ตะวันกำลังเก็บกระเป๋ากลับบ้าน เป็นเวลาเดียวกับมนุษย์เงินเดือนเช่นผมกำลังจะกลับรัง เสียงเครื่องบินฮึ่มบนฟ้าช่างเป็นตัวแทนแห่งโลกไร้พรมแดนอย่างเป็นรูปธรรม และทำให้ทราบถึงแหล่งพำนักพักพิงของผมได้ไม่ยากนัก ตกเย็นอาการเหนื่อยเปลี้ยหลังจากปลุกปล้ำกับงานประจำแทบจะเป็นเรื่องปกติ ออกจากที่ทำงานถึงกล่องพัก ก็ออกไปหาข้าวประทังชีวิตที่ร้านประจำ วันนี้คนน้อย ผมแอบดีใจคงไม่ต้องรอนาน แถวที่ผมอยู่มีร้านอาหารอยู่หลายร้านเหมือนกัน แต่ถ้าวันไหนผมต้องหลบพักในเมืองหลวง ผมก็จะมาฝากท้องที่ร้านนี้เสมอไม่เคยไปกินร้านอื่นเลย ถ้าไม่นับรวมเจ็ดสิบเอ็ดซึ่งถูกใช้บริการเป็นบางครั้งจากพวกเร้ดดี้ทูอีท ช่วงนี้ร้านนี้มีลูกชิ้นขายด้วย ผมจึงสั่งลูกชิ้นมาหนึ่งไม้ ก่อนจะสั่งกระเพราหมูกรอบไข่ดาว ช่วงที่รอข้าว ลูกชิ้นที่ผ่านการอุ่นจากพี่เจ้าของร้าน ซึ่งตอนนี้อยู่ในจานใบเล็กและกำลังเดินทางมาหาผมโดยเจ้าหนูตัวน้อยที่อยากช่วยแม่นำลูกชิ้นมาให้ลูกค้าที่คุ้นหน้าอย่างผม
ผมไม่ได้สนใจมากนักแต่เหลือบเห็นว่าลูกชิ้นกำลังเดินทาง
โครม!
เสียงเหมือนอะไรสักอย่างหล่นลงพื้น พลันผมเงยหน้าขึ้นมา ก็พบภาพเด็กชายตัวน้อย หน้าตาตื่น ลูกชิ้นนอนแน่นิ่งบนพื้นพร้อมน้ำจิ้มหกเลอะเทอะก่อนจะมาถึงผมแค่ไม่กี่เท้าก้าว เจ้าหนูยังไม่หายตกใจ แม่ก็ดุว่า
'ทำไมถึงไม่ระวัง'
ก่อนที่หนูน้อยจะร้องไห้เพราะถูกตีไปหนึ่งทีพร้อมโดนไล่ให้ไปทำการบ้าน
'ไม่ต้องมาช่วยแล้ว' แม่สำทับอีกครั้ง
แม่ของเจ้าหนูรีบนำผ้ามาเช็ดพร้อมนำลูกชิ้นไม้ใหม่มาให้ผม
ผมรับลูกชิ้นไม่ใหม่ไว้พร้อมรู้สึกบางอย่างว่า ผมหรือเปล่าที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น เพราะผมสั่งลูกชิ้น แม่ของเจ้าหนูจึงปิ้งลูกชิ้นไม้นี้ให้ผม เจ้าหนูสูุงแค่เข่าผมจึงอาสาเป็นคนเดินลูกชิ้นโดยผละจากการบ้านเพื่ออนาคตของตัวเอง และ ลูกชิ้นจึงร่วงหล่นจากมือหนูน้อยโดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
รอสักพักข้าวที่สั่งก็เสร็จผมกินข้าวไปพลางคิดว่าทำไมเราไม่ทำอะไรสักอย่าง ตอนที่แม่หนูน้อยกำลังดุเจ้าหนูที่บังเอิญทำลูกชิ้นของลูกค้าหล่น ผมได้แต่นั่งดูอย่างเย็นชา จะเอ่ยปากว่า ไม่เป็นไรครับ ก็กลับนิ่งงัน ไม่กล้าไปขัดการอบรมผ่านสายใยระหว่างแม่กับลูก ไม่กล้าบอกไปว่า น้องเขาไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ อย่าดุเขาเลยนะครับ
กินข้าวไม่ทันหมดก็อิ่มเสียแล้ว
'เท่าไหร่ครับ'
มักเป็นประโยคสุดท้ายที่ลูกค้าอย่างผมมักจะปิดฉากการซื้อขายกับพี่เจ้าของร้าน
'สี่สิบห้าบาทจ๊ะ'
'รวมลูกชิ้นด้วยนะครับ' ผมกล่าวย้ำ
'สี่สิบห้าบาทจ๊ะ'
ผมส่งเงินให้พี่เจ้าของร้านพร้อมสบตาในเชิงขอโทษ เพราะผมเองรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้าหนูโดนแม่ดุ ทั้งๆที่ตั้งใจจะช่วยแม่ทำงาน
พี่เจ้าของร้านมองหน้าผมเหมือนว่าผมทำอะไรผิดปกติ
'ผมขอซื้อลูกชิ้นไม้นั้นด้วยครับ'
พี่เจ้าของร้านอิดออด ไม่ต้องการรับเงินส่วนเกินจากสินค้าที่ผมได้รับ
'รับไว้เถอะครับ ไม่เป็นไรครับ'
ผมเดินจากมา และ พูดกับตัวเองในใจ
...ถ้าพี่ไม่รับ ผมคงรู้สึกผิดที่ผมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องโดนดุ ขอบคุณพี่มากครับที่ช่วยรับน้ำใจจากผม...
อ่านบันทึกของคุณPhornphon
แล้ว รู้สึกถึงความอ่อนโยนในจิตใจของคุณ นะครับ
เพราะเพียงแค่คิด...จิตใจอันอ่อนโยนก็ได้เดินออกมาแล้ว
...
น้ำใจของคนเรา จึงแสดงออกได้หลายทางเลือก
เป็นบันทึก ที่ได้กระตุ้นจิตสำนึกของคนได้เป็นอย่างดี งดงามและขอชื่นชม ครับ
สวัสดีค่ะ
มารับความรู้สึกค่ะ งานยุ่งมากไหมน้อง ปรับตัวได้ดีแล้วนะคะ ...
กินข้าวไม่ทันหมดก็อิ่มเสียแล้ว...เห็นด้วยนะแบบนี้
ไถ่ความรู้สึกที่สูญเสียให้กลับมา ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย น้องทำถูกแล้วค่ะ
สวัสดีครับ
...
กระผมขอนำความเข้าใจนี้ ไปเป็นเครื่องเตือนจิตเตือนใจตนเองยามที่อยู่กับลูก ยามที่เลี้ยงลูกพาลูกวิ่งเล่น ว่าการกระทำของเราหรือของลูก หากเราพลั้งเผลอดุว่าโดยไม่มีความรู้สึกตัว จะส่งผลร้ายต่อจิตใจของเด็กอย่างยิ่ง เสียกำลังใจตั้งแต่ที่เด็กยังไม่ได้เจริญพอด้วยภูมิปัญญาของตน เราผู้เป็นพ่อ คงต้องระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ดุว่าลูกยามที่เขาทำเรื่องผิดผลาดเพราะความตั้งใจดีที่จะช่วยเหลือ
....
ขอน้อมนำความเข้าใจนี้ ไปใช้ให้เกิดขึ้นจริงกับตัวเองครับ
...
ขอบพระคุณมากครับ
Thank u for every comment krab
สวัสดีค่ะ
อนุโมทนา
กับน้ำใจอันงดงามค่ะ