SHA conference & contest Imperial Queen's Park 2010


SHA workshop

วันที่ 15-17 ธันวาคม ทาง สรพ.ได้จัดงานสัมมนา SHA กันที่ รร. Imperial Queen's Park ผมได้มีโอกาสอันดีมามีส่วนร่วมจัด mini-workshop ในงานนี้ต่อจากพี่หมอวิธาน ฐานะวุฑฒ์ คือ แกทำ workshop writing for healing ไปเมื่อวานนี้ วันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก็ต่อด้วย workshop salutogenesis (สุขภาวะกำเนิด) ไปเลย ที่เรียกว่า "ต่อ" ก็เพราะเราใช้ setting ของห้องเหมือนกันและแตกต่างจากห้องอื่นคือ ใครมาเข้าห้องนี้จะได้แจกหมอน (หมอนจริงๆ หนุนนอนได้) คนละใบ ถั่วกลุ่มละจาน รองเท้าเอาไว้หน้าห้อง เพราะเราจะนั่งๆนอนๆแลกเปลี่ยนกัน

พี่วิธานโทรมาบอกแต่เมื่อวานว่าห้องค่อนข้างเล็ก เพราะปกติห้องทำ workshop จะใช้เนื้อที่มากกว่าห้องแบบบรรยายประมาณ 3 เท่า (นั่นคือห้อง lecture 300 คน ก็จะเหมาะสำหรับ workshop 100 คน) พอเราเริ่มปูวง เราก็รู้สึกค่อนข้างแน่นทีเดียว แต่ก็อบอุ่นดี เพียงแต่เลยไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวฐานกายมากเท่าที่เราอยากจะทำ (มันเลยได้แค่ฐานคิดกับฐานใจ)

ปีนี้ปรากฏว่าเราได้พื้นที่มากขึ้น (เวลา) เพราะปีแรก เราได้ลองทำ world cafe ในเวลา 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ซึ่งเร่งรัดมาก แต่ปีนี้เรามีเวลาตั้งแต่ 8.30 น.ถึงเที่ยงสำหรับ 1 กลุ่ม เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินกิจกรรมบ้างพอสมควร แต่ก็นั่นแหละ ปกติเราทำด้วยเวลา 3 คืน 3 วันครึ่ง ก็ต้องคิดดูว่าจะตัดอะไรออกไป (ซึ่งยากมาก เพราะที่แล้วๆมาเราไม่ได้ทำอะไรฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นเลย)

สาเหตุที่เราทำ salutogenesis หรือสุขภาวะกำเนิดเป็น workshop ก็เพราะว่าเรื่องนี้จะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราจะเอาออกมาแค่นิยาม definition โดยที่ไม่ได้สัมผัสรับรู้ด้วยตนเอง เหมือนกับจะศึกษาแกงส้มแต่ไม่ยอมชิมยังไงยังงั้น ไม่มีทาง "เข้าใจ" ไม่ต้องไปพูดถึง "เข้าถึง" แต่ข่าวดีก็คือ "สุขภาวะกำเนิด" นั้นทุกคนมีติดตัวมากันทั้งนั้น

กระบวนการแรกทีี่ทำก็เลยเป็น "ทำให้เห็น (seeing)"

ความสุขมีอยู่รอบตัวเรา หรือพูดอีกแบบ ตัวเรานั้นคุกรุ่นด้วยกลิ่นอายแห่งความสุขเกือบตลอดเวลา เพียงแต่เราอาจจะเผอเรอทำตัวหัวสูง ทำให้เรามีความสุขยากขึ้นเยอะกว่าที่ึควรจะเป็น จะยิ้่มดี เดินที ต้องไปสถาบันจอห์น โรเบิรต จูเลีย เอโจลีนา อะไรนั่นมาบอกว่ายิ้มสักกี่องศาจึงจะสุภาพ เห็นฟันกี่ซี่จึงจะเป็น humanized ถ้าเกิดกว่านี้จะกลายเป็นชิมแปนซีไปหรืออย่างไรไม่ทราบ การยิ้ม การเดิน กลายเป็นเรื่องยากไป ไม่ต้องไปพูดถึงมีความสุข

ผมยังใช้สื่อเป็น clips ต่างที่หาได้ทั่วไป คราวนี้ก็ใช้คลิป pantene ที่นักแสดงสาวหูหนวกแต่อยากเล่นไวโอลินนั่นแหละ (ลูกสาวๆผมชอบมา พอเล่นปุ๊บ จะออกมานั่งพูดพร้อมกันทั้งบ้าน "เป็นเป็ดแล้วยังอยากจะบิน เป็นคนหูหนวกแล้วจะเล่นไวโอลิน เธอจะบ้าาาาาาเรอออะะะ" กระแทกเสียงด้วยความสะใจในความเป็นตัวร้าย เห็นพ้องต้องกันว่าไอ้ตัวเสียงแบบเนี้ย ไม่เอา หึ หึ)

ลองเขียนชิื่อคนที่เรารักมากที่สุด คนที่รักเรามากที่สุด วาดรูปแสดงเป็นสัญญลักษณ์ของคนๆนี้ แล้วแบ่งกลุ่ม 4 คน เล่าเรื่องคนๆนี้ให้เพื่อนฟัง เล่าให้ฟังด้วยว่าเราทราบได้อย่างไรว่าเรารักคนๆนี้มากที่สุด หรือคนๆนั้นรักเรามากที่สุด และเราเคยทำอะไรให้เขาทราบไหมว่าเรารักเขา หรือเขาทำอะไรเราจึงรู้ว่าเขารักเรามาก

หลังจากนั้นก็เข้าเรื่องสิ่งที่เราแต่ละคนได้ "ทำ" สิ่งที่ภาคภูมิใจ นึกถึงทีไรหัวใจพองโต  ขอให้เป็นประสบการณ์ตรง ที่เราได้ทำ ได้เจอะเจอ ได้มีส่วนร่วมด้วยโดยตรง เล่าให้กลุ่มฟัง

จากนั้นก็เป็นช่วง honor ตัวประกอบยอดเยี่ยม ในเรื่องราวแห่งชีิวิตของเรา ถ้าเราตั้งใจที่จะมองหา เรามักจะเจอ unsung hero หรือ heroine ซ่อนตัวอยู่เสมอ คนที่เราไม่เคยให้นำ้หนัก แต่คนเหล่านี้หากปราศจาก งานที่เราภาคภูมิใจก็จะไม่ออกมาอย่างที่เป็นได้เลย  เราลอง list รายชื่อ หรือนึกถึงใบหน้าผู้คน "หลังฉาก" เหล่านี้ และหากคนๆนี้กำลังนั่งอยู่ข้างหน้าเรา เราจะอยากพูดว่าอะไร กล่าวว่าอะไร

ตลอด workshop ผมจะขอให้ผู้เข้าร่วมประเมินตนเองสามประการเป็นช่วงๆ คือ 1. เรามีสมาธิอยู่กับกิจกรรมนั้นๆมากเพียงไร ให้คะแนน 0-10 และ 2. เรามีการรับรู้ว่าเรา "รู้สึก" อย่่างไรเพียงไร รู้ว่าเราเบื่อ รู้ตัวว่าตื่นเต้น รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังเศร้า กำลังดีใจ ฯลฯ และ 3. เราให้คะแนนการเรียนรู้ในช่วงชีวิตเมื่อสักครู่เราแค่ไหน ไม่ได้เรียนอะไรเลย หรือเรียนมาก

สุดท้ายก็เป็นการสะท้อน

บางท่านก็สะท้อนเป็นเรื่อง บางท่านสะท้อนเป็นภาพ ท่านนี้สะท้อนภาพหัวใจหลายดวงอยู่ในหัวใจหนึ่งดวง

ต้นทุนในเบื้องต้นนี้ก็จะเป็นการมองหา

  • สิ่งที่เรามี
  • สิ่งที่เราทำ
  • และสิ่งที่เราเป็น

ได้อะไรแค่ไหน คงจะต้องฟังจากผู้เข้าร่วมกันเอง แต่สำหรับกระบวนกรแล้วมีความสุขทีเดียวครับ

คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 414439เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2010 17:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • กำลังรออ่านเลยครับ
  • ห้องแคบจริงๆๆด้วยครับ
  • ไปมาเมื่อวาน
  • เสียดายอดพบคุณหมอ
  • เอาภาพมาแจมก่อนนะครับ
  • ลืมไปว่าภาพไม่มีชีวิต
  • เอามาใหม่
  • งาน HA เดือนมีนาคม ปีหน้าจะได้อยู่วันเดียวกันไหมเนี่ย ผมจะอาสาไปเป็นผู้ช่วยหน้าตาดี
  • ฮ่าๆๆ

JJ โชคดี ได้กอดอาจารย์ด้วย อะ

ดีใจที่ได้เจออาจารย์อีกครั้งหลังได้เจอที่ Salutogenesis and self transcendence workshop เชียงใหม่เมื่อ พ.ยที่ผ่านมา

ได้มีโอกาสใช้บทเรียนในสมุดบันทึกอยู่เกือบทุกวัน...ขอบคุณที่ให้ความหมายดีดีในชีวิตพวกเราค่ะ

เสียดายที่ผมหมด quota ออกจาก ม.อ.เดือนนี้ไปครับ มิฉะนั้นอยากจะอยู่ทั้งสามวันจะได้เจอะเจอกัลยาณมิตรจำนวนมาก นี่มาได้แค่วันเดียว

งาน HA สงสัยจะได้อยู่ตลอด แต่เกรงว่าแม่ต้อยจะจับอยู่ห้องเดียวตลอดงานซะรึเปล่าเนี่ย หึ หึ

สวัสดีครับคุณ oraphan

ดีใจที่ได้พบสิ่งเป็นประโยชน์ครับ มีเรื่องอะไรดีๆกลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

คำถามที่อาจารย์ใช้ถาม..ดูดีนะคะ

ทำให้เราได้คิด...สิ่งที่เราอาจลืมคิดถึงค่ะ 

ขอบคุณครับอาจารย์ ^_^

เสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสไปเข้าห้องนี้เมื่อวานนี้

แต่ดีใจมากกว่าที่ได้ให้โอกาสเพื่อนที่โรงพยาบาลอีก 2 คนไปเข้าแทน

เชื่อว่าเค้าต้องได้รับสิ่งดีๆแน่นอน แล้วเราจะกลับมาทำโรงพยาบาลให้น่าอยู่ด้วยกัน

  • เสียดาย...ไม่ได้เข้าห้องนี้ ติดห้องเหนือชั้นคุณภาพ...จากงานวิจัยค่ะ
  • ถ้ามีโอกาสจะไปกินแกงส้มให้ได้ ใครมาเล่าก็คือฟังเขาเล่าหลังกินแกงส้ม

คุณ kumfun,

หึ หึ พี่โกมาตรมีการมาหาว่าเราแย่งแฟน เห็นชัดๆว่าแกแย่งแฟนจากห้องผม นี่ขนาดไล่แจกหมอน แจกถั่วนะนี่

เสียดายที่ไม่ได้เข้าฟังห้องอาจารย์  เนื่องจากลงทะเบียนไม่ทัน แหะๆ

แต่ก็ได้ติดตามอ่านจากบล๊อกเกอร์หลายๆท่าน...นี่คือความงามและคุณค่าของ G2K

  ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขตลอดปีและตลอดไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท