วิธีศึกษาทางอ้อม Indirect Study : ผมเป็นที่ปรึกษาของโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมในแนวประชาสังคมของกลุ่มประชาคมบางกอกฟอรั่ม : Bangkok Forum ซึ่งในโครงการย่อยโครงการหนึ่งของบางกอกฟอรั่ม ทีมงานก็ได้ขอเสนอการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนรอบศูนย์เรียนรู้แห่งหนึ่งซึ่งสำนักงานกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส จะสร้างขึ้นเป็นสำนักงานในแหล่งชุมชนเมืองของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
เมื่อมีกิจกรรมการประชุมและกิจกรรมต่างๆของโครงการกับเครือข่ายคนทำงานทั้งของ สสส และกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง ผมก็สังเกตเห็นว่าในทีมจะมีบี : ชื่อสมมุติ ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งติดตามมากับกลุ่มพร้อมกับถือกล้องวิดีโอและเครื่องบันทึกเสียงติดตัวมาด้วย บีเป็นบัณฑิตที่เพิ่งจบปริญญาตรีมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่วงท่านอบน้อม ตื่นตัว ปราดเปรียว และขอสมัครเข้ามาทำงานอยู่ในทีมบางกอกฟอรั่ม เมื่อทำกิจกรรมต่างๆ บีก็จะทำไปกับเขาอย่างคล่องแคล่ว ขณะเดียวกัน พี่ๆก็จะให้บีคอยทำหน้าที่ถ่ายวิดีโอ บันทึกเสียง และจัดห้องประชุม บีทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างทะมัดแทมง มีชีวิตชีวา
เมื่อมีโอกาสนั่งประชุมปรึกษาหารือ หรือนั่งระดมความคิด ทบทวนบทเรียน บีก็จะขมักเขม้นอยู่กับการถ่ายวิดีโอ หากผมไปเป็นวิทยากรให้เขาก็จะมาช่วยผมอยู่บนเวที ผมสังเกตว่าบีมีความคล่องตัวและรู้จังหวะของกิจกรรมต่างๆ ซึ่งบ่งบอกว่าเขาเรียนรู้และพัฒนาความรู้ความเข้าใจงานทั้งหมดของทุกคนไปด้วยอยู่ตลอดเวลาระหว่างการถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียง ดังนั้น ไม่ว่าผมหรือใครจะทำกระบวนการต่างๆอย่างไร บีก็มักจะจัดวางตนเองเข้าไปลงไม้ลงมือช่วยได้อย่างไม่ขัดเขิน เมื่อให้สะท้อนความคิดเห็นและร่วมคิดร่วมทำ ก็มักแสดงความคิดเห็นได้เป็นอย่างดี
อยู่มาวันหนึ่ง ผมก็ได้รับโทรศัพท์ประสานงานจากบางกอกฟอรั่มเพื่อไปร่วมประชุมในฐานะกรรมการที่ปรึกษาที่สำนักงาน สสส กับกรรมการอีกหลายท่าน มีประเด็นการติดตามความคืบหน้าและวาระการปรึกษาหารือกันหลายเรื่องพอสมควร และผู้ที่ติดต่อประสานงานผมในครั้งนี้ ซึ่งปรกติจะเป็นพี่ๆซึ่งมีประสบการณ์และเป็นผู้ใหญ่ ก็กลายเป็นบี เสียงเขาตื่นๆ แต่มีความชัดเจนกับสิ่งที่กำลังประสานงาน
ผมขอทราบรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งขอสำรองเวลาในกรณีติดงานอื่นๆว่าจะมีแนวคิดยืดหยุ่นไปอย่างไรได้อีก บีก็แจกแจงข้อมูลให้ผมได้ทราบเบ็ดเสร็จได้ด้วยตนเองคนเดียว บ่งบอกว่าเขาเป็นเด็กทำงานอย่างคนที่เรียนรู้งานทั้งระบบ พร้อมทั้งรับทราบข้อมูลสำหรับนำไปปรับให้ยืดหยุ่นเข้ากับกรรมการและคนอื่นๆ เขาเป็นคนตัวเล็กๆแต่สามารถทำงานด้วยความรับผิดชอบแทนองค์กรในสถานการณ์ที่เผชิญได้
ผมเคยทำงานจัดประชุมวิชาการและอบรมสัมมนามาเป็นจำนวนมาก จึงตระหนักเป็นอย่างดีว่า คนที่จะทำงานลักษณะนี้ได้นั้น ต้องใช้ทักษะและภาวะผู้นำในตนเองมาก บีเป็นเด็กเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย เขาได้แปรโอกาสอาสาทำกิจกรรม ถ่ายวิดีโอ และบันทึกเสียง เรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อเป็นคนทำงานชุมชนในวิถีใหม่ๆ พร้อมทั้งหาประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์ทางสังคม และบ่มภาวะผู้นำทางวิชาการ ผ่านการทำงานปฏิบัติที่ให้การเรียนรู้ไปด้วย วิธีทำงานลักษณะนี้จึงกลายเป็นการสอนงานและพัฒนาคนรุ่นใหม่ โดยไม่ต้องมีคนมาคอยสอนทีละส่วนซึ่งจะเหมาะสมกับงานที่มีมิติการปฏิบัติและต้องการคนทำงานเป็นทีมที่มีความบูรณาการอยู่ในตนเอง
ในแง่ของการวิจัยแบบ PAR แล้ว กิจกรรมที่ได้มีการมอบให้ปฏิบัติเชิงการเรียนรู้อย่างนี้ สามารถใช้เป็นวิธีศึกษาเพื่อเห็นมิติต่างๆของกระบวนการสร้างคนรุ่นใหม่ด้วยวิธีอย่างไม่เป็นทางการ หากนั่งสนทนาและวางแผนแฏิบัติการกับบีเกี่ยวกับการถ่ายวิดีโอ นอกจากจะทำให้ได้งานทำสื่อแล้ว ผู้อื่นที่มีประสบการณ์ก็จะเป็นครูของบีโดยไม่ต้องทำหน้าที่สอนแต่ก็เป็นครูของบีและเป็นเครือข่ายกัลยาณมิตรทางการเรียนรู้ให้บีผ่านการทำงานไปด้วยกัน ขณะเดียวกันบีก็สามารถสื่อสะท้อนความรู้ รวมทั้งการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบรอบด้านโดยไม่ต้องกังวลใจต่อการที่จะต้องศึกษาเนื้อหาและระบบปฏิบัติการต่างๆที่เกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งก็ทำให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ผ่านการสอนและอธิบายตนเองด้วยงานของบีเช่นกัน
จากกรณีที่ยกมาเพียงเป็นตัวอย่างเพื่อศึกษานี้ ลักษณะของสิ่งที่นอกจากจะมีจุดมุ่งหมายและมีความชัดเจนอยู่ในตนเองแล้ว ขณะเดียวกัน ก็สามารถสื่อสะท้อนรายละเอียดของสิ่งซึ่งจำเป็นต้องนำมาอยู่ในกิจกรรมการวิจัย ทว่า มีข้อจำกัดที่นักวิจัยและทีมผู้เกี่ยวข้องจะไม่สามารถศึกษาเรียนรู้ได้โดยตรงเพราะต้องใช้เวลานาน อีกทั้งคงจะต้องใช้เงินและทีมจำนวนมากให้ทัดเทียมกับระบบที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่าง จึงทำการศึกษาผ่านทางอื่นหรือวิธีอื่นที่สามารถเข้าถึงปรากฏการณ์ที่สนใจได้อย่างเหมาะสม อย่างนี้ ก็นับว่าเป็นการศึกษาและปฏิบัติการสังคมบนตัวแปรชนิดหนึ่ง เรียกว่า ตัวแปรโดยอ้อมหรือวิธีศึกษาทางอ้อม : Indirect Study
ตัวแปรแทน Proxy Variable : ตัวแปรแทนในการวิจัยแบบ PAR นั้น จะเป็นตัวชี้วัดที่มีพลังในการอธิบายความสัมพันธ์เชิงระบบของชุดเหตุปัจจัยและปัจจัยเงื่อนไขอันซับซ้อนได้เป็นอย่างดี การเลือกตัวแปรแทนเพื่อทำการศึกษาในงานวิจัยแบบ PAR จึงมีแนวคิดเชิงทฤษฎีบูรณาการกับวิธีคิดสำหรับออกแบบยุทธศาสตร์เพื่อทำให้เป็นปฏิบัติการสังคมโดยวิถีความรู้ ๓ ประการเช่นกัน ดังนี้
คุณลักษณะดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่าความเป็นตัวแปรแทน หรือ Proxy Variable ในการวิจัยแบบ PAR ดังที่กล่าวมาโดยลำดับนี้ จะมีความเป็นประเด็นปัญหาเชิงระบบ รวมทั้งสะท้อนความแตกฉานทางความรู้ทั้งในเชิงลึกและความรอบด้าน แตกฉานทางทฤษฎีสำหรับการวิเคราะห์เป็นชุดตัวแปรอย่างเชื่อมโยง มีองค์ความรู้ทางการปฏิบัติ มีความรู้จากแหล่งประสบการณ์หลายอย่าง ทั้งจากประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์ทางสังคมทั้งระดับจุลภาคและมหภาค การเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าและอ่านอย่างรอบด้าน มีการเรียนรู้ที่สัมผัสอย่างเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตชาวบ้าน-ชาวเมืองของสังคมนั้นๆ อีกทั้งสะท้อนถึงการพิจารณาสิ่งต่างๆด้วยความลึกซึ้ง ละเอียดอ่อนและแยบคาย ซึ่งนักวิจัยปฏิบัติการสังคมแบบ PAR ควรมุ่งพัฒนาตนเองในแนวทางดังกล่าวนี้อยู่เสมอ
ในงานวิจัยแบบทั่วไป ก็มีการใช้วิธีศึกษาทางอ้อมในกรณีความจำเป็นต่างๆอยู่เสมอ เช่น ใช้วิธีสนทนาเชิงลึกเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายประจำวันทุกชนิดของชาวบ้าน รวมไปจนถึงกิจกรรมการบริโภคและใช้สอยเล็กๆน้อยๆในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน เพื่อทำการประเมินและคำนวณข้อมูลเชิงเศรษฐกิจรายได้ของชาวบ้านหรือครัวเรือนที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำที่แน่นอน ทำให้ได้ข้อมูลที่อธิบายความเป็นจริงของสังคมได้ถูกต้อง ซึ่งความสามารถในการระบุวิธีศึกษาทางอ้อมก็จะเป็นทั้งศิลปะและความเชี่ยวชาญของความเป็นนักวิจัยแบบทั่วไปเช่นกัน ในการวิจัยแบบ PAR นั้น นอกจากจะมีความสำคัญในลักษณะดังกล่าวนี้เช่นกันแล้ว วิธีศึกษาทางอ้อม จะมีความหมายและมีนัยสำคัญอย่างบูรณาการมากขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ของการศึกษาทางอ้อมในมิติการวิจัย และเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ รวมทั้งได้แก้ปัญหาที่จำเป็นให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการไปด้วย
ดังนั้น การเลือกตัวแปรแทนและการเลือกวิธีศึกษาทางอ้อมสำหรับนักวิจัยแบบ PAR จึงต้องพัฒนาตนเองให้ไปได้ไกลมากกว่าเป็นเพียงการดำเนินการทางเทคนิควิจัย ทว่า ต้องเห็นความหมาย ความสำคัญ สามารถเลือกตัวแปรแทนและวิธีศึกษาทางอ้อมในฐานะที่เป็นวิธีคิดและการจัดวางทางระเบียบวิธีของการวิจัย ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติการแก้ปัญหา มีความเป็นกิจกรรมชีวิตเชิงการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง ทุ่มเทได้อย่างเข้มข้นเพราะมีความกระทัดรัดเรียบง่าย ทว่า ให้ความรู้และภูมิปัญญาปฏิบัติที่รอบด้าน กว้างขวาง เชื่อมโยงเป็นระบบ ลึกซึ้งและแยบคาย ได้ความสำเร็จที่ดีหลายด้านต่อสังคม พร้อมกับได้ความงอกงามเติบโตภายในประหนึ่งปฏิบัติธรรมผ่านการดำเนินชีวิตและทำการงาน.
สวัสดีค่ะอาจารย์
มาเรียนรู้ด้วยคนค่ะ...
ขอบคุณค่ะ..พี่อ่านแล้วคิดถึงการเรียนรู้ทางอ้อมจาก พ่อ-แม่ ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์มากมายให้แก่ลูกๆด้วยวิถีเหล่านี้:
*ทำให้เห็น อยู่ให้เป็น ในทุกมุมแง่ของชีวิตที่จำเป็นต่อการอยู่รอดอย่างมีความสุข..ทั้งคุณธรรมและความรู้..จากง่ายๆ ไปสู่เรื่องยากๆ..ค่อยซึมซับลงไปในจิตสำนึกอย่างยั่งยืน
* ฝึกให้ช่วยงานทุกอย่างด้วยความไว้วางใจ..ผิด-ถูก ..ถือเป็นบทเรียนชีวิต
*ไม่เอาเป้าหมายของ พ่อ-แม่ มาครอบงำทางเดินชีวิตของลูกๆจนไม่เหลือช่องว่างให้คิดเอง..ลูกๆทุกคนจึงมีอาชีพตามที่เลือกบนความถนัดและความพอใจ..ทั้งยังเลี้ยงดูลูกหลานของตนเองสืบต่อมาในแนวทางเดียวกัน
สวัสดีครับพี่นงนาทครับ
พี่กลับมาอีกรอบเพื่อนำประสบการณ์ การเรียนรู้ “หนูทำได้ หนูทำเป็น หนูอยากทำ” ของ ครูใหม่ มาฝากไว้ที่บันทึกของอาจารย์ด้วยค่ะ..
สวัสดีครับพี่นงนาทครับ