ทุกครั้งที่น้องเจ้าหน้าที่งานประสานงานวิจัยโทรมาขอคุยเป็นการส่วนตัว เราต้องเตรียมใจไว้เลยว่ามีเหตุต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่อีกแล้ว แต่ครั้งนี้หนักหน่อยเพราะไปในระยะเวลาใกล้เคียงกันถึง 2 คนเลยทีเดียว คือ คุณนพนัฐลาออกไปเรียนต่อ และคุณทนงศรีได้งานใหม่ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานประสานงานวิจัยต้องมาทบทวนและเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องมีข้าราชการมาปฏิบัติงานประจำที่งานประสานงานวิจัย ซึ่งในที่สุดก็ขอความร่วมมือจากกลุ่มงานแนะแนวทางการแพทย์และสวัสดิการสังคม โดยขอพยาบาลให้การปรึกษามาปฏิบัติงานประจำ ซึ่งพี่เปี่ยมสุขก็ยินดีให้คุณปัทมาวดีมาช่วย ทั้งๆ ที่กลุ่มงานแนะแนวเองก็ขาดคนอยู่เหมือนกัน แต่ก็เห็นว่างานประสานงานวิจัยวิกฤตกว่า และยังให้คุณปัทมาวดีไปๆ มาๆ ทำหน้าที่ต่อเนื่องที่กลุ่มงานแนะแนวจนลุล่วงได้เหมือนเดิม ก็ช่วยกันประสาพี่ๆ น้องๆ ที่มีความปราถนาอยากให้งานขององค์กรไม่ติดขัด
ต้องขอขอบคุณ พี่เปี่ยมสุขและน้องๆ ทุกคนในกลุ่มงานแนะแนวเป็นอย่างมาก เพราะตอนที่ดิฉันมาเปิดศูนย์วิจัยในปี 2541 ก็ต้องถูกดึงตัวออกมาจากกลุ่มงานแนะแนวเช่นเดียวกัน สรุปแล้วก็ต้องช่วยกันตลอดไป ในการเตรียมปรับระบบการทำงานของงานประสานงานวิจัยได้ ลปรร. กับคุณหมอวิศิษฎ์ ไว้บางส่วน คุณหมอบอกว่าขอไปคิดเป็นการบ้าน (ไม่รู้ว่าเรียกถูกหรือไม่) เพราะคุณหมอไปคิดระหว่างไปประชุมที่ต่างประเทศ (14 - 18 ก.ค. 2549) จะเล่าสู่กันฟังในครั้งต่อไปเมื่อได้รายละเอียดชัดเจนนะคะ
ยังไม่รู้ว่าอะไรจะรออยู่ข้างหน้า...แต่จะพยายามนะคะ
ยังไงก้อ...สู้ สู้ ค่ะ
ฝากเนื้อ ฝากตัว ด้วยนะคะ ("o)