ผมคิดว่ามีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่มีความรู้สึกดังนี้
จะว่าไปผมแอบเก็บความรู้สึกนี้ไว้หลายครั้งคราวเมื่อมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมแล้วต้องเผชิญกับความยุ่งยากใจในลักษณะเช่นนี้
ที่ไม่เอ่ยปากออกไปแสดงให้ใครต่อใครได้ล่วงรู้ ก็เพราะคิดไปเองว่าคนอย่างผมซึ่งมีความรู้สึกนึกคิดเยี่ยงนี้ไม่น่าจะปรากฏอยู่ในแวดวงการนี้ เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ
ความอึดอัดลำบากใจที่ผมกล่าวถึงนั้นก็คือ “การนั่ง ยืนและเดินย่ำไปผืนผ้าขาวซึ่งใช้ต่างเสื่อปูทั่วทั้งบริเวณที่ใช้เป็นสถานที่พูดคุยจัดประชุม”
กำพืดพื้นเพผมมาจากบ้านนอกคอกนา แม้ว่าผมจะเป็นชาวเขาครึ่งหนึ่งแต่อีกครึ่งหนึ่งก็เป็นลูกชาวนา ขนบ การปฏิบัติและมรรยาทต่าง ๆ ถูกอบรมสั่งสอนจากปู่และย่า
ปู่และย่าผมเป็นชาวพุทธที่เลื่อมใสพุทธศาสนาเช่นเดียวกับชาวบ้านโดยทั่วไป
มีข้อห้ามจำนวนมากที่ปู่ย่าบอกให้ผมและน้อง ๆ ยึดถือปฏิบัติ เช่น ห้ามเหยียบและเดินข้ามข้าวโดยเฉพาะข้าวสุก หนังสือรวมถึงกระดาษต่าง ๆ ที่มีตัวหนังสือ ไม่ให้นั่งทับหรือเดินข้ามหมอน เดินบนเรือนก็มิให้เดินลงส้นมีเสียงดัง รวมทั้งการเดินเหยียบ ข้าม นั่งหรือนอนบนผืนผ้าขาว ฯลฯ
ผมค่อนข้างใกล้ชิดกับย่า และมักจะตามย่าไปวัดอยู่เสมอ กระทั่งผมสามารถอาราธนาและท่องศีล ๕ ได้ตั้งแต่ยังไม่ถึง ๑๐ ขวบ
เมื่อเวลาไปวัดย่าจะมีผ้าขาวอยู่ผืนหนึ่ง ย่าจะใช้ปูพื้นกราบพระ ผมเห็นหลายครั้งที่ย่าใช้ปูพื้นแล้วให้พระเหยียบลงบนผ้าขาวผืนนั้น
ในวัยเด็กของผมนั้น ผ้าที่เป็นสีขาวที่ผมพบเห็น นอกจากจะเป็นเสื้อนักเรียน และเสื้อของปู่-ย่าที่เอาไว้ใส่เฉพาะไปวัดหรืองานบุญ ก็มีผ้าขาวที่ย่านำติดตัวไปวัดนั่น มิได้มีนอกเหนือไปกว่านั้น ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ไม่พบเลยว่าเป็นสีขาว
ผ้าสีขาวที่ผมเห็นใช้บ่อยในวิถีชีวิตของชาวบ้านคือ การใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มในการบวชนาค ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มของนาคในยามที่อยู่วัดเพื่อรอรับการบวช
ผ้าสีขาวจึงมีสถานะที่พิเศษกว่าผ้าสีอื่น จะเรียกว่าเป็นสะพานเชื่อมบุญก็ว่าได้
ผมจำครั้งแรกที่นอนโรงแรมได้ สิ่งที่ทำให้อึดอัดขั้นนอนไม่หลับคือการนอนลงไปบนที่นอนที่มีผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ผ้าห่มก็ถูกหุ้มด้วยผ้าขาวเช่นกัน กว่าจะเคยชินก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยากหนักหนา เพราะการกระทำดังกล่าวก็มิใช่การกระทำที่จะเข้าข่ายการลบหลู่
แต่สิ่งที่ทำใจยากยิ่ง คือเรื่องที่ผมเกริ่นนำไว้
คราวแรกที่ผมเผชิญกับความรู้สึกนี้คือการเข้าร่วมประชุมหนหนึ่ง การพูดคุยเป็นการนั่งพื้น พื้นถูกปูด้วยผ้าขาวเต็มทั้งบริเวณ จำได้ว่าผมไม่มีจิตใจที่จะประชุมพูดคุย และเมื่อนั่งลงแล้วผมก็พยายามเดินไปมาให้น้อยที่สุด ด้วยไม่อยากเหยียบย่ำไปบนผ้าขาว
ผมทราบว่ามีการจัดประชุมเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ และได้รับความนิยมเป็นอันมาก
ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมในลักษณะนี้อีกสองสามครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็ไม่สามารถก้าวข้ามให้พ้นจากความรู้สึกนี้ได้ คราวนี้ก็เช่นกัน
การประชุมที่ผมเพิ่งไปร่วมมานั้น จัดประชุมให้ผู้เข้าร่วมนั่งกับพื้น โดยปูผ้าขาวต่างเสื่อบนพื้นพรม สิ่งที่ทำให้ผมไม่ลำบากใจนักคือผ้าขาวมิได้ปูเต็มพื้นห้องประชุม บริเวณด้านข้างและด้านหน้ายังพอมีพื้นที่ที่ผมไม่ต้องเดินย่ำไปบนผ้าขาว
คราวที่กลุ่มถูกแบ่ง และผมต้องไปทำหน้าที่ในกลุ่มย่อย ผมใช้เหตุผลหนึ่งเพื่อนำสมาชิกกลุ่มย่อยของผมออกมานั่งคุยนอกผืนผ้าขาว
หลังการประชุมเสร็จสรรพ พวกเราทีมงานนั่งคุยกันเพื่อสรุปงาน ผมแอบบ่นดัง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยผมสังเกตุว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมอย่างน้อยสองคนที่น่าจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับผม อากัปกิริยาก็ไม่ต่างจากผมคือ พยายามเลี่ยงไม่เดินเหยียบผ้า และหลีกเลี่ยงไม่นั่งทับบนพื้นที่มีผืนผ้าขาวปูอยู่
การบ่นของผมเป็นผลเมื่อเพื่อนร่วมงานอีกสองคนเห็นด้วยและรู้สึกเช่นเดียวกับผม เพียงแต่เขาเก็บความรู้สึกได้ดีกว่า
อย่างน้อยผมก็ยังมีเพื่อนที่มีหัวอกเดียวกัน...
โห...
อาจารย์ขจิต เล่นดักคอยังงี้ผมก็หมดมุขเลย
ดีใจจังคันหลังก็ลาว เอ้ย ! มีคนที่คิดรู้สึกเหมือนกัน
แหะ แหะ แบบว่าบ้านนอกคือกันเลยนิอาจารย์นิ...
ขอบคุณที่ช่วยพิสูจน์อักษรครับ...
พี่ใหญ่เข้าใจความรู้สึกของสองหนุ่มค่ะ..มาให้กำลังใจ
..ต้นบวบงูออกดอกแล้ว..ท่านเบอร์1.และ2.ให้เมล็ดพันธุ์..
ไม่ทราบจุดประสงค์ของคนจัดงานที่นำผ้าขาวมาปูให้นั่งเนาะ
ขนาดสีขาวที่อยู่กับตัวเรายังต้องระวังแล้วระวังอีก..
อ้าว...เขามีการพิสูจน์อักษรด้วยหรือนี่
มีความรู้สึกเหมือนกับท่านคห. ๑ และ๒ ค่ะ แต่โชคดีส่วนใหญ่นั่งบนดิน หิน ทราย ใต้ต้นไม้กัน :)
ส่วนใหญ่โรงแรมสถานที่หรูๆ คิดว่าช่วยให้ดูดี และผ่อนคลายกระมังคะ ถ้าบ้านนอกๆ ก็ไม่เคยเห็น .. อีกทั้งผ้าขาวเจอเขรอะจุดเดียวก็เปลี่ยนทั้งผืน สิ้นเปลืองพลังงานต่างๆ หลายค่ะ :)
เป็นบันทึกชวนคิดได้หลายประเด็นจริงๆ ขอบคุณค่ะ ฝันดีนะคะเฌวา :)
วัฒนธรรมที่ยังจำยังระลึกได้
ถึงจิตสำนึก และจิตใต้สำนึก
เป็นการปลูกฝังที่ดีมากขอรับ
สวัสดีครับ
ห้องประชุมผมเป็นคนร้องขอในการจัดบรรยากาศแบบนั้นเองครับ
โดยโรงเเรมก็ไม่มีผ้าสีอื่น นอกจากสีขาว...
ผมเข้าใจความรู้สึกของหลายท่านดีครับ ว่าผ้าสีขาวโดยความรู้สึกเราก็ค่อนข้างเกร็งพอสมควร เหมือนผมที่ไม่กล้านั่ง เหยียบหนังสือพิมพ์ หรือหนังสือ
เป็นมุมมองที่ดี เเละ ความรู้สึกสะท้อนได้ดีครับ หลายคนก็ได้มุมมองในการจัดบรรยากาศไปด้วย
----------------------------------------
สำหรับผม เวทีผ้าขาวโดยความรู้สึกจริงๆไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใด เพียงเเต่เวลาเดินกลัวเปื้อนก็เท่านั้นเอง ผมมักเกรงใจคนซัก
สวัสดีคะ
แม่ต้อยเคยจัดคะ เคยถามว่ามีสีอื่นๆไหม ? เหมือนกันคะ
พอดีทางรร. เขามีความสะดวกแบบนี้ คิดแบบน้องเอกคะ ว่าตอนซักเขาทำไงน้า..
น้องเกียรติ ละเอียดอ่อนดีจังคะ ดีจริงๆคะ
สวัสดีครับพี่ใหญ่...
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมให้กำลังใจครับ...
สวัสดีครับพี่
จริง ๆ แล้วโรงแรมมีแต่ผ้าสีขาวครับ
การขัดประชุมในรูปแบบนี้มีข้อดีหลายอย่างครับ
มันช่วยลดทอนความสัมพันธ์เชิงอำนาจได้ เพราะทุกคนนั่งพื้นเหมือนกัน (อันนี้ผมจำเขามาพูดอีกทีครับ)
ซึ่งผมก็เห็นด้วย
เรื่องผ้าขาวเนี่ย น่าจะมีไม่กี่คนหรอกครับที่อิกลิกใจ
สวัสดีครับอาจารย์
คนบ้านนอกก็อย่างนี้แหละครับอาจารย์
ฝังใจเรื่องอะไร ๆ ที่คนเมืองมักไม่เข้าใจ แต่คนแบบนี้ก็ค่อย ๆ หายไปจนหมดแล้วครับ...
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมทักทายและแลกเปลี่ยนนะครับ
สวัสดีครับ
ผมเห็นด้วยกับบรรยากาศการพูดคุยแบบนี้ครับ
จะว่าไปแล้วความรู้สึกอย่างผมเนี่ยเป็นเรื่องที่จะต้องก้าวพ้นไปให้ได้
เพราะอย่างไรเสียก็ต้องพบปะอยู่อีกเรื่อย ๆ ครับ และก็ไม่คาดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร
ที่สะท้อนมาเพราะรู้สึกว่ามีบางคนคิดแบบเดียวกัน
แหะ แหะ ประมาณว่าหาพวกหนะครับ...
ดีทั้งสองมุมมองครับ
ผมเองก็เหมือนถูกคุกคามจากภาพเช่นนั้น
ก้าวข้าม- แต่ไม่พ้น
ขอบคุณครับ
เด็กบ้านนอกมารายงานตัว บ้านนอกๆๆ ฮ่าๆๆ
ฮ่า ฮ่า บ้านนอกคือกันครับอาจารย์ขจิต...
โชคดี ที่ยังไม่เคยพบหรือเห็นเหตุการณ์นี้ “การนั่ง ยืนและเดินย่ำไปผืนผ้าขาวซึ่งใช้ต่างเสื่อปูทั่วทั้งบริเวณที่ใช้เป็นสถานที่พูดคุยจัดประชุม” เคยเฉพาะนั่งเพราะเดี๋ยวนี้จัดประชุมที่ใหนๆก็จะมีปลอกผ้าขาวมาสวมเก้าอี้ให้ดูสะอาดตา และหากเก้าอี้สกปรกก็ไม่ต้องทำความสะอาดมากนัก ที่ประเทศอินเดียเขาจะตกแต่งสวยหน่อย มีคลุมทับสีขาวอีกชั้นทำให้รู้สึกไม่ขาวโพลนไปหมด (แนบเป็นไฟล์รูปให้ดูต่างหาก link ในนี้ไม่ได้ ใครช่วยแนะหน่อยค่ะ) แต่จินตนาการไปวาถ้าให้ถึงกับเหยียบย่ำคงตะขิดตะขวงใจแน่นอน สรุปคงหลีกเลี่ยงเช่นกัน
ตกใจ รูปใหญ่จังเลย งงๆมือใหม่ค่ะ เล่น blog ใส่รูปแล้วเขียนไม่ได้
ทุกครั้งที่เข้ามาอ่านเรื่องราวที่อาจารย์เขียนได้แนวคิดอะไรหลายๆอย่างบางครั้งมัวแต่ว่นวายกับงานจนขาดเวลาในการตรึกตรองหลายสิ่งหลายอย่างที่เข้ามาสัมผัสในชีวิต
สวัสดีครับพี่สาว
เมื่อ 02 ธันวาคม 2553 20:01
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ
จริง ๆ แล้วพี่สาวมีเรื่องราวที่น่าสนใจเยอะมากเลยครับ
ว่าง ๆ หาโอกาสบันทึกมาแบ่งปันกันบ้างนะครับ
มุสลิมก็ใช้ผ้าขาว ในการใช้เข้าหาพระเจ้า (การทำละหมาด) ....และใช้ผ้าขาวเมื่อถึงวันกลับไปสู่โลกหน้า..(เมื่อเสียชีวิต)..การห่อศพ..ผ้าขาวในความเชื่อของชาวมุสลิม จึงถือว่า เป็นผ้าที่สะอาด เป็นสัญลักษณ์ของความดี ความบริสุทธิ์ใจ..เห็นด้วยค่ะ กับความรู้สึกที่ไม่ค่อยดี..เมือมีการเหยียบผ้าขาว..แต่เราเองค่อนข้างโชคดี ที่ไม่เคยได้มีโอากาสเห็นอย่างที่ อาจารย์เห็น เพราะถ้าเห็น ก็คงมีความรู้สึกที่เหมือนกัน...