ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน เกาะติดชุมชน สิทธิชุมชน สิทธิพลเมือง

หนูทำ หนูเป็นอย่างนี้ผิดด้วยหรือ


“ หนูทำอย่างนี้ผิดด้วยหรือ ” นี่คือเสียงสะท้อนของเยาวชนคนหนึ่ง จากเวทีสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นเพื่อเด็กและเยาวชน อนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพ ผู้ซึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่ท่ามกลางบริบทของครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็ง อันจะเป็นลูกที่น่ารักขอพ่อแม่และจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไปในอนาคต

หนูทำ หนูเป็นอย่างนี้ผิดด้วยหรือ

พื้นที่ โอกาส บนความห่วงใยในตัวเยาวชน

เรื่อง / ภาพ : ข่าวเยาวชน  คนยุวทัศน์

ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน ฉบับที่ ๕ พฤษภาคม ๕๓

 

สวัสดีค่ะ .... น้องๆ เยาวชนและท่านผู้อ่านทุกท่าน

        “  หนูทำอย่างนี้ผิดด้วยหรือ   ”    นี่คือเสียงสะท้อนของเยาวชนคนหนึ่ง  จากเวทีสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นเพื่อเด็กและเยาวชน    อนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพ   ผู้ซึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่ท่ามกลางบริบทของครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็ง อันจะเป็นลูกที่น่ารักขอพ่อแม่และจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไปในอนาคต

        และจากการที่ผู้เขียนได้ทำโครงการทุนชีวิตของเด็กและเยาวชนในชุมชน  หรือว่า  เด็กพลัส  นั้น  พอที่จะบอกได้เลยว่า  ยังมีเด็กจำนวนมากที่เป็น เด็กดี และมีข้อดีมากมายที่อยากให้ผู้ใหญ่รับรู้  เช่น  เป็นเด็กดีของพ่อแม่    ยอมรับและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น  กล้าคิด  กล้าแสดงออก   การพัฒนาด้านการกีฬาในชุมชน  มีการรวมตัวกันออกกำลังกาย  เล่นฟุตซอล    การมีจิตอาสา   การปลูกป่าชายเลน และการต่อต้านยาเสพติด  ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นภูมิคุ้มกันสำหรับเด็กและเยาวชนทั้งนั้น     

         เราทุกคนเกิดมามีทุนชีวิตในระดับหนึ่ง  และจะเพิ่มขึ้นตามการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่มีความรัก ความเข้าใจในการเสริมสร้างให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพทั้งด้านจิตใจ  ร่างกาย  การปลูกฝังสิ่งที่ดีงามตามรากเหง้าของสังคม วัฒนธรรม   ประเพณี  สิ่งแวดล้อม  ล้วนแล้วแต่เป็นการเสริมสร้างทุนชีวิต ทั้งต้นทุนภายนอกและภายใน 

          ขณะเดียวกันปัจจุบันนี้โลกยุคเทคโนโลยีได้ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว  สร้างความเป็นวัตถุนิยมจนห่างไกลความเป็นธรรมชาติมากขึ้น    แย่งกันอยู่    แย่งกันกิน    แย่งกันเรียน    จนบางครั้งเกิดความเครียดและความกดดันให้แก่เด็ก  ๆ  เยาวชนก็ต้องเคร่งเรียน  ผู้ใหญ่ก็ต้องเคร่งกับการหาเงิน   จนทำให้สังคมนี้เปลี่ยนไป เกิดพฤติกรรมที่เสี่ยงแก่เด็กและเยาวชนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสารเสพติด  ท้องก่อนวัยอันควร  ขาดความรักจากครอบครัว  และมองว่าเด็กคือสาเหตุของการเกิดปัญหา ทั้งหมด

        ในทางตรงกันข้ามหากมองเด็กและเยาวชนเป็นวัยที่มีพลัง  มีความคิดสร้างสรรค์ และมีศักยภาพตามความถนัดของตนเอง   ให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมที่มีส่วนร่วมทั้งในส่วนของครอบครัว  เพื่อน  โรงเรียน  ชุมชนและสังคม แล้วละก็จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี  และผู้เขียนมองว่า พลังที่สำคัญมากที่สุดคือ พลังตัวตน ของเด็กและเยาวชน  เด็กกล้าคิด  กล้าพูด  กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง   กล้าเสนอความคิดเห็น แม้ว่าบางครั้งความคิดเห็นหรือความกล้าแสดงออกเหล่านั้นจะแตกต่างจากผู้อื่นไป  แต่พวกเขาก็เห็นว่าไม่ได้ผิดอะไร กลับมองเห็นถึงคุณค่าของตนเอง และศักดิ์ศรีของความเป็นคนที่ควรจะมีเท่าเทียมกันต่างหาก  และมันก็คือมุมองของเยาวชน ซึ่งไม่ได้เหมือนกันทุกคน และในความเหมือนนั้นก็ย่อมมีความต่าง เกิดขึ้น   หากผู้ใหญ่เปิดโอกาสที่จะให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกและยอมรับในความเป็นตัวตนของเขา

       ซึ่งผู้เขียนจะเล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งในกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งผู้เขียนได้อยู่ร่วมกิจกรรม และรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยตลอด  ในกิจกรรมดังกล่าวได้มีการรวมกลุ่มเยาวชนเพื่อจัดกิจกรรมให้เยาวชนได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการร้อง  เล่น เต้น รำ   โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งเยาวชนและประชาชนทั่วไปไม่น้อยกว่า  ๕๐๐  คน ซึ่งกิจกรรมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะการแสดงของน้องเจมส์   ที่ใช้ชื่อชุดการแสดงว่า    คาบาเร่  โดยการแสดงของน้องมีลักษณะคล้ายกับการเต้นโคโยตี้ การแต่งกายแบบผู้หญิง  ทั้งที่น้อง เจมส์ เป็นผู้ชาย  แต่จากการที่ได้รู้จักสัมผัสกับน้อง ทำให้รู้ว่า ถึงแม้ว่าร่างกายของน้องจะเป็นผู้ชายแต่จิตใจและท่าทางของน้องมีลักษณะเหมือนผู้หญิง  ซึ่งการแสดงของน้องในครั้งนั้นสร้างความประทับใจ เรียกเสียงหัวเราะ  สร้างความสนุกสนานให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างมาก และน้องเจมส์ก็มีความสุขจากการที่ตนเองได้แสดงความสามารถในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องเจมส์ใฝ่ฝันอยากจะทำแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงออก เวทีนี้จึงเปรียบเสมือนเวทีที่ทำให้ความฝันของน้องเป็นจริง

        แต่เมื่อการแสดงจบลง  ประมาณ  ๒ – ๓  วัน   ก็มีเสียงสะท้อนออกมาจากชุมชนของน้องเจมส์ ว่า   การแสดงของน้องเจมส์ไม่เหมาะสม  ไม่อยู่ในกรอบของชุมชน เกิดการไม่ยอมรับจากผู้ใหญ่บางกลุ่มในชุมชน  แต่ในภาพรวมของสังคมส่วนใหญ่ชื่นชมและยอมรับในสิ่งที่น้องเจมส์ได้แสดงออกมา เพราะนั่นถือว่า เยาวชนได้แสดงออกถึงความสามารถและศักยภาพของตนเองในทางที่ถูกต้องและสร้างสรรค์ โดยได้แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง และทำให้เห็นว่าตัวเองก็มีคุณค่าทางสังคมเหมือนกัน

        ถึงสังคมภายนอกจะยอมรับในความสามารถของน้องเจมส์ก็ตาม แต่น้องเจมส์จะอยู่ในชุมชนของตนเองได้อย่างมีความสุขหรือไม่ เนื่องจาก ชุมชนได้อนุมาน และตีตราน้องเจมส์ว่า เป็นเด็กที่ไม่อยู่ในกรอบของชุมชน

        จากเสียงสะท้อนทั้งในแง่บวกและแง่ลบ คงจะมีคำถามในใจของน้องเจมส์ ว่า  “ ผิดด้วยหรือที่หนูทำอย่างนี้ ” เพราะสิ่งที่หนูทำลงไปนั้นไม่ได้ทำร้ายใคร  ทำไมผู้ใหญ่จึงต้องคอยจับผิดหนูด้วย  หนูแค่ต้องการแสดงออกถึงความสามารถของหนู   ขอแค่พื้นที่ที่เปิดโอกาสให้กับหนู มีผู้ใหญ่ให้คำปรึกษาและสนับสนุนให้เยาวชนได้แสดงออกตามความถนัดและความชอบในทางที่ถูกต้องและสร้างสรรค์  เพราะหนูเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน เด็กก็จะทำสิ่งที่ดีดีได้เหมือนกัน  ชุมชนก็จะได้เยาวชนที่มีศักยภาพ สร้างชื่อเสียงและความเจริญให้เกิดขึ้นในชุมชนและสังคมได้

        ดังนั้น  เมื่อท่านได้อ่านคอลัมน์นี้แล้ว สมมุติว่าให้ท่านเป็นน้องเจมส์ในคอลัมน์นี้ท่านจะทำอย่างไร  และหากให้น้องเจมส์เป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออก กล้าคิดวิเคราะห์ ในสิ่งที่ถูกต้องให้สังคมยอมรับ  คุณคิดว่าจะทำอย่างไร  ?

           ผู้ใหญ่ทั้งหลายมีความคาดหวังในตัวเด็กมากมาย .... แต่ในขณะเดียวกัน  ตัวเด็กเองก็มีความคาดหวังหรืออยากเห็นผู้ใหญ่ทั้งหลาย  พ่อแม่  โรงเรียน  ชุมชน รวมทั้งตัวเยาวชน  ร่วมกันทำหน้าที่หรือบทบาทของตนเองอย่างเหมาะสมแล้ว  ก็น่าจะช่วยพัฒนาให้เด็กเมืองคอนเป็นเด็กดีได้เช่นกัน .

 

 

หมายเลขบันทึก: 392176เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2010 14:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 13:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท