ถูกชมคือธรรมดา..ถูกด่าก็ไม่เลว โดย ท่าน ว.วชิรเมธี


จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

         

           

               โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

     หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าว"จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" กันมาบ้างแล้ว คำกล่าวนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของจิตหรืออีกนัยหนึ่งของความคิดได้เป็นอย่างดีว่า จิตกำหนดวัตถุ หรือกายเป็นไปตามอำนาจของจิต

ผู้รู้ท่านหนึ่งเคยกล่าวถึงความสำคัญของจิต หรือความคิดไว้ว่า

"เธอจงระวังความคิด เพราะความคิดจะกลายเป็นการกระทำ
เธอจงระวังการกระทำ เพราะการกระทำจะกลายเป็นนิสัย
เธอจงระวังนิสัย เพราะนิสัยจะกลายเป็นบุคลิก
เธอจงระวังบุคลิก เพราะบุคลิกจะกำหนดชะตากรรมของเธอ"

ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า เรามีความคิดหรือวิธีคิดอย่างไร ในทางพุทธศาสนานั้น ท่านให้ความสำคัญกับวิธีคิดเป็นอันมาก

พระนักปราชญ์ท่านหนึ่งได้ประมวลวิธีคิดในพุทธศาสนาไว้ว่ามีมากกว่า ๑๐ วิธี วิธีคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งเราควรนำมาปรับใช้ในชีวิตก็คือ วิธีคิดเชิงบวก

วิธีคิดเชิงบวก หมายถึง การรู้จักเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อสิ่งต่างๆ ซึ่งโดยมากมักแสดงตัวให้เราได้สัมผัสในแง่ลบ แต่พอเราพลิกมุมมองใหม่ เราจะได้อะไรดีๆ จากเรื่องลบๆ เหล่านั้น เช่น ในชีวิตจริงของผู้เขียนซึ่งทำงานกับคนหมู่มาก มักจะพบกับคำชมและคำด่าอยู่เสมอ ๆ เมื่อแรกเผชิญกับคำชม ผู้เขียนก็ฟู ครั้นพบกับคำด่าก็แฟบ แต่เมื่อเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อคำชมและคำด่า ก็รู้สึกว่า ได้คุณค่าจากคำด่าคำชมเป็นอันมาก

คำชมนั้น สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก ดูเหมือนว่า ไม่ลำบากใจเลยที่จะน้อมรับ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว คำชมนั่นแหละคืออันตรายยิ่งกว่าคำด่า เพราะหากเรารู้ไม่ทัน คำชมจะทำให้เราหลงตัวเองและมีโอกาสลืมตัวสูง ส่วนคำด่า ถ้าพิจารณาไม่ดีก็ทำให้เราเสียศูนย์ได้ง่ายๆ แต่หากพิจารณาอย่างลึกซึ้งด้วยวิธีคิดแบบมองโลกในแง่ดี บางทีคำด่ากลับมีค่ามากกว่าคำชม


คำด่ามีค่ามากอย่างไร ?


 (๑) คำด่า คือ กระจกเงาสะท้อนความบกพร่องของงานที่เราทำ

 (๒) คำด่า มักแฝงคำแนะนำมาด้วยเสมอ

 (๓) คำด่า บอกเราว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นหากมีคนที่คิดไม่เหมือนเราเขามองดูอยู่ เขาเห็นอะไรในสิ่งที่เรามองไม่เห็นบ้าง

 (๔) คำด่า คือ กระดาษทรายอย่างดี ที่คอยขัดสีฉวีวรรณให้เรามีความกลมกล่อมลงตัว เหมือนพระประธานที่ต้องถูกกระดาษทราย ขัดสีฉวีวรรณจนผุดผ่อง

 (๕) คำด่า ทำให้เราไม่ประมาทผลีผลามทำอะไรด้วยความเชื่อมั่นมากเกินไป

 (๖) คำด่า ทำให้รู้ว่า มีคนรักหรือเกลียดเรามากน้อยแค่ไหน

 (๗) คำด่า ทำให้รู้ว่า อย่างน้อยก็มีคนสนใจในสิ่งที่เราทำ หรืออย่างน้อย สิ่งที่เราทำมันกำลังส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงมีคนอุทิศตนมาสนใจและด่าอย่างเป็นงานเป็นการ

 (๘) คำด่า จะทำให้เราได้หันกลับมาดูภูมิธรรมของตนเองว่า เข้มแข็งมากน้อยแค่ไหน เมื่อทุกข์กระทบแล้วธรรมกระเทือน หรือกิเลสกระเทือน ถ้า ธรรมกระเทือนแสดงว่าเราฝึกตนเองมาดี แต่ถ้ากิเลสกระเทือนแสดงว่า ต้องกลับไปฝึกจิตตัวเองใหม่ให้เข้มแข็งกว่านี้

 (๙) คำด่า ทำให้เราได้รู้ว่า ในโลกนี้ไม่มีใครหนีโลกธรรม ๘ ได้ (ได้ลาภ เสื่อมลาภ,ได้ยศ เสื่อมยศ,สรรเสริญ นินทา,สุข ทุกข์)

 (๑๐) คำด่า คือ บทเรียนเรื่องการปล่อยวางตัวกูหรืออัตตาที่ดีที่สุด เพราะหากเรายังปล่อยวางตัวกูไม่ได้ เราก็จะต้องหาวิธีด่าคืนอยู่ไม่สิ้นสุด

ขอบคุณ   [email protected]

               http://variety.teenee.com/

หมายเลขบันทึก: 409723เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2010 19:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 21:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมารับธรรมะ ก่อนนอนค่ะ "ถูกชมคือธรรมดา..ถูกด่าก็ไม่เลว โดย ท่าน ว.วชิรเมธี" บุษราชอบอ่านมาก ๆ อ่านแล้วได้ทบทวนตัวเองไปในตัวด้วยค่ะ
  • ขอบคุณข้อคิดดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ

                                     

ชอบครับ ถูกชมเป็นเรื่องธรรมดา ถูกด่าก็ไม่เร็ว

กับท่าทีในการเผชิญหน้ากับชีวิต

สวัสดีค่ะ...

  • สวัสดีค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ขอให้ คุณครู tamtam1 มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง  สุข สดชื่น สมหวัง ดั่งใจปอง ตลอดปี และตลอดไปนะคะ" 
  • ขอบคุณค่ะ

                                      

มาชมมาอ่านและนำภาพพระมาอำนวยพระปีใหม่สุขสดชื่นสมหวังตลอดปี2554 ครับผม


มารับประโยชน์จากคำด่า   ประโยชน์มากมายจริงๆ

สงสัยต้องหาเรื่องให้คนด่าเยอะๆจะได้ใช้ประโยชน์ให้คุ้ม 55555

สวัสดีปีใหม่นะน้องสาว

       

ในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออารธนาบารมีพระบรมธาตุ องค์จตุคามรามเทพ พรพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จงโปรดดลบันดาลให้ท่านและครอบคร ัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญและสัมฤทธิ์ผล ในสิ่งอันพึงปราถนาทุกประการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท