มาปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองและช่วยลดโลกร้อนเพื่อเพื่อน ๆ เรากันเถอะค่ะ
วันก่อนไปซื้อต้นไม้กับเพื่อน ๆ ตั้งใจไปซื้อกล้วยไม้ซิมบิเดียมสำเภางาม ไปถึงก็ปิ๊งต้นมณฑาทอง แต่เกรงใจเจ้าของรถเพราะต้นมณฑากระถางใหญ่พอสมควร เลยไม่เอากลับบ้าน เหตุผลอีกอย่างคือ ยังไม่ได้ต้นไม้ที่อยู่ในใจหมายเลย เดินต่อไปอีกหน่อย น้องที่ไปด้วยบอกว่า "พี่นี่งัยต้นแก้วแคระที่พี่อยากได้" (เคยบอกน้องเค้าไว้ว่าอยากได้ต้นแก้วแคระ แต่เราดันลืมไปแล้ว...อิอิ) ก็เลยได้ต้นแก้วแคระเป็นต้นแรก... เป้าหมายยังมองไม่เห็นเลย... ดูไปเรื่อย ๆ ก็เจอเป้าหมายที่ต้องการจนได้...และแล้วเราก็ได้ซิมบิเดียมสำเภางามมา 2 ต้น 2 สี...ไว้ออกดอกจะเอามาให้ดูค่ะ...ตอนนี้ก็ฟูมฟักและลุ้น ๆๆๆๆๆๆ ให้ออกดอกเร็ว ๆ ค่ะ... จากนั้นการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด...เดินดูต่ออีก ก็เจอต้นที่อยากได้ (อีกแล้ววววว) ต้นนั้นคือต้นเชอรี่ คนขายบอกว่าผลเท่านิ้วโป้ง (จะปลูกตรงมุมไหนของบ้านก็ยังไม่รู้...อิอิ) ...ความเกรงใจเจ้าของรถนั่นหายไปแล้ว เพราะเจ้าของรถก็ได้มาไม่น้อยเหมือนค่ะ...เหนื่อยแล้วก็ชวนกันกลับบ้าน ...แต่มีนางในดวงใจอีกแล้ว...จะเป็นใครอื่นไม่ได้... ก็มณฑาทองนั่นเอง.....
...ในเมื่อหลับยังฝันถึง วันนี้เลยชวนกันไปร้านต้นไม้อีกครั้ง ไปถึงต้นแรกที่ได้มิใช่มณฑาทองนางในดวงใจหรอกค่ะ ไปเจอลูกฟ้ามุ่ย เลยได้ฟ้ามุ่ยต้นน้อย ๆ มา 3 ต้น ๆ ละสี แถมด้วยช้างน้อยอีก 3 เชือก ...ที่บ้านมีหลายต้นหลายชนิดแล้ว แต่ยังอยากได้อยูค่ะ กะเอาไปเกาะต้นไม้ให้เป็นกลุ่ม โตขึ้นออกดอกพร้อม ๆ กันคงสวยไม่เบา ... จากนั้นก็ไปอีกร้านนึง ...เจอนางในดวงใจแล้วค่ะ ได้มา 1 ต้น สมบูรณ์พอสมควร ถามวิธีปลูกกับคนขายมาเรียบร้อย (แต่ยังไม่ชัวร์ กลับมาหาข้อมูลเพิ่มตามที่เอามาต่อท้ายบันทึกนี้นะคะ) ที่ร้านนี้นอกจากได้มณฑาทองแล้ว กลิ่นมะลิเย้ายวนมาก เลยชวนกลับมาบ้านอีก 3 ต้น (ต้นไม้ที่ซื้อมาทั้งหมดฝากไว้ที่ร้านนี้ก่อนค่ะ) ...เป้าหมายสำคัญบรรลุแล้ว แต่ยังไม่เหนื่อย ก็เลยเดินชมสารพัดต้นไม้ไปเรื่อยเปื่อยอย่างมีความสุข...และแล้ววววว ก็ปิ๊งอีก อิอิ ก็แวนด้าแสนสวยยักคิ้วให้อยู่นี่คะ เลยพาคนสวยกลับบ้านอีก 3 ต้น ...ประมาณการแล้วว่าของที่ถืออยู่กับของที่ฝากไว้สมดุลกับมือ 2 ข้างพอดี เหมือนสมการบัญชีที่ว่า "สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ" ไม่มีผิดเพี้ยน...สมาชิกร่วมทางทุกคนหันมามองหน้าและสบตากันอย่างมีความสุข ประมาณบอกกันว่า บรรลุเป้าหมายกันแล้ว เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ ขืนอยู่ต่อ เราคงไม่มีความสามารถขนขึ้นรถได้ ...
*** ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการปลูกมณฑาทองค่ะ ***
ลักษณะทั่วไปของมณฑา
มณฑาเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลักษณะเป็นพุ่มผิวเปลือกลำต้นเรียบสีเทา ลำต้นมีความสูงประมาณ 4-10 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาน้อยใบมีขนาดใหญ่มีสีเขียว ลักษณะใบเป็นรูปมนรี ขอบใบขนานตัวใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ขนาดใบกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ดอกแตกออกตามง่ามใบ หรือส่วนยอดของลำต้น กลีบดอกแข็งหนา ีกลีบดอก 3 กลีบ ซ้อนกันเป็นชั้น ลักษณะคล้ายกับดอกลำดวน ดอกเล็กสีเหลืองมีกลิ่นหอมไปไกล
การเป็นมงคลของมณฑา
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่อยู่บนสวรรค์และได้บันดาลตกลงมาสู่โลกมนุษย์นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความงดงาม ชวนมอง เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกมีสีเหลืองนวล หอมได้นานดูแล้วงามแพรวพราวจับใจ ซึ่งมีลักษณะพิเศษเหมือนกับดอกมณฑาทิพย์
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกมณฑา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นมณฑาไว้ทางทิศตะวัตตกเฉียงเหนือผู้ที่ปลูกควรปลูกในวันพุธเพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธถ้าจะให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดีเพราะมณฑาเป็นดอกไม้ประจำของนากิริณีเทวีซึ่งเป็นนางประจำวันพฤหัสบดีธิดาของพระอินทร์นอก จากนี้ถ้าหากผู้อาศัยในบ้านเกิดในวันพฤหัสบดีด้วยแล้วก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น
การปลูกมณฑา
นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
การดูแลรักษามณฑา
แสง ต้องการแสงแดดอ่อน รำไร หรือแสงแดดปานกลาง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นสูง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-5 ครั้ง
การขยายพันธ์ การตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การตอน
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
ที่มา http://www.maipradabonline.com/maimongkol/montha.htm