สังเขปประวัติวัดทุ่งศรีเมือง


วัดทุ่งศรีเมืองเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี มีโบราณสถานที่สำคัญคือ "หอไตรกลางน้ำ" ที่อนุชนรุ่นหลังควรศึกษาเรียนรู้

สังเขปประวัติวัดทุ่งศรีเมือง

                         เดิมที่บริเวณที่เป็นที่ตั้งวัดทุ่งศรีเมือง  ในปัจจุบันนี้เป็นทุ่งนาอันกว้างใหญ่  มีป่าไม้อยู่ล้อมรอบ    กาลต่อมา   ( ประมาณตอนปลาย ร.3 )    ท่านเจ้าคุณ    พระอริยวงศาจารย์ญาณวิมลอุบลคณา-ภิบาลสังฆปาโมกข์  ( สุ้ย )    นับว่าท่านมีรูปร่างทรวดทรงสูงใหญ่สีผิวขาว    ท่าทางงามสง่าผ่าเผยมาก    กำเนิดที่บ้านกวางคำ  ต.เขื่องใน  อ.เขื่องใน  ซึ่งห่างจากที่ตั้งจังหวัดอุบลฯ  ไปทางทิศพาพัย  ประมาณ  ๙00 เส้น  เป็นผู้ได้เข้าไปเล่าเรียน    พระปริยัติธรรมในกรุงเทพฯ    พำนักอยู่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร   ( ซึ่งเป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราช    ญาโณทยมหาเถร  องค์ปัจจุบันนี้ )   ได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็น หลัก คำ  คือ  เทียบเท่าเจ้าคณะเมือง  หรือเจ้าคณะจังหวัดเดี๋ยวนี้  ก่อน  ท่านพันธุโล ( ดี )  วัดเหนือท่า  ซึ่งเป็นผู้สร้างวัดสุปัฏนารามองค์แรก  หลายปี   (วัดสุปัฏสร้างประมาณ  พ.ศ.  2394  ถึง  2409)  ทราบว่า  ท่านสุ้ย  ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ    มีราชทินนามว่า    พระอริยวงศาจารย์ญาณวิมลอุบลคณาภิบาลสังฆปาโมกข์    ได้รับแต่งตั้งในรัชกาลที่  3    ประชาชนนิยมเรียกท่านว่า  ท่านเจ้า    มีพัดยอดปักทองขวางด้ามงา     แต่ไม่มีแฉก  และมีย่ามปักทองขวาง    มีฝาบาตรมุขเป็นบริขาร ของเหล่านี้ยังรักษาเก็บไว้ที่วัดป่าน้อย    ( วัดมณีวนาราม  ซึ่งเป็นที่อยู่ของท่านมาจนบัดนี้ )  ท่านผู้นี้เป็นผู้หนึ่งที่ได้นำขนบธรรมเนียมประเพณีอันดี    ตลอดจนศิลปหัตถกรรมมาจากกรุงเทพฯ    มาเผยแพร่  กล่าวคือ  ตั้งการสอบพระปริยัติธรรม  และหนังสือไทย     สร้างโบสถ์สร้างพระบาทและหอไตร    ก็เอาอย่างมาจากพระนครมาสั่งสอน  และก่อสร้าง     สิ่งที่ท่านสร้างยังปรากฏอยู่ที่วัดทุ่งศรีเมือง     มาจนบัดนี้  เบื้องแรกท่านมาเจริญสมณะธรรม    คือ    นั่งสมถะกรรมฐาน    และวิปัสสนากรรมฐาน    ที่บริเวณที่เป็นที่ตั้ง หอไตรและหอพระบาทนี้ และท่านก็เดินทางลงกรุงเทพมหานคร ไปจำลองเอารอยพระพุทธบาทวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ขึ้นมาประดิษฐานไว้วัดทุ่งศรีเมือง พร้อมกับนำหลวงพ่อเงิน คือพระประธานในหอพระพุทธบาทซึ่งเป็นพระพุทธรูปเนื้อเงิน ทั้งองค์ มาประดิษฐานไว้วัดทุ่งศรีเมือง จนถึงปัจจุบัน     ท่านจึงได้ชักชวนทายก ทายิกา สร้างหอไตรและหอพระบาท  และวัดทุ่งศรี-เมืองขึ้นโดยลำดับ    มีบริเวณจดถนนทั้งสี่ทิศ    คือ    ทิศเหนือจดถนนพโลรังฤทธิ์  ทิศตะวันออกจดถนนหลวง                  ( คุมถึงบ้านประชาชนและบ้านพักข้าราชการ  และส่วนข้าราชการล้อมรอบ        วัดทุ่งศรีเมืองอยู่ทุกวันนี้ ) ทิศตะวันตกจรด ถ. นครบาล และทิศใต้จรด                   ถ. ศรีณรงค์        เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว    ประมาณปลายรัชกาลที่  4    และต้นรัชกาลที่  5    ก็ว่างจากพระเถรผู้ใหญ่ปกครองอยู่หลายปี    จนถึง  พ.ศ.  2424   ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล ( บุญรอด  นนฺตโร)  อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี    สมัยท่านเป็น   พระบุญรอด  นนฺตโร  ได้ปกครองสืบมาจนถึง       พ.ศ.  2485  ในสมัยของหลวงปู่ดีโลด (พระครูวิโรจน์รัตโบบล) เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมือง ในเมื่อประชาชนได้รับความเดือนร้อน ได้มาขอสร้างที่อยู่อาศัยในเขตรอบวัดท่านก็อนุญาตให้ ตลอดทั้งส่วนราชการที่อยู่รอบวัดทุ่งศรีเมือง มาขอจากหลวงปู่พระครูวิโรจน์รัตโนบล ท่านก็อนุญาตให้โดยกล่าวคำว่า  ดี  ดี  ดี  ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล ถือว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่   ปกครองจังหวัดอุบลราชธานี    เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี  ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมืองมาจนกระทั่งถึง  พ.ศ.   2485   ท่านจึงมรณภาพไปตามสภาพร่างกายของท่าน                                (ท่านมีอายุ   88   ปี)    ท่านพระครูสีตาภินันฑ์  (สีดา  โสวันทา)  เป็นเจ้าอาวาส องค์ที่   3    ของวัดทุ่งศรีเมืองท่านได้ซ้อมแซมบูรณ  หอไตร   หอพระบาท    และก่อสร้างกุฏิใหญ่  (กุฏิสีตาภินันฑ์) เป็นกุฏิไม้เนื้อแข็งสองชั้นยังคงอยู่ปัจจุบันนี้  ซึ่งได้มีการซ่อมแซมในสมัยของหลวงปู่  พระราชรัตโนบล  มีการยกย้ายไปติดกับกำแพงทางทิศใต้  เพราะเหตุที่ว่า  พื้นกุฎีต่ำมาก  หน้าฝนน้ำจะท่วมขัง  จึงมีการยกและย้ายไปดังกล่าว     สมัยท่านปกครองได้สร้างศาลาการเปรียญ    กุฏิตึกซ่อม    หอไตร  และหอพระบาท  ซึ่งยังปรากฎอยู่จนทุกวันนี้    ต่อจากนั้น    ท่านพระครู สีตาภินันท์ ( สีดา  โสวันทา )  ได้ปกครองสืบมา  จนถึง พ.ศ.  2501 ท่านจึงถึงมรณภาพไป    ระยะท่านปกครอง ได้สร้างกุฏิไว้หลายหลัง    เช่น    กุฏิใหญ่  ซึ่งเป็นที่อยู่ของท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสทุกวันนี้    พ.ศ.   2502 พระสงฆ์สามเณรทายกทายิกาวัดทุ่งศรีเมือง    จึงได้พร้อมใจกันไปอาราธนาท่านเจ้าคุณ    พระราชรัตโนบล    วัดมณีวนาราม  มาเป็นเจ้าอาวาวปกครองสืบมาจน ปี พ.ศ. 2548                        ระยะที่ท่านมาอยู่    ท่านก็ได้ชักชวนญาติโยมสร้างซุ้มประตูโขง    ซ่อมแซม       หอพระบาท  และสร้างศาลาการเปรียญ (วิหารศรีเมือง) สร้างหอระฆัง    และสร้างกุฏิใหม่  กุฏิธานี-สุเทพ  และกุฏิรับรอง    ตลอดจนได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณรอบศาลาการเปรียญ   ให้สูงและสม่ำเสมอขึ้น    อย่างที่ได้ประจักษ์แก่ท่านผู้ได้พบเห็นแล้วนั้น   (เก็บความจากหนังสือประวัติวัดป่าน้อย   ประวัติวัดสุปัฏนาราม   และหนังสือประวัติท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล  ในสมัยที่ท่านมาอยู่วัดทุ่งศรีเมือง สภาพวัดเป็นที่ลุ่มฝนตกมาน้ำท่วมขังทุกปี ท่านไม่เป็นผู้บริหารโรงเรียนบาลีวิจิตร (ร.ร. อุบลวิทยากรปัจจุบัน) ท่านเล่าว่า การเดินทางไปวัดป่าน้อย จะต้องลุยน้ำตลอดในช่วงหน้าฝน วัดทุ่งศรีเมืองในสภาพที่เห็นปัจจุบัน ได้ถมพื้นขึ้นประมาณเกือบสองเมตร เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขัง จนทำให้กุฎีต่าง ๆ ต้องยกขึ้นหรือต้องถมพื้นขึ้น     วัดทุ่งศรีเมืองจึงได้รับเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างในปี พ.ศ. 2507ได้มีการพัฒนาจนบัดนี้ เห็นได้จากสภาพโบราณสถาน ของวัดทุ่งศรีเมืองได้รับการบูรณะดูแลมาเป็นอย่างดี    สร้างอาคารเรียน  โรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา  มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขนาด  กว้าง   เมตร  ยาม   เมตร   2  ชั้น  และอาคารเรียนโรงเรียนผู้ใหญ่วิโรจน์รัตนวิทยา  การศึกษาผู้ใหญ่  วัดทุ่งศรีเมือง                                               

หมายเลขบันทึก: 39021เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2006 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
ขอบคุณมากคะ กำลังคิดว่าจะหาข้อมูลอะไรให้เด็กอ่านดี ไว้ค่อยแลกเปลียนกันนะคะ จาก ครู เทศบาล 2 หนองบัวคะ
ไม่ทำให้ผิดหวังเลย เมื่อแวะเข้ามาเยี่ยมชม ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ขอบคุณนะคะ
อ่านแล้วค่ะ.....ได้รับความรู้...และฝากรอยไว้แล้วค่ะ

ขอบคุณครับ ทำไห้ผมระลึกถึงความหลังสมัยที่ไปเรียนที่โรงเรียน วิโรจน์วิทยา ตอนนี้คิดถึงอาจารย์และเพื่อนทุกคนครับสมัย2527 ครับ กุฏิผาติสุวรรณ มีไครเข้ามาบ้างตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ

ได้รับความรู้มากมายค่ะ

...จัวน้อยเมืองดอกบัว...

เชิญทุกท่านรับฟังสถานีธรรมะออนไลล์..คลื่นดีทุ่งศรีเมือง.........สามารถเปิดรับฟังใด้ที่หน้า..15...24.....จัดรายการโดยจัวน้อยวัดทุ่งศรีเมือง

กุฏิผาฏิเป็นกุฏิของพระครูสุห์สำลีปัจจุบันใช่ใหมครับพอดีผมพึ่งมาอยู่ใด้ 6ปีหลังครับ ที่ว่าปี27ผมยังไม่เกิดเลยครับผม

สถานีวิทยุวัดทุ่งศรีเมือง

ขอเชิญทุกท่านแวะชมสถานีวิทยุวัดทุ่งศรีเมือง

สถานีวิทยุวัดทุ่งศรีเมือง FM 103.50 Mhz

อุบลราชธานี

045-250841

เชิญร่วมพิธี สวดมนต์ปฏิบัติธรรม ข้ามปี เสริมสิริมงคลชีวิต

รับพร น้ำพระพุทธมนต์ และของขวัญปีใหม่ ๒๕๕๔

ณ บริเวณอุโบสถวัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

------------------------

ในวาระโอกาสขึ้นปีใหม่ อันเป็นช่วงเวลาทุกคนรอคอยที่จะได้เฉลิมฉลองและเริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ๆ ไม่หลงใหลระเริงไปกับการท่องเที่ยวหรือร่วมกิจกรรมที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่อาจจะนำมาซึ่งความสูญเสียโดยคาดไม่ถึง และเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ภาครัฐ เอกชน พระสงฆ์ และประชาชน ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนและรณรงค์ การงดเว้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง วัดทุ่งศรีเมือง โดยองค์การพระผู้นำพัฒนาแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ร่วมกับ เครือข่ายอุบล สร้างสุข พ้นทุกข์จากเหล้า จึงได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา มหาราช ขึ้น ตามกำหนดการดังนี้

วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓

เวลา ๑๘.๑๕ น. ผู้เข้าร่วมงานลงทะเบียน รับหมายเลขเพื่อรับของขวัญปีใหม่

เวลา ๑๙.๑๕ น. ทำวัตรเย็น ปฏิบัติธรรมตามภาคปกติ

เวลา ๒๐.๒๕ น. ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีลประกอบพิธี

ถวายพระพรชัยมงคลพระเจ้าอยู่หัวพระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญชัยมงคลคาถา

ผู้ร่วมงานทั้งหมด สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ธัมมจักรกัปปวัตน

สูตร และบทสวดต่าง ๆ สลับแลกเปลี่ยนของขวัญและอวