สุขใดจะเท่าสุขของการเป็นผู้ให้


ชายแดนใต้ อุทกภัย น้ำท่วม การให้ ปัตตานี ช่วยเหลือ

สุขใดจะเท่าสุขของการเป็นผู้ให้

             ณ ขณะนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ถึงภัยพิบัติที่กำลังคุกคามชีวิตของมนุษย์ อุทกภัยเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่แล้วเป็นประจำแต่ในปีนี้ได้เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศไทยและมีความรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นมา มนุษย์เป็นเพียงอนูเล็กๆในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล มนุษย์ไม่สามารถที่จะเอาชนะธรรมชาติหรืออยู่เหนือธรรมชาติได้เลย มนุษย์เป็นผู้ทำลายธรรมชาติ ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้มานานและมากพอแล้วถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืนบ้าง ดังนั้นเราจึงต้องยอบรับโดยดุษณีย์ถึงความจริงดังกล่าว เมื่อภัยพิบัติได้เกิดขึ้นแล้วยังความเดือดร้อนมาสู่มวลมนุษยชาติในทุกพื้นที่ เราในฐานะมนุษย์ด้วยกันก็ควรหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเราเห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้รับความเดือดร้อน ไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร เป็นต้น จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นถือเป็นบททดสอบหนึ่งที่จะทดสอบความศรัทธาของมนุษย์ทั้งผู้ที่ประสบภัยและผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือ ณ วันนี้ เวลานี้ ได้มีผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยบ้างแล้ว น้ำใจคนไทยหลั่งรินมาอย่างไม่ขาดสาย ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติแก่คนไทยด้วยกัน คนไทยไม่เคยทิ้งกัน ข้อนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของไทยเหนือชนชาติอื่นๆ

             จังหวัดปัตตานีเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบทั้งอุทกภัยและวาตภัย เนื่องจากมีพายุดีเปรชชั่นได้พัดเข้าถล่มพื้นที่หมู่บ้านริมชายฝั่งของจังหวัดปัตตานี ทางคณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพได้เดินทางกลับมาจากการสัมมนาวิชาการของสถาบันพระปกเกล้า ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ เดินทางกลับถึงปัตตานีเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ พ.ย. ๕๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่ปรึกษาของคณะทำงานฯได้แจ้งให้พวกเราทราบว่ามีเพื่อนจะนำข้าวกล่อง น้ำดื่มและสิ่งของจะไปมอบให้กับชาวบ้านที่บ้านดาโต๊ะและบ้านบูดี พวกเราทั้งหมดก็ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยกัน ข้าวกล่องที่นำไปแจกนั้นได้ปรุงกันเองและนำไปมอบให้ถึงมือผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ได้เขาไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น หน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือนั้นมีหลายหน่วยงาน ซึ่งบางหน่วยงานอาจจะมีผลประโยชน์หรือเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางคณะทำงานฯเกรงว่าถ้านำสิ่งของไปสมทบกับหน่วยงานเหล่านั้นจะไม่ถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรง หรืออาจจะไปตกอยู่กับกลุ่มคนที่มีอำนาจในหมู่บ้าน พื้นที่นั้นๆเพียงบางกลุ่ม ทางคณะทำงานฯของเราจึงต้องนำเข้าไปด้วยตัวเอง บ้านดาโต๊ะและบ้านบูดีที่นำอาหารเข้าไปแจกจ่ายนั้น ประสบภัยพิบัติจากพายุดีเปรชชั่นโดยตรง หมู่บ้านที่เคยอยู่กันอย่างหนาแน่นริมชายฝั่งทะเลอ่าวปัตตานี ได้รับผลกระทบเป็นด่านแรก เนื่องจากพื้นที่นั้นเป็นหน้าด่านของจังหวัดปัตตานี หมู่บ้านหลายร้อยหลังคาเรือนได้ถูกลบไปจากพื้นที่บริเวณนั้น ภาพชาวบ้าน ลูกเด็กเล็กแดง นั่งซึมเศร้า เฝ้ามองบ้านที่อยู่อาศัยมาครึ่งค่อนชีวิตต้องมลายหายไปเพียงชั่วข้ามคืน   แต่ความช่วยเหลือก็ได้หลั่งไหลมาทั่วสารทิศ ณ วันนั้นที่ได้สัมผัสมีผู้คนมากมายมาให้ความช่วยเหลือ ขบวนรถติดยาวกันเป็นกิโลสองกิโลเห็นจะได้ ทางคณะทำงานฯเองกว่าจะเข้าไปถึงพื้นที่ในสุดก็ใช้เวลานานพอสมควร แต่เมื่อได้นำอาหาร เครื่องดื่ม ขนม นมเนย ไปแจกถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรง เข้าไปในบ้านที่ดูจะไม่เป็นบ้านเสียแล้ว ก็รู้สึกปลาบปลื้ม รู้สึกมีความสุขที่ได้หยิบยื่นอาหารให้แก่เขาเหล่านั้น ต้องขอบคุณอัลลอฮฺที่พระองค์มิได้เอาชีวิตของพวกเราไป พระองค์ให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่เพื่อที่พวกเราจะได้ช่วยเหลือและทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังประสบภัยอยู่ ณ ขณะนี้ เย็นวันนั้นพวกเราก็เดินทางกลับบ้านอย่างอิ่มเอมใจเป็นที่สุด

               ในวันต่อมา วันจันทร์ ที่ ๘ พ.ย. ๕๓ พวกเราทุกคนหลังจากตื่นขึ้นมาละหมาด ซุบฮี (ละหมาดในช่วงย่ำรุ่ง) แล้วพวกเราก็ช่วยกันทำกับข้าว บ้างไปตลาด บ้างหุงข้าว บ้างเด็ดใบกะเพราะ บ้างล้างผัก ช่วยกันคนละไม้คนละมือย่างแข็งขัน เราทั้งหมดช่วยกันปรุงอาหารมีกะเพราไก่ ไก่ผัดขมิ้น ไข่เจียว ได้ประมาณ ๒๐๐ กล่อง เมื่อปรุงอาหารและใส่กล่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้นำไปมอบให้ผู้ประสบภัย ณ ชุมชนรูสะมิแล บ้านท่ากำชำ บ้านตันหยงเปา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเป็นหลักและวาตภัยบางส่วน การที่เราได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน เราลงมือทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย นับเป็นสิ่งที่มีความสุขมาก ในขณะที่พวกเรากำลังปรุงอาหารกันอยู่นั้นก็มีการแซวกันเล่นๆว่าอาหารที่ปรุงนั้นจะอร่อยหรือเปล่า? อร่อยหรือไม่อร่อยเราไม่รู้เรารู้แต่ว่าเราได้ใช้ใจลงไปในการปรุงอาหารนั้นแล้วอาหารย่อมอร่อยเป็นแน่แท้เชียว (ฮิๆๆๆ) วันอังคารที่ ๙ พ.ย. ๕๓ ทางคณะทำงานฯก็ได้ไปสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมอีกว่ามีส่วนไหนของพื้นที่ที่ความช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึงเพื่อเราจะได้ปรุงอาหารนำไปแจกจ่ายและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นๆนำไปมอบให้ชาวบ้าน ต่อไป

              วันพุธ ที่ ๑๐ พ.ย. ๕๓ ทางคณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพของเรา ก็ได้เวลาที่ต้องไปช่วยเหลือพี่น้องกันอีกแล้วครับ ทุกคนตื่นกันตั้งแต่เช้า ไปจ่ายตลาด ซื้ออาหารเพื่อมาปรุง หาซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการบริโภค แล้วพวกเราทั้งหมดก็ลงแขกกันอย่างเต็มที่ในที่สุดทุกอย่างก็พร้อมสรรพเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้าน เวลา ๑๓.๓๐ น. ทางคณะทำงานฯก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านรูสะมิแลก่อนเป็นที่แรก ต่อด้วยหมู่บ้านแหลมนกและปิดท้ายที่หมู่บ้านดาโต๊ะ ทางคณะทำงานฯก็ได้นำอาหารกล่อง ขนม น้ำ และสิ่งของเข้าไปให้ถึงมือชาวบ้านอีกเช่นเคย ยังมีชาวบ้านอีกมากที่ความช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง เราเป็นเพียงคณะทำงานฯก็ทำเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถกันทุกคน ช่วยเหลือพี่น้องเท่าที่จะช่วยกันได้ แต่แค่นี้เราทั้งหมดก็อิ่มเอมใจเป็นที่สุดแล้ว ดังคำที่ว่า “มือบนดีกว่ามือล่าง”

หมายเลขบันทึก: 407663เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2010 21:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 06:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นกำลังใจให้คณะทำงานทุกคนนะคะ ขอบคุณแทนชาวบ้านทุกคนคะ

ในวิกฤตมีโอกาส ในโอกาสย่อมมีให้และผู้รับ วันนี้มีให้ พรุ่งนี้อาจต้องรับ เป็นธรรมดา ยิ่งให้ยิ่งได้ครับ ทำเถิดครับ ทำแล้วเราก็สุข คนอื่นก็สุข


ขอบคุณนะครับครูหยุยที่ได้กรุณาเข้ามาอ่าน ติดตามและคอยให้กำลังใจในการเขียนบล็อก หากมีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท