เย็นวันนี้ ( 25 ก.ค.2549 ) ไปรับลูกกลับบ้านเขาทำการบ้านต่อเนื่องจนถึงค่ำ ( ทานอาหารมื้อค้ำแล้วลูกยังทำการบ้านวาดเขียนต่ออีก ) ปัญหามีอยู่ว่า ดินสอ ขนาด EE ของลูกไม่ทราบว่าไปหล่นหายที่ไหน ลูกจำเป็นต้องใช้ เห็นลูกตั้งใจเลยบอกกับลูกว่า การบ้านของลูกวิชาวาดเขียนหากจำเป็นต้องใช้ดินสอ คุณพ่อจะออกไปซื้อนอกบ้านให้ดีไหม ลูกตอบตกลง
หลังจากไปซื้อดินสอให้ลูกกลับถึงบ้าน ภรรยาเปิดโทรทัศน์ชมข่าวด่วน 21 น.เศษ ข่าวแจ้งว่า กกต. 3 ท่านที่ถูกศาลตัดสิน 10 น.วันนี้ ยังไม่ได้รับการประกัน แล้วถูกส่งตัวไปควบคุม ระหว่างรอการสั่งคำร้องของศาลฎีกา แนวโน้มจะเป็นอย่างไร ควรให้เป็นดุลพินิจของศาล เราก็คงรอฟังจากสื่อเท่านั้น ลูกพูดเล่น ๆ ว่า พ่อไม่ไปสมัครเป็น กกต.หรือ? พ่อตอบแทนทันทีว่า ไม่มีความอยาก และทุกวันนี้พ่อดีใจที่ได้ดูแลลูก กกต. เป็นเรื่องของคนมีวาสนา หรือคนที่ชื่อวาสนา คนเป็นใหญ่เป็นโต เราชาวบ้านต้องเจียมตัว คราวนี้ หากศาลฎีกา ท่านเมตตาบ้านเมืองจะมีทางออ บอกลูกว่า พ่อภูมิใจที่อยู่ดูแลลูกแบบนี้ การทำหน้าที่ดูแลความหลากหลายในทางการเมืองนั้น หากไม่แน่ใจ ไม่แน่จริง และ ไม่เที่ยงธรรม อย่าริอาจไปควบคุมดูแลดำเนินการเลือกตั้ง จะทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
ได้บอกกับลูก ๆ ว่า พ่อพวกเราอยู่บ้านนอก คงไม่มีข้อมูลเพียงพอ ทุกวันนี้ก็ ดู-ฟัง จากข่าว ฟังเขาเล่าลือ พวกเราก็ทำกันได้เท่านี้ ที่ผ่านมา แม้ว่าพ่อจะเคยไปเกี่ยวข้องดูแลการเลือกตั้ง ปี 2535 ( ตอนนั้นยังไม่มีลูกทั้งสองพอมีเวลาไปเกี่ยวข้องได้ ) ได้เรียนรู้อะไรหลายในยุคนั้น ยุคนี้ข้อมูลข่าวสารมีมาก หากเราไม่รู้จริง ชั้นของข้อมูลข่าวสารมีหลายชั้นจะลำบาก ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ พ่อขอทำหน้าที่พ่อ เพื่อดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า ขอบใจใจความหวังดี ถือว่า ลูกพูดกับพ่อเล่น ๆ กันในบ้านที่บอกว่า ให้ไปสมัคร กกต. และตามข่าวที่ลูกบอกจะสะใจไม่ได้ ลูกควรเรียนรู้ข้อมูล ข่าวสาร หลาย ๆ ด้าน
บอกลูกอีกว่า ผู้ทำหน้าที่สำคัญแบบ กกต.นั้น ควรเป็นมีผู้ความพร้อม ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองอย่างสุจริต เที่ยงธรรม ฉลาดทันเหตุการณ์ และรักษาอารมณ์ให้ได้ ไม่ทำงานเหมือนถูกครอบงำ และเรียนรู้มาตรฐานการทำงานของ กกต.ชุดก่อนหน้าด้วย หากไม่พร้อมก็อย่าไปเกี่ยวข้องให้บ้านเมืองเสียหาย ปั่นป่วน บ้านเมืองไทยเรามีคนเก่ง คนดีอยู่จำนวนมาก หากพวกเราเห็นใครเป็นคนดี สิ่งที่ทำได้ คือ ให้กำลังใจเขา ช่วยเขาเท่าที่เราจะทำได้ ช่วงที่ลูกยังเล็กอยู่พ่อ และแม่ของดูแลลูก ๆ ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ก่อน เพื่อให้ลูกเรียนรู้ชีวิตจริง และเรียนรู้ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ.