จดหมายจากคนหาปลา...ถึง สผ. และ คณะกรรมการอ่านอีไอเอ เชฟรอน...ท่าเรือ...ขุดเจาะน้ำมัน...เขากำลังทำร้ายเรา

  

โดย ใบใผ่ลู่ลม

ที่มา ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน ฉบับที่ ๙

เมื่อนานมาแล้วบรรพบุรุษของเราได้เฝ้าดูแลรักษาและใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของท้องทะเลรักมันเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นทั้งบ้าน ที่ทำกินของพวกเขา พวกเขาฝ่าคลื่นลมไปหาปลาในท้องทะเลอันกว้างใหญ่แม้ว่ามันจะเป็นอาชีพแต่เราก็รู้ว่าคนทั้งภาคใต้และคนทั้งประเทศต้องกินปลา การออกทะเลของเราจึงมีความหมายต่อทุกผู้คน

ปลาทุกลำเรือของพวกเราล้วนใส่ความสุขลงไปในการวางอวนแต่ละครั้ง เราไม่เคยใช้อวนตาถี่เพื่อทำให้ปลาตัวเล็กรอดกลายเป็นปลาใหญ่ที่สามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุด เราต่างตระหนักว่าตราบใดก็ตามที่ท้องทะเลไม่มีปลาเราก็ไม่มีชีวิตและคนกินปลาทุกคนก็ต้องแสวงหาสัตว์อย่างอื่นมารับประทานแทนปลานั่นคงไม่มีความสุขนักสำหรับคนนับล้านคน เราล้วนมั่นใจแบบนี้เพราะว่าปลาที่ขึ้นมาจากลำเรือของเราไม่เคยเจือปนด้วยสารเคมี เราได้ทำหน้าที่ให้เพื่อนมนุษย์เสพสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับชีวิต

นานมาแล้วที่พวกเราได้ดำรงรักษาวิถีชาวเลด้วยการอยู่กับธรรมชาติแบบสมดุล แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามนานาประการ เพียงแต่เราจะต้องต่อสู้เพื่อรักษาท้องทะเลเอาไว้ โดยเฉพาะการต่อสู้กับเรือประมงพานิชย์  อวนราก อวนรุน การต่อสู้ยาวนานนับ ๑๐ปี เราก็สามารถบรรเทาปัญหาการทำลายทรัพยากรไปได้ เพราะเขาก็คือคนไทยเหมือนเราและหากปฏิบัติตามกฎหมายก็ทำให้ต่างคนต่างทำมาหากินได้

พวกเราตระหนักไปกว่านั้นว่าทรัพยากรทางทะเลได้หร่อยหรอลงไปทุกวัน เห็นว่าหากปล่อยไปเช่นนี้ไม่ดำเนินการอะไรในอนาคตก็จะไม่มีอะไรทำกิน คนก็ไม่มีอาหารทะเลกิน  พวกเราจึงรวมตัวกันทำกิจกรรมอนุรักษ์ท้องทะเลโดยเฉพาะทรัพยากรชายฝั่ง เป็นการรวมใจของชาวประมงชายฝั่งที่ดำเนินการมานับ ๑๐ ปี ทำให้ทรัพยากรในท้องทะเลเพิ่มขึ้นระบบนิเวศสมบูรณ์มากขึ้นและก่อให้เกิดกลไกและกติกาในการรักษาท้องทะเลร่วมกัน

จนกระทั่งวันหนึ่งเหมือนสายฟ้าฟาดใส่  พวกเรารับทราบว่าจะมีแท่นขุดเจาะน้ำมันและท่าเรือขนาดใหญ่มาก่อสร้างในท้องทะเลบ้านเรา พวกเราพยายามหาข้อมูลศึกษาว่ามันคืออะไรกันแน่อยากรู้ว่าเรากำลังเผชิญกับอะไร ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เจ้าหน้าที่บริษัทไม่เคยให้ข้อมูลแบบจริงจังกับประชาชนตลอดระยะเวลาเกือบ ๓ ปี   ที่มาอยู่ในพื้นที่ชุมชนสิ่งที่เขาทำก็คือไปตีสนิทกับผู้นำและคนมีอำนาจทั้งทั่วทั้งจังหวัดแต่ละเลยที่จะให้ข้อมูลกับชุมชน เราก็ไม่รู้ว่าทำไมบริษัทอเมริกาจึงยิ่งใหญ่ได้ในดินแดนประเทศไทย

จากประสบการณ์ของเพื่อนบ้านที่จังหวัดสงขลาเราได้เห็นตัวอย่างวิถีประมงพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมันนั่นเป็นเป็นสิ่งที่มิอาจเกิดขึ้นกับท้องทะเลบ้านเราเพราะมันหมายถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตคนนับหมื่นคน สัตว์น้ำที่เรามองไม่เห็นอีกนับล้านและระบบนิเวศน์ที่เปลี่ยนไปอย่างที่เราไม่อาจคาดคำนวณได้ว่าในอนาคตเราจะได้รับผลสนองอย่างไร   ต่อการกระทำของมนุษย์นายทุนข้ามชาติโดยมีคนไทยเป็นทาสรับใช้แลกกับเงินเลี้ยงปากท้อง  โดยมิต้องใส่ใจกับการทำลายคนไทยด้วยกัน

