มีคำหารือเข้ามาทาง MSN
แต่ขออนุญาตมาตอบตรงนี้เนื่องจากมีประโยชน์กับท้องถิ่นอื่นด้วย
คุณ boonsuay suntawong
[email protected]
ได้ถามเข้ามาดังนี้
พอดีมีเรื่องรบกวนดังนี้ให้ตอบค่ะ ตามหนังสือ
ด่วนมากที่ มท 0808.2/ว74 มีข้อความดังนี้
เพื่อให้การตั้งงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนสอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้
อปท.
และเพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินในหมวดอุดหนุน
อาศัยอำนาจตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณของอปท.
2541 ข้อ4 และระเบียบหระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน
การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินของ อปท. 2547 ข้อ 4
จึงขอยกเลิกหนังสือที่อ้างถึง 1และ 2 (หนังสือด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว2611 ลว 4 ส.ค.
2547 และ หนังสือ ที่ มท 0893.3/ว0020 ลว. 6 มค.2552 )
และให้ใช้หลักเกณฑ์การตั้งงบประมาณและการใช้จ่ายงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนของอปท.
คำถาม
1.แสดงว่าหนังสือทั้ง2 ยกเลิกทั้งฉบับใช่หรือไม่ ให้ยึด
ว74อย่างเดียว
2.หนังสือด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลว 8 มกราคม 2553
ไม่ได้กล่าวถึงการอุดหนุนที่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่สถานศึกษาในสังกัดสพฐ.ได้รับจัดสรรจากรัฐ
ดังนั้นถ้าโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ขออุดหนุนโครงการเช่นค่ายลูกเสือ
-เนตรนารี ,เข้าค่ายวิชาการ
ซึ่งเป็นกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียนที่รัฐจัดสรรในเรียนฟรี 15 ปี
ได้หรือไม่
3. โรงเรียนขอเงินอุดหนุนตุลาคม-กันยายน(12 เดือน) แต่
อบต.สามารถอุดหนุนโครงการจัดจ้างครูจ้างสอนไปเดือน พฤษภาคม 2553
โครงการเสร็จสิ้น(ครบ 12 เดือน) ซึ่งค่อมปีงบประมาณ 2554
ของ อบต. ซึ่ง หนังสือ 0808.2/ว74
กล่าวไว้ว่าเมื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ให้หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนรายงานให้ อปท.ทราบภายใน 30 วัน
นับแต่โครงการแล้วเสร็จ
ซึ่งข้อความนี้
อบต.สามารถให้โรงเรียนใช้งบที่อุดหนุน และส่งหลักฐานการใช้จ่าย
จนกว่าจะครบ12 เดือนได้หรือไม่
หรือต้องตัดคืนเงินให้อบต.และส่งหลักฐาน แค่ 30 กันยายน เท่านั้น
และอบต.จะสามารถอุดหนุนได้อีกทีก็ประมาณเดือนพฤษภาคมอีกรอบก็จะทำให้ไม่ต่อเนื่อง
ซึ่งโรงเรียนเองไม่สามารถจัดจ้างสำรองเงินไปก่อนได้ในช่วงที่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนเพราะจะผิดระเบียบการก่อหนี้ผูกพัน
รบกวนด้วยค่ะ.......ขอบคุณค่ะ
ขอตอบรวม ๆ ดังนี้นะคะ
ข้อ 1.
ตอนนี้ท้องถิ่นทุกแห่งต้องยึดตาม พระราชกิจจานุเบกษา
"ประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เรื่องหลักเกณฑ์การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล
และองค์การบริหารส่วนตำบลในการให้บริการสาธารณะ"
ซึ่งรายละเอียดมีมาก
และสามารถอุดหนุนกิจกรรมด้านการศึกษาและด้านการสาธารณสุขได้
ได้ตามตามหลักเกณฑ์และวงเงิน ที่กำหนด คือ สนับสนุนเป็นค่า บุคลากร
วัสดุ ครุภัณฑ์ และปรับปรุง ซ่อมแซม หรือก่อสร้างอาคาร
ตลอดจนสิ่งกอสร้างอื่น
-อบจ.ไม่เกินร้อยละ 10
ของรายได้ปีที่ผ่านมาโดยไม่รวมเงินอุดหนุน
-เทศบาลขนาดใหญ่ ไม่เกินร้อยละ 2
ของรายได้ปีที่ผ่านมาโดยไม่รวมเงินอุดหนุน
-เทศบาลขนาดกลาง/เล็ก
ไม่เกินร้อยละ 3
ของรายได้ปีที่ผ่านมาโดยไม่รวมเงินอุดหนุน
*** อบต.ไม่เกินร้อยละ 5
ของรายได้ปีที่ผ่านมาโดยไม่รวมเงินอุดหนุน
***
ทัังนี้ให้ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมในกฎหมายที่กล่าวมาด้วย
และโปรดคำนึงถึงฐานะทางการคลังของตนเองด้วย***
ข้อ 2. อุดหนุนได้ ตามพระราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้
แต่ถ้าอยู่ในรายการเรียนฟรี 15 ปี
และต้องมีคำอธิบายให้ชัดเจนว่าทำไมต้องสนับสนุนอีก
เช่น ชุดนักเรียนที่รัฐจัดสรรให้ 360 บาท/ 2 ชุด / 1 คน
ไม่สามารถจัดซื้อได้ในท้องตลาด
ท้องถิ่นอาจจะตั้งงบสนับสนุนสมทบได้ ให้เป็นชุดละ 200 บาท
คือตั้งสมทบได้อีก ชุดละ 20 บาท ให้สามารถจัดซื้อได้
เป็นต้น
ข้อ 3 โดยปกติและการอุดหนุนหน่วยงานอื่นนั้น
ต้องเป็นเงินที่อยู่ในปีงบประมาณนั้น ๆ
จะอุดหนุนข้ามปีงบประมาณไม่ได้
เพราะงบประมาณในปีต่อไปนั้นยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติให้ใช้งบประมาณตามกระบวนการของการทำงบประมาณประจำปี
ดังนั้น คำถามข้อนี้ ถ้าจะแก้ไขให้ถูกต้อง
คุณต้องตัดยอดการอุดหนุนที่ 30 กันยายน 3553
แล้วในปีการศึกษาหน้าก็ค่อยว่ากันใหม่ในปีงบประมาณ 2554
คือคุณสามารถอุดหนุนโรงเรียนใหม่ในเดือนตุลาคม 2553 ได้ทันที
ไม่ต้องรอจนถึงเดือน พฤษภาคม 2554
หากไม่เข้าใจถามทาง MSN ได้ค่ะ ยินดีให้คำปรึกษา
จากที่ได้โทรไปสอบถามเมื่อวานพี่จินตนา เรื่องการขอเงินอุดหนุนของโรงเรียนในสังกัด สพฐ ซึ่งทางโรงเรียน ได้ของบสนับสนุนค่าอาหารเช้าให้กับเด็ก จำนวน 100 คน ผมเองได้ดูรายละเอียดระเบียบและประกาศต่างๆตามที่พี่บอกแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่า ทำได้หรือไม่ เพราะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน อีกทั้งปัจจุบันทาง อบต.ได้มีการให้เงินอุดหนุนอาหารกลางวันอยู่แล้วจึงไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด รบกวนพี่จินตนาตอบด้วยครับ ขอบคุณคับ