18/7/49 HOMEC กับปัญหาที่ไม่จบง่ายๆ


เอาน่า คงไม่มีใครมาอ่านบล็อคนี้หรอก หึๆ

            หลังจากนั่งนอนคิดอยู่นานก็ตกลงใจจะเปิดบล็อกนี้ต่อไป เพราะหลังจากผมเข้าไปดูบล็อกท่านอื่นๆ และวัตถุประสงค์การเปิดเว็บแล้วพบว่า บล็อกที่เขียนในนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันจริงๆ ซึ่งต่างกับที่ผมคิดไว้มากที่ไม่อยากเน้นสาระจนปวดหัวจากทั้งวันอยู่แล้วมาผ่อนคลายทำเป็นบันทึกเล็กๆ คลายเครียด เอาเป็นว่าจากนี้ไปผมจำทำบล็อกนี้ให้มีสาระมากขึ้น เน้นเหตุการณ์และความรู้ที่ได้จากปัญหาแต่ละวันนะครับ

 

                สรุปประเด็นที่ได้จากวันนี้เลยนะครับ

เรื่องปัญหาตัดคลังยาที่กำลังฮ็อตอยู่ตอนนี้ เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะกระทบทุกหน่วยงานในกลุ่มงาน หากทำได้จะทำให้ระบบงานทุกฝ่ายก้าวไปได้ไกลโดยเฉพาะคลังยา มีหลายความเห็นมากแต่อยู่ที่ว่าจะทำแบบไหนได้ คือ

Ø      หมอกฤษดา เสนอเรื่องห้องยาในเปิด 24 ชั่วโมง ซึ่งห้องยานอกคงจะเห็นชอบด้วยยากแต่ถ้ามองจากมุมคนนอกวิธีนี้อาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้

Ø      พี่หญิงเสนอว่า ให้มีการบันทึก (memory) ข้อมูลการเบิกยาจากครั้งสุดท้ายว่ามาจากคลังไหน เป็นข้อเสนอที่คล้ายกับที่ผมคิดไว้ตอนแรกมากและพี่หญิงคิดว่าน่าจะทำได้เพราะ ปัญหานี้คล้ายกับที่เจอกับในใบรับรองยานอกบัญชี ที่รายชื่อหมอจะออกแต่คนแรกที่ทำการรักษา ถ้าคนไข้รักษาแพทย์หลายคนก็จะออกแต่ชื่อหมอคนแรก ต่อมาหมอกฤษดาก็แก้โดยใช้บันทึกชื่อแพทย์ล่าสุดลงไปแทน (อันนี้ผมก็เพิ่งรู้)

Ø      อีกวิธีที่ผมนึกได้คือ ให้มีการตัดจ่ายตามไอดีเครื่อง ซึ่งหมอกฤษดาก็บอกว่า วิธีนี้จะต้องมั่นใจว่าห้องยาทั้งสองห้องจะยอมใช้เพราะการเข้าชื่อ/พาสจะต้องจำทั้งสองห้องและใช้ไม่ผิด (คนห้องยาในต้องอยู่เวรไปมากับทั้งสองห้อง เลยใช้วิธีทำให้เป็นไอดีเดียวกันไปเลย) ซึ่งถ้าระวังน่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ

Ø      อีกวิธีที่ผ่าทางตัน คือ แก้ตัวโปรแกรมโดยยกให้บริษัทไปแก้ตามที่เราต้องการ แต่ก็ต้องจ่ายกะตังนะ

 

เรื่องโปรแกรมกับการย้ายตึก พบมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อ อาทิตย์ก่อนที่คนไข้ย้ายตึกแล้วยังโชว์ตึกเดิมในเครื่อง ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เลยลงไปนั่งคุยกับน้องบีและลองใช้ HN ทดสอบคนไข้ ย้ายไปตึกใหม่ที่สร้างปลอมๆ ขึ้นมาอีกตึก ปรากฏว่าหลังลองไปหลายรอบก็ทำสำเร็จ ปัญหาจึงไม่น่าใช่ที่โปรแกรมแต่อยู่ที่ตึกจะทำการส่งเรื่องครบหรือเปล่า แน่นอนว่าผมไม่รู้ว่าตึกต้องกดคำสั่งอะไรบ้างเพราะเท่าที่ทำกับบีนี่มั่วอยู่หลายคำสั่งเหมือนกัน จบไปแบบงงๆ ได้รู้ว่าต้องย้ำให้ตึกส่งเรื่องผ่านโปรแกรมให้ครบ (ครบแบบไหนต้องให้บีชี้แจงแทนละ555)

 

เรื่องที่สาม เริ่มจากวันนี้มีการปรึกษากันในหน่วยงานเรา ตกลงว่าจะเริ่มใช้โปรแกรมบางส่วนแต่ขยายครบทุกตึก ส่วนเรื่องปลีกย่อยจะกำหนดชัดเจนอีกที เพราะหากรอโปรแกรมสมบูรณ์ท่าจะไม่เสร็จในปีนี้แน่ๆ คนสอนเองก็ไม่กล้าสอนเต็มที่เดี๋ยวมันจะมีอะไรเปลี่ยนอีก เอาที่มันไม่มีปัญหาทำไปก่อนนำร่องแล้วค่อยๆ ไปจะดีกว่า เรื่องจุกจิกของโปรแกรมก็มากวนใจเราอีกแล้ว ทำไงได้ครับก็จดปัญหาไปต่อ ก็รู้ว่าโปรแกรมมันไม่เป็นมิตรกะเราเลย และบริษัทคงไม่ยอมแก้ตัวโปรแกรมอยู่แล้ว ผมเลยเก็บมันเอาไว้ในใจ เก็บเอาไว้ทำร้ายตัวเอง..เอิ้กๆ

 

เรื่องที่ 4. ก็เรื่องคอมพิวเตอร์ที่ช่วงนี้กำลังเสียแข่งกับฝนตกเลยครับ อาทิตย์นี้ยังไม่ครบดีเสียไปสองรอบแล้ว พระเจ้าช่วย ทำให้ห้องยาเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กันเพราะระบบห้องยาในอันใหม่จะพึ่งพาคอมพิวเตอร์มาก หากคอมเสียก็ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ งุงิ และด้วยคอมเสียนี่เองทำให้ผมมีเวลาว่างมานั่งแยกใบคำขอยาที่คอนเฟริมแล้ว หลังจากนั่งแยกตามรายชื่อจนใบเต็มห้อง หึๆ สนุกดีนะครับเหมือนเกมส์จับคู่เลย เกือบชั่วโมงเต็มที่คอมเสีย ( หมายเหตุ คนไข้นอกนั่งรอไม่มีครับเพราะคิดมือไปหมดแล้ว ส่วนคนไข้ในก็ให้รอต่อไปครับถ้าไม่ด่วนจริงๆ จะเสียเวลามานั่งเข้าเครื่องอีกตลบแล้วจะมีปัญหากะคนที่ไม่ใช่คนเช็คด้วย )

และจากเรื่องนี้ก็ขยายต่อเรื่อง Drug profile ครับว่าจะทำยังไงจะ พิมพ์ออกมาไหม เพื่ออะไร จะได้ใช้จริงหรือไม่ ก็หลากความคิดอีกครับและไม่ชัดเจนด้วยว่า จำเป็นขนาดไหน เพราะจะตอบว่าจำเป็นก็จำเป็นต้องทำครับ เวลามีปัญหาใบยาหาย คอมเสียอย่างวันนี้และวันจันทร์ แต่ก็ติดที่โปรแกรมมันไม่รวดเร็วเอาซะเลย ในคนไข้ที่มียามากๆ จะอืดนานมาก บางทีก็ค้างไปเลย จึงไม่เหมาะกับคนไข้ที่ต้องอยู่นานๆ เฮ้อ....

แต่ผมก็คิดนะครับ อยากให้โปรแกรมออกเฉพาะสัปดาห์ล่าสุดได้ไหม หรืออกเฉพาะช่วงวันที่เราระบุได้ไหมก็ต้องคุยกับบีอีก ถ้าทำได้เราอาจจะพิมพ์ออกมาสัปดาห์ละครั้งก็ได้จะได้ลดปัญหาคอมช้าและไม่เปลืองกระดาษมากกรณีที่คนไข้อยู่นานๆ

 

พิมพ์ไปมาจะสามทุ่มแล้ว วันนี้ก็จบแค่นี้ละครับ

ปล. ผอ.ตอบจดหมายเรามาด้วย เอื้อก แถมตอบนิ่มๆ ว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ขอโทษด้วยนะครับจริงๆ ฉบับนั้นผมจะส่งเฉพาะหัวหน้าวิไลวรรณแต่เผอิญลืมแยกจดหมายทำให้ได้กันครบทุกคนเลย ความผิดผมเองคร้าบ...

 

หมายเลขบันทึก: 39538เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2006 20:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบ หากมีแนวคิดไม่เสียกะตังหรือยอมเสียกะตังก็ยังไม่มั่นใจว่าได้ดังใจ   กำลังรอความคืบหน้าอยู่มีข้อมูลอะไรก็สือสารมาด้วยเน่อ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท