(๒) อย่ามัวแต่คิดริษยา
'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'
คนเราต้องมี พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์
ฉะนั้น เราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' เราริษยา ๑ คน เราก็มีทุกข์ ๑ ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป
'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา
<h1 style="text-align: center;"></h1>
ดีใจจังที่เรามีส่วนร่วมในบล็อกครูฐานิศวร์ด้วย เห็นว่าเนื้อหาดีถูกใจเลยส่งให้ เป็นประโยชน์กะทุกคนเลย มีบล็อกฐานิศวร์ช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆๆ อีกต่อหนึ่ง 55 เจ้หน่อยคนเดิมจ้า คิดถึงเสมอ
ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆนะคะ...ขอบคุณที่ไปแวะหากันค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์
อย่าเป็นนักจับผิด อย่ามัวแต่คิดริษยา อย่าเสียเวลากับความหลัง อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
ขอบคุณสำหรับพร4ข้อที่นำมาแบ่งปันค่ะ
สาธุ..ได้รับข้อธรรมดีๆแต่เช้า
เทอมนี้เจ้าอิฐประเดิมด้วยจำนวนตรรกยะ/อตรรกยะ
แต่เจ้าตัวบอกว่า"ชิวๆแม่"
ได้ข้อคิดดีๆไปใช้ในชีวิตประจำวันดีนะพี่ ทำ blog น่ารักมาก
ขอบคุณค่ะ ปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อ..ย่อมสร้างความสมดุลแก่ชีวิตอย่างงดงามค่ะ
ชอบอ่านงานเขียนของท่า ว.วชิรเมธี มากครับ..
แต่ผมจะชอบแนวเซน มากกว่า..
เป็นพรที่ดีๆๆทั้งนั้นเลย ผมไปดูโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคมในบันทึกเก่ามา น่าเรียนมากเลยครับ
สวัสดีค่ะ
4 ข้อที่ดีมากปฏิบัติได้ก็จะดีต่อชีวิตของทุกคน และถ้าให้ทุกสิ่งทุกอย่างพอดี ชีวิตก็จะได้รับความสุขทั้งกายและใจนะคะ ขอบคุณมากค่ะบันทึกสวยน่ารักมากค่ะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่นำมาฝากค่ะ
อยู่กับปัจจุบัน อยู่อย่างพอเพียง เพียงพอ...
มาเยี่ยมชมครั้งแรก ... ประทับใจเลย
เพื่อนตา ..
มาเยี่ยมเยือนครับผม..
เป็นยังไงบ้างครับช่วงนี้ ที่นี้ใกล้กีฬาสีแล้วทุกคนต่างเล่นกีฬากันอย่างฮาเฮครับ