มิใช่ความอิจฉา และหาใช่อกุศลจริตไม่
ที่ครูวุฒิอาจรู้สึกไม่ใคร่ยินดียินร้ายกับ “ความสำเร็จ” ในลักษณะนี้
เพราะครูวุฒิเห็นว่า “ความสำเร็จ” เหล่านี้ ยังประโยชน์ให้ประเทศชาติน้อยมาก
และกลับจะขาดทุนซะด้วยซ้ำ
เพราะกว่าจะได้มาซึ่ง “เหรียญรางวัล” แต่ละเหรียญ
ประเทศชาติต้องลงทุนมหาศาลตลอดมาทุกปี
ต้องสร้างอะไรต่อมิอะไรขึ้นมารองรับมากมายก่ายกอง
ทั้งสิ่งก่อสร้าง คน และระบบบริหารจัดการ
หลายชนิดกีฬาต้องจ้างโค้ชจ้างผู้ฝึกสอนมาจากต่างประเทศในราคาแพง
เงินตราไหลออกนอกประเทศโดยไม่จำเป็นมากมายหลายพะเรอเกวียน
สุดท้าย “สำเร็จประโยชน์” แก่บุคคลเพียงไม่กี่คน
หาใช่ “ประโยชน์ประชาชาติ” หรือ “ประโยชน์แท้แห่งหมู่ชน” ไม่
ขอโทษ....!
บางครั้งครูวุฒิเห็นอดีตนักกีฬาทีมชาติ
กลายเป็นขโมยขโจรปล้นคนอื่นเพื่อยังชีพในท้ายที่สุดก็หลายคน
และอีกหลายคนขายค้ายาบ้ายาไอซ์ไปโน่นเลย
นั่นมันแสดงถึง “การส่งเสริมที่มิได้เอาเหตุผลอันเหมาะควร” เป็นตัวตั้ง
แต่กลับไปเอา “ความใฝ่ฝันอันเปราะบาง” และ “ความสนุกสุขสนานชั่วประเดี๋ยวประด๋าว”
มาเป็นแก่นสารสาระสำคัญของชีวิต
ขอทุกท่านโปรดตริตรึกสักนิดเถิดว่า
สภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยยังไม่น่าจะถึงขั้น “อุดมโภคา”
ที่เราอาจอุปโภคและบริโภคกันอย่างเอิกเกริกเช่นเดียวกับ “ฝรั่ง บัง ยุ่น”
ที่เขาทำงานสั่งสมความมั่งคั่งมาแล้วอย่างยาวนาน
*********************
แต่สำหรับประเทศไทย
โดยเฉพาะในส่วนของ “เกษตรกร” ทั้งชาวไร่ชาวนา
ผู้ซึ่งได้รับคำยกยอปลอบใจว่า “กระดูกสันหลังของชาติ”
เกือบร้อยทั้งร้อย ต่างก็ตรากตรำทำการงานในอาชีพมาอย่างยาวนาน
ผ่านการฝึกฝนลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานท่ามกลางความรู้ไม่เท่าทันมาแต่ครั้งบรรพชน
ซึ่งเราจะเห็นรากเหง้าและดอกเหงื่อของพวกเขา
ผลิดอกอกผลออกมาเป็นอาหารของกินของใช้หล่อเลี้ยงผู้คนทั้งประเทศ
และส่งออกเป็นสินค้านำเงินตราเข้ามาพัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองได้ในระดับหนึ่ง
แต่ที่เห็นและเป็นมา เกษตรกรส่วนใหญ่ต่างก็ประสบชะตากรรมอย่างที่ทุกท่านเห็นเป็นประจักษ์
ถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมจากความรู้ไม่เท่าทันจนเสียไร่เสียนา
ซึ่งนั่นก็หมายถึงการสิ้นอนาคต และเทือกเถาเหล่ากอวงศ์ตระกูลลงไปด้วย
โดยเราจะเห็นได้จากการที่หลายคนผูกคอตาย ณ กลางนากลางไร่เพราะไร้ทางออก
อนาถไหม?......ครับท่าน.......
***********************
แต่ท่ามกลางวิกฤติการณ์อันน่าเศร้าของเกษตรกรไทย
เกษตรกรเลือดนักสู้หลายท่านหลายคนก็ยังไม่สิ้นความหวัง
ได้เพียรพยายามแสวงหาแนวทางอันเหมาะสมในการงานอาชีพกสิกรรม
สร้างทางเลือกทางรอดให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ
หลายท่านวาดหวังไว้เพื่อเป็นแบบอย่างและมรดกตกทอดสู่ลูกหลานเหลนโหลนในอนาคต
เพื่อที่พวกลูกหลานจะได้อยู่อย่างพอเพียง และนำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ซึ่งครูวุฒิมองเห็นหลายท่านหลายคน
เช่น พ่อมหาทองอยู่ , พ่อเล็ก กุดวงศ์แก้ว , พ่อผาย สร้อยสระกลาง , พ่อใหญ่ดาบฯวิชัย สุริยุทธ
พ่อสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ , พ่อคำเดื่อง ภาษี , พ่อวิบูรณ์ เข็มเฉลิม
และอีกหลายๆท่านทั้งรุ่นเก่าและใหม่ ที่ครูวุฒิไม่สามารถกล่าวนามได้ทั้งหมด
ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแต่มีผลงานที่ทรงคุณค่า
ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ และวิทยาศาสตร์(สิ่งแวดล้อม)
ทุกผลงานของทุกท่านสามารถปลุกพลังและสร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับเหล่าเกษตรกร(หัวก้าวหน้า)อย่างมากมายหลายหลากคน
และส่งผลดีต่อเนื่องถึงคุณภาพชีวิตของคนไทยและคุณภาพสิ่งแวดล้อมโลกในภาพรวมเหลือคณานับ
นี่สิ “ฮีโร่ตัวจริง” ที่ควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูและส่งเสริมสนับสนุน
**************************
ในมิติทัศน์ของครูวุฒิเองแล้ว มีความเห็นว่า
134 ล้านบาท
แบบที่รัฐบาลท่านอัดฉีดเป็นกรณีพิเศษแก่ทัพกีฬากวางโจวเกมส์ในครั้งนี้
หากนำมาสนับสนุนงานการรสร้างเกษตรกรต้นแบบ
“การบริหารจัดการไร่นาสู่ความมั่งคั่งยั่งยืน”
(ซึ่งหากสนับสนุนรายละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ในพื้นที่ ๕ ไร่ ต่อเกษตรกร ๑ ครัวเรือน
จะได้ถึง ๖๗๒ ครัวเรือน)
ทั้งนี้ โดยผ่านกระบวนการระดมสมอง ภูมิปัญญา และประสบการณ์
ของ “ฮีโร่ อ้อฟ แอคจี้คัลเจอร์ เกมส์” ดังได้กล่าวแล้วเหล่านี้
ซึ่งครูวุฒิเชื่อมั่นอย่างสูงว่าจะ.......
“ยังประโยชน์แก่หมู่ชนประชาไทยโดยรวม”
ทั้งโดยทันทีและวันหน้า
ไม่เชื่อก็ลองดูสิครับ.......
**************
สวัสดีค่ะครูวุฒิ
เป็นสังคมไทยๆ ความคิดแบบไทยๆ ก็เลยเป็นประเทศกำลังพัฒนาแบบไทยๆ น่ะค่ะ แล้วจะมาเขียนต่อนะคะ มาเกริ่นก่อนเที่ยงค่ะ
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ
สิ่งที่คุณครูกล่าว มันคือ "สิ่งที่เป็นจริงในสังคม" ครูต้องขายความจริง ถูกต้องอย่างยิ่งครับ ทุกวันนี้คนหมู่มากของสังคมไทยเราเข้าไปสู่จุดที่เรียกได้ว่าลุ่มหลงในสิ่งที่เป็นความเชื่อ แบบชนิดที่ไม่พิจารณาหาคุณค่าที่แท้จริงกันเลยครับ สิ่งที่คุณครูไดนำเสนอมาเป็นความจริงแท้ที่มีคุณค่าแท้ เป็นแก่นแท้ ไม่ใช่เปลือกที่ห้อหุ้มอยู่ภายนอก
แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจครับคุณครู คนที่พูดจริงทำจริง นำเสนอความจริง กลับเป็นเหมือนแกะขาว ในฝูงแกะดำ ความคิดที่ไม่เหมาะไม่ควรแต่ถ้ามาจากความเห็นของคนหมู่มาก กลับเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ ถึงแม้จะเห็นๆกันอยู่ว่าผิดแต่ไม่มีใครกล้าแสดงความเห็นออกมา ยอมเออ ออ ตามน้ำกันไป เพราะถ้าใครแสดงออกมา คนนั้นแหละเป็น "แกะขาว" ที่จะคอยถูกเจ้าหัวหน้าแกนนำแกะดำคอยจ้องเล่นงาน ปิดกันโอกาสทุกวิถีทางชนิดว่า "ไม่ต้องได้เกิด" กันเลย
ถึงอย่างไรก็ตามผมก็ยังมีความเชื่อมั่นตลอดมาครับว่า การที่เราสร้างเหตุที่ดี ย่อมต้องได้ผลที่ดี "คนทำดี ต้องได้ดี" ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ใช่ในบริบทนี้ ก็อาจเป็นในบริบทอื่น ก็ได้ครับผม
ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
เอาถั่วเหลืองมาฝาก ปลูก ครับ
เพื่อลดการนำเข้า
สวัสดีท่านครูวุฒิค่ะ เป็นความคิดที่มองภาพของสังคมไทยวันนี้ได้เป็นอย่างดี