การต่อยอดของการคิดเชิงบวก

"การต่อยอดของการคิดเชิงบวก"

จากที่ผู้เขียนได้เขียน เรื่อง "การคิดเชิงบวก" (Positive Thinking) แล้ว...

http://gotoknow.org/blog/bussayamas/401783 ทำให้หวน

นึกถึงกับบันทึกที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ เกี่ยวกับ การคิดเชิงระบบ ซึ่งแบ่งเป็นความคิดได้ถึง 10 ความคิด...

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/toc คือ เมื่อคนเราได้ปรับความคิดของตัวเราให้หัดเป็นการคิดในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบได้แล้ว...สำหรับคนที่ทำได้จริง ๆ...เรียกว่า...การคิดในเชิงบวกเป็นการ... "ปูพื้นในเรื่องของการจัดการความคิด"...โดยทำตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี...ไม่คิดลบ...จะทำให้เกิดความสุขใจ... เกิดจิตที่ดีต่อตนเอง...ต่อผู้อื่น...จิตจะมีสุขมากกว่ามีทุกข์... แสดงถึงการสร้างฐานความคิดที่มีความแข็งแรง + มั่นคง... ต่อไปถึงคราวที่เราต้องต่อยอดในเรื่องของความคิดเชิงระบบ...สามารถกล่าวได้ว่า...ถ้าเรามีฐานความคิดที่แข็งแรง มองโลกในเชิงบวกแล้ว ต่อไปจะต่อยอดความคิดในเชิงระบบไม่ว่าจะเป็น...

"การคิดเชิงวิพากษ์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386825

"การคิดเชิงประยุกต์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386818

"การคิดเชิงสังเคราะห์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386809

"การคิดเชิงวิเคราะห์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386722

"การคิดเชิงมโนทัศน์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386714

"การคิดเชิงเปรียบเทียบ"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386709

"การคิดเชิงบูรณาการ"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386699

"การคิดเชิงกลยุทธ์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386694

"การคิดเชิงอนาคต"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386684

"การคิดเชิงสร้างสรรค์"

http://gotoknow.org/blog/bussaya9/386406

จากความคิดที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นการต่อยอดความคิดสำหรับคนในยุคปัจจุบันที่มีความคิดในเชิงพัฒนา...การมองไปข้างหน้า...การมองแบบสร้างสรรค์...การมองถึงการบูรณาการความคิด...การวิเคราะห์ + สังเคราะห์ ข้อมูล เหตุการณ์ สถานการณ์...การเปรียบเทียบ...การนำมาประยุกต์ใช้...ตลอดจนการมองถึงอนาคต...ถ้าท่านใดที่เคยอ่านเรื่อง "สามก๊ก"...ท่านจะสามารถเดาเหตุการณ์ที่ท่านเคยอ่านได้เลยว่า เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คือ ตอนใดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน เรื่อง "สามก๊ก"...สำหรับ 10 ความคิดนี้ก็เช่นกัน...

[มนัสดา]

เรียนท่าน

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่แบ่งปันความคิดดีๆ และนำมาบอกต่อค่ะ

[บุษยมาศ]

สวัสดีค่ะ...คุณยาย...

  ขอบคุณค่ะ...ไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านหรือค่ะ...

[มนัสดา]

  วันนี้ทำงานบ้านแล้วก็นอนค่ะพี่  ขอเพิ่มน้ำหนักหน่อย กางเกงหลวมหมดแล้วค่ะ

[บุษยมาศ]

สวัสดีค่ะ...คุณยาย...

  รูปร่างอย่างคุณยาย ยังเพิ่มน้ำหนักได้อีกเยอะเลยค่ะ...

[น.ส. ภาวิตา ศรีจันพร]

จากการได้อ่านข้อความข้างต้น ดิฉันเห็นด้วยกับความคิดนี้เป็นความคิดหนึ่งทีทำให้รู้ว่าเรามีความสุขใจหรือกายมากแค่ไหนในการที่จะสร้างพลังในตัวเองจากการคิดบวกหรือคิดลบ การที่เราคิดในแง่บวกมากกว่าแง่ลบก็ทำให้เรามีความคิดที่จะทำสิ่งต่างๆมากมาย เพื่อเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบข้างเราทั้งนั้น ทำให้ดิฉันคิดว่าการที่เรามีความคิดเชิงบวกได้เรามีการมองเห็นสิ่งต่างๆในเชิงบวกก็จะทำให้เราเข้าใจ และมีความสุขอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

ดังนั้นดิฉันคิดว่าในสังคมไทยนั้นเกิดปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมไม่ว่าอย่างไรก็เหมือนกัน แต่อยู๋ตัวเราจะมีการเข้าใจถึงปัญหาในสิ่งนั้นหรือไม่ จากบทความนี้ก็ยังมีการเรียนรู้ถึงการอยู๋ในสังคมปัจจุบันที่มีทั้งผู้อื่นมากมายที่มีการแข่งขันกันสูงขึ้น ความคิดที่แตกต่างกัน การที่เราจะอยู่ในสังคมไทยได้ก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงที่มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจกัน จึงได้มีการเสนอแนวคิดในการอ่านข้อความต่างๆ เพื่อให้รู้ว่ามีผู้สนใจในเรื่องต่างๆเป็นอย่างไร

สำหรับดิฉันก็ต้องขอขอบคุณบทความที่ทำให้ผู้อื่นมีความคิดเห็นที่จะแสดงออกมา และเกิดเป็นพลังงานผลักดันให้ทุกๆ ได้คิดในเชิงบวกเพิ่มขึ้น และจะเป็นสิ่งที่มีความสุข หันมายิ้ม ทักทายกันและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในสังคมไทยของเรานะค่ะ และดิฉันดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสนอความคิดในเรื่องนี้

[บุษยมาศ]

สวัสดีค่ะ...คุณภาวิตา...

ขอบคุณค่ะ...ค่ะ สังคมไทยเรา ถ้าทุกคนคิดเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น พี่ว่าจะทำให้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ลดลงได้นะค่ะ...แต่ต้องฝึกอยู่ที่ใจของแต่ละคนแล้วละค่ะ...บางคนถึงกับถอดใจก่อนที่จะเริ่มต้น...บางคนก็มีพื้นฐานความเป็นอยู่ + สภาพแวดล้อมที่ตนเองอยู่ดี จึงทำให้คิดเชิงบวกได้ง่ายขึ้น...แต่บางคนอยู่ในสังคม สภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยคิดเชิงบวก ก็จะมีความคิดเชิงลบมากกว่าบวก...นี่คือ  ปัญหา  ซึ่งทุกคนในสังคมต้องมีส่วนร่วมมือกันสร้างเพื่อให้สังคมมีความสุขไงค่ะ...คือ เริ่มที่ตัวเราเองก่อน ทำได้แล้วก็ลองดูรอบ ๆ ข้าง มีสิ่งใดที่ช่วยแนะนำ ก็แนะนำ บอกเล่าได้ก็บอก (ถ้าสังเกตง่าย ๆ คือ สังคมไทยแบบดั้งเดิมที่เราเป็นมากันนะค่ะ...) แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้เป็นแบบนั้นแล้วไงค่ะ เนื่องจากไปนำวัฒนธรรมอื่นเข้ามา แล้วลืมวัฒนธรรมดี ๆ ของไทยเราไปแล้วค่ะ...เช่น ความมีน้ำใจ  การยิ้ม  การทักทาย  การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ที่ออกมาจากใจเราไงค่ะ...นี่ก็เป็นพื้นฐานของการคิดเชิงบวกค่ะ...หรือเราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และถึงวันที่ประเทศไทยเราไม่สามารถแก้ไขได้แล้วค่ะ...ต้องเริ่มที่ตัวเราแต่ละคนแล้วละค่ะ...