฒนาการศึกษาที่ควรปลูกฝังเยาวชน ดังนี้

๑.๑ สร้างคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่เป็นภูมิปัญญาและมีเอกลักษณ์ประจำชาติ ที่ควรค่า

แก่การอนุลักษณ์ เพราะ ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่รับวัฒนธรรมจากสเปนมาเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้รูปแบบของวัฒนธรรมผิดแปลกไปจากทุกประเทศในเอเชีย

๑.๒ ไทยเราควรปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ของตนในฐานะพลเมืองที่ดี มีความซื่อสัตย์ รักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ให้มีการคอรัปชั่น ให้เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นสำคัญ เห็นได้จาก ฟิลิปปินส์ ที่ประชากรทั้งประเทศจะถูกปลูกฝังให้อยู่อย่างเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ มีคนยากจนมากถึง ๘๐ % และ มีระบบการเมืองที่คอรับชั่นมากที่สุด กิจการสาธารณูประโภคถูกขายให้เอกชนดำเนินการ ๑๐๐ %

๒. จากการประชุมสภาครูอาเชียน รูปแบบของการประชุมสมาชิกทั้ง ๑๐ ประเทศ พบว่า

๒.๑ ภาควิชาการที่ให้แต่ละประเทศบรรยาย จัดเป็น ๒ ห้องประชุมใหญ่ นำเสนอแนวทางการพัฒนาการศึกษาของตน ในวันที่ ๑๐-๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ไม่เน้นเนื้อหาการประชุมทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละบุคคลที่สามารถเข้าไปร่วมรับฟังแนวทางการพัฒนาการศึกษาของประเทศต่าง ๆ

๒.๒ การจัดที่นั่งผู้เข้าร่วมประชุม เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จัดเป็นโต๊ะกลมให้นั่งได้ ๑๐คน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สื่อภาษาด้วยภาษาอังกฤษ

๓. ทราบความก้าวหน้าของทิศทางการจัดการศึกษาในอนาคต และแนวทางการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาของไทย ควรได้มีโอกาสรับรู้เพื่อการศึกษาเปรียบเทียบและพัฒนาตนเอง ให้เป็นประเทศที่เจริญด้วยเทคโนโลยีคู่ขนานไปกับการปลูกฝังคุณธรรมและสร้างทักษะชีวิตให้สามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งประเทศสิงคโปร์ มีทิศทางการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมที่สุด

ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ เดิมเป็นเมืองขึ้นของอเมริกา มีความเจริญุรุดหน้าทางการศึกษา ประชากรชื่นชมว่ามีอารยธรรมเรียนแบบชาติตะวันตก-ยุโรป เหนือประเทศอื่นๆใดในเอเชีย

แต่จากร่องลอยที่พบ ปัจจุบัน เข้าล้าหลังกว่าประเทศไทยหลายเท่า ไม่มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ประชากรมากกว่า 80 % ต้องยากจนและเป็นหนี้ ทุกคนถูกหล่อหลอมให้รักสบาย สนุกสนานรื่นเริง เรียกร้องสิทธิมากกว่าการทำหน้าที่ ... อาหารการกินขาดแคลน มีเขตปกครองตกเป็นผลประโยชน์ของนายทุน ....ฯ ทั้งนี้เพราะ ระบบการเมืองขาดการควบคุม มีการคอรัปชั่นของนักการเมืองที่เข้ามาแสวงประโยชน์มากที่สุด

แล้วอนาคต ประเทศไทยเล่า....? จะฝากไว้กับใคร.....?