หนึ่งประสบการณ์ หนึ่งการเรียนรู้
หลังจากห่างหายการเขียนบันทึกไปพักใหญ่ ๆ ด้วยข้ออ้างที่ไม่ควรอ้างเลยคือไม่มีเวลา แต่วันนี้มีเรื่องที่ควรค่าแก่การเขียนบันทึกไว้ก็เลยรีบกลับมาเขียนทันทีที่ทำงานเสร็จ
ก่อนอื่นชื่อบันทึก หนึ่งประสบการณ์ หนึ่งการเรียนรู้ เป็นคำที่อาจารย์ของผมคือดร.ศิริรัตน์ ศรีสอาดได้พูดกับผมบ่อย ๆ ไม่ว่าผมจะทำถูกหรือทำยังไม่ถูก(เพราะไม่ใช่ทำผิด ก็เลยไม่ใช้คำนี้) ต่อมาผมก็ได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกในการเรียนกับรศ.ดร.นาตยา ปิลันธนานนท์ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ยังอยู่ในใจผมตลอดมา (ตอนนี้ผมเข้าใจดีแล้วครับอาจารย์) ก็เลยใช้ชื่อนี้ เพื่อเตือนตัวเอง
หนึ่งประสบการณ์หนึ่งการเรียนรู้ในวันนี้คือการได้เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา อักษรย่อ ครุยวิทยฐานะและครุยประจำตำแหน่ง ซึ่งเป็นร่างกฤษฎีกาใหม่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
วันนี้มีคิวชี้แจงเวลา 14.00 น. ผมได้เดินทางไปก่อนล่วงหน้า เพื่อไปรับครุยตัวอย่างที่ร้านโชติพันธ์ วันนี้ไม่มีอะไรยุ่งมากนัก ก็เลยนั่งรถเมล์ไปลงที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินชมบรรยากาศมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เดินไปเรื่อย ๆ จากหน้ามหาวิทยาลัยก็ทะลุไปด้านหลัง ออกไปทางท่าพระจันทร์ รับครุยเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมา ทะลุอีกประตูหนึ่ง ก็เดินทางมาถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาถึงตั้งแต่เวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่ก็เชิญเข้าไปที่ห้องรับรอง
นั่งเตรียมข้อมูลไปพลาง สรุปสาระสำคัญของแต่มาตราที่จะต้องชี้แจง ด้วยความรู้สึกกังวล เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน อีกอย่างหนึ่งก็มีประเด็นครุยวิทยฐานะของระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยเสนอเข้ามา แต่ทราบว่ายังไม่เคยมีที่ไหนผ่านการพิจารณา เมื่อเข้าไปนั่งในห้องสักสิบห้านาที แต่มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องรับรองและได้พูดคุยกัน(ตอนหลังทราบว่าชื่อคุณนิเวช) คุยกันไปเรื่อย ๆ อย่างสนุกสนาน ทั้งเรื่องกฏหมาย เรื่องในพื้นที่สามจังหวัด คุยกันตลอด จนถึงเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง ก็เลยถามไปว่าพี่ครับ เวลาชี้แจงเค้าเอาจริงเอาจัง ซักกันถึงขนาดไหนครับ ผมกังวลเล็กน้อย พี่นิเวชยิ้มแล้วบอกว่าไม่ต้องกังวล พี่เป็นประธานพิจารณาเอง แล้วก็ชวนให้เข้าห้องประชุม เพื่อรอกรรมการคนอื่นๆ
เข้ามานั่งรอ ณ ห้องประชุมพระยามานวราชเสวี สักพักก็มีตัวแทนจากสกอ.มาสองคน แล้วก็เริ่มประชุม การประชุมเริ่มต้นด้วยประธานให้ผู้มาชี้แจง กล่าวถึงหลักการ เหตุผลและการดำเนินการได้มาซึ่งร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ นี่คือสิ่งที่ผมไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เพราะมัวแต่อ่านรายละเอียดในแต่ละมาตรา แต่โชคดีที่ได้เข้าประชุมทั้งในส่วนของสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหารและประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อรับหลักการ โหวตเสียงว่าจะเลือกครุยแบบไหน ก็เลยอธิบายไปได้พร้อมกับเหงื่อตกเล็กน้อย เฮ่อ..เกือบไปแล้วมั้ยล่ะเรา
หลังจากนั้นกรรมการก็พิจารณาทีละมาตรา โดยให้พิจารณาร่างที่กฤษฎีกาปรับแก้มาให้แล้ว พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลตามข้อมูลจริงและยอมรับได้ จึงใช้เวลาไม่นานนัก หลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบความถูกต้องตามพรบ.ที่เกี่ยวข้องและผมขอเพิ่มเติมไปบางประเด็นตามกฏหมาย ซึ่งกรรมการก็ไม่ว่าอะไร ตัวแทนสกอ.ก็บอกว่าทำมาได้เรียบร้อยดีมาก ใช้เวลาไม่นานนัก
ในมาตรา 4 มีประเด็นครุยของประกาศนียบัตรและประกาศนียบัตรชั้นสูง ผมได้ชี้แจงเหตุผลตามที่ได้รับฟังจากนักศึกษาและอธิการบดีฝากประเด็นไว้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่เสนอ แต่ขออนุญาตยังไม่เขียนเพิ่มเติม เนื่องจากกฤษฎีกาขอพิจารณาลำดับของมาตราและบางประเด็น ตอนแรกว่าจะโพสต์รูปครุยไว้ แต่อาจจะยังไม่เหมาะสม รอให้เรียบร้อยก่อนนะครับ
ความเห็น (8)
- ตามมาเรียนรู้
- ไม่ทราบว่าอาจารย์มากรุงเทพฯ
- อดเจอเลย
- เป็นประสบการณ์จริงๆๆด้วยครับ
ขอบคุณอาจารย์ขจิตครับ มาประชุมสกอ.เมื่อวันจันทร์ถึงวันพุธ แล้วก็รอชี้แจงวันนี้แหละครับ จะกลับยะลาวันอาทิตย์นี้ครับ
ไม่ทราบผลเป็นเช่นไรหรือครับอาจารย์ และจะใช้ทันปีนี้ หรือเปล่า
ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างให้คณะกรรมการกฤษฎีกานำเสนอคณะกรรรมการชุดใหญ่ แล้วส่งประกาศมาให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบ ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบและประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาครับ ถึงจะมีผลบังคับใช้
เมื่อไหรือาจารย์จะเอาตัวอย่างมาให้ดูบ้างละครับ
ตอนนี้ครูได้ตัวอย่างมาจากร้าน 2 ชุด แต่ยังไม่กล้าเผยแพร่จนกว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ เผื่ออาจจะมีการแก้ไขในขั้นตอนหลังจากที่ครูชี้แจงเสร็จแล้วครับ
ตอนนี้ครุยยังไม่เรียบร้อยนะ เมื่อวันพฤหัสบดี กฤษฎีกาโทรศัพท์มาประสานข้อมูลเพิ่มเติมจ้า รออีกหน่อยนะ
จะรอตามคำบอกของอาจารย์ อย่าลืมดูแลสุขภาพด้ย