ถึงวันนี้เรารู้แล้วว่าเชฟรอน คือ บริษัทที่จะนำสิ่งแปลกปลอมมาสู่บ้านของเรา โดยที่ผ่านมาเขาใช้กลอุบายต่างๆนานาเพื่อให้คนนครศรีธรรมราชยอมรับการสร้างท่าเรือ ขุดเจาะน้ำมัน และทำคู่ขนานกับการโฆษณาสร้างภาพลักษณ์ในสื่อแทบทุกชนิด เป้าหมายของเขาอย่างเดียวคือแยกมวลชนออกเป็นสองฝ่ายโดยใช้ผู้นำในชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีความเห็นเป็นสองฝ่ายซึ่งเป็นเทคนิคที่จะทำให้การจัดทำอีไอเอผ่านไปได้ โดยไม่เคยให้ความจริงกับประชาชนเลย เวทีอีไอเอครั้งสุดท้ายคนถูกจ้างมาไม่รู้ว่ามาฟังอีไอเอ แกนนำที่ไปเกณฑ์ชาวบ้านมาบอกคนเหล่านั้นว่ามาประชุมประชาคมและให้อยู่เฉยๆไม่ต้องพูดอะไร

ประเทศไทยวิกฤติมากพอแล้วในปัจจุบัน...ยังมีบริษัทต่างชาติมาทำร้ายเราอีก ...บางทีชีวิตของพวกเราสุดที่คนนอกจะเข้าใจ    สิ่งเหล่านี้อาจจะน่าหัวเราะสำหรับคนอื่น แต่นี่คือชีวิตของเราและเรารู้ว่าการทำประมงพื้นบ้านของเราก่อให้เกิดอาหารของคนนับแสนนับล้าน  ก่อให้เกิดโรงงานผลิตอาหารมากมาย ทำให้ผู้คนมีงานทำอีกมากจากการตั้งต้นของพวกเรา เราจึงยืนยันที่จะรักษาสิ่งนี้ไว้ด้วยชีวิต

ขณะนี้เรารู้ว่าขั้นตอนของการสร้างท่าเรืออยู่ในขั้นที่ท่านต้องพิจารณาอนุมัติรายงานอีไอเอ เราเพียงแต่ขอให้ท่านใช้ดุลยพินิจของความเป็นมนุษย์ที่จะไม่ยอมให้เพื่อนมนุษย์ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันต้องมีชีวิตแบบบ้านแตกสาแหรกขาดนับพันครอบครัว  ที่นี่อาจอยู่ห่างไกลจากชีวิตท่านแต่ขอเพียงท่านพิจารณาเห็นว่าการลงนามอนุมัติของท่านครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่จะทำลายชีวิตคนนับหมื่น สัตว์น้ำนับล้านและระบบนิเวศน์ที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลท่านอาจจะรู้สึกว่าการตวัดปลายปากกาครั้งนี้สำคัญยิ่ง

สำคัญจนกระทั่งว่าในขณะนี้คนนับพันครับครัวบริเวณชายฝั่งขนอม สิชล ท่าศาลา หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช คนนับหมื่นที่เกาะสมุย เกาะพงัน กำลังเฝ้าดูการตัดสินใจของท่าน เพราะปลายปากกาของท่านคือการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับพวกเรา พวกเราขอยืนยันว่าการกระทำของบริษัทเชฟรอนและบริษัทที่ปรึกษาไม่ได้ดำเนินการศึกษาอย่างจริงจังเพียงใช้ข้อมูลมือสองเท่านั้นและไม่เคยให้ข้อมูลอย่างจริงจัง เลือกใช้การสร้างอิทธิพลกับชาวบ้านเพื่อไม่ให้ชาวบ้านแสดงออกซึ่งสิทธิในการแสดงความเห็น

เราเพียงหวังว่าท่านจะรับผิดชอบการลงนามอนุมัติอีไอเอ ด้วยการลงมาดูสถานที่จริงแทนที่จะอ่านเฉพาะรายงานเอกสารแล้วลงนามเปลี่ยนชีวิตคนจำนวนมาก   มันเป็นความรับผิดชอบพื้นฐานที่มนุษย์ผู้ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชนพึงปฏิบัติ บางครั้งความเชี่ยวชาญก็ทำลายคนและสิ่งแวดล้อมมาแล้วนับไม่ถ้วน

เราเพียงหวังว่าท่านจะพิจารณาโดยรอบคอบด้วยการใช้ความเป็นมนุษย์ให้ถึงที่สุด และเราจะเฝ้าติดตามการตัดสินใจของท่านโดยใกล้ชิด แต่จะขอยืนยันว่าเราจะปกป้องวิถีแห่งทะเล วิถีแห่งการหาปลาด้วยชีวิต เราขอยืนยันให้ท่านได้มาสัมผัสกับวิถีธรรมชาติว่างดงามเพียงไหน และเรานับพันคนจะติดตามไปถามท่านถึงบ้าน และที่ทำงาน หากว่าท่านอนุมัติรายงานอีไอเอ เพียงไปถามประโยคสั้นๆว่า “ทำไมถึงมาทำลายเรา”

มันอาจดูเป็นการกดดันท่านแต่ได้โปรดเข้าใจว่า ...ท่านตวัดปากกาแล้วได้เงิน ส่วนพวกเราพบกับความหายนะ... มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ขอท่านโปรดเข้าใจในความคับแค้นอันจำเป็นของพวกเรา

จากคนที่หาปลาเลี้ยงคนทั้งประเทศ