อาจารย์เจซัน พาลเมอร์ แห่งสำนักข่าว BBC ตีพิมพ์เรื่อง 'Background noise affects taste of foods, research shows' = "(ผลการศึกษาพบ) เสียงแบคกราวน์มีผลต่อรสชาติอาหาร ", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [ BBC ]
...
การศึกษา ใหม่พบว่า บรรยากาศเสียง หรือเสียงแบคกราวน์ (พื้นหลัง) มีผลต่อความหวาน (sweetness), ความเค็ม (saltiness) และความกรอบ (crunchiness) และรสชาติโดยรวมของอาหาร (overall flavous)
การศึกษานี้ทำโดยการสุ่มปรับระดับเสียงเรียบๆ (white noise) เช่น เสียงหึ่งๆ บนเครื่องบิน ฯลฯ ให้ดังหรือค่อยต่างกัน
...
เสียงที่ดังมากขึ้นทำให้การรับรู้รสหวานและเค็มลดลง ทว่า... เพิ่มการรับรู้ความกรอบ
ผลการศึกษานี้ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมผู้โดยสารจำนวนมากรู้สึกว่า อาหารบนเครื่อง(บิน) ที่ดูจะ "เลิศ-หรู-เลอค่า" กลับดูจืดชืด (bland)
...
ทีมวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ร่วมกับแลปยูนิลีเวอร์ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่กินไปใส่หูฟังไป โดยสุ่มให้ฟังเสียงรบกวน (noise) หรือปล่อยให้กินไปแบบเงียบๆ (silence)
การศึกษานี้บอกเป็นนัยว่า ถ้าอยากให้อาหารอร่อยขึ้น... เราน่าจะลองปรับบรรยากาศให้เงียบลง โดยเฉพาะถ้าต้องการเน้นอาหารสุขภาพ คือ หวานน้อย-เค็มน้อย
...
ในทางกลับ กัน... ถ้าจะเลือกอาหารไปเสิร์ฟในสถานที่อึกทึกครึกโครม, อาหารประเภทกรอบๆ หรือรสจัด (เพิ่มหวาน-เพิ่มเค็ม) น่าจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น
ทุกวันนี้มีการพัฒนาหูฟังชนิดที่มี ระบบ "ลดเสียงรบกวน (noise reduction)" โดยการปล่อยคลื่นเสียงที่มีระยะ หรือเฟส (phase) ตรงกันข้าม, ถ้ามีการพัฒนาเครื่องลดเสียงรบกวนแบบนี้ในที่เปิดได้ เช่น บนรถ-เรือ-เครื่องบิน-ร้านอาหารใกล้ถนน ฯลฯ น่าจะทำให้รสชาติอาหารดีขึ้นได้
...
ทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือ อาจมีการแจกจุกอุดหู (ear plugs) เพื่อลดเสียงรบกวนก่อนกินอาหาร, ตรงนี้ก็เป็นโอกาสสำหรับการวิจัย-พัฒนาเช่นกัน
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่ มา
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 18 ตุลาคม 2553.
-
ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อ การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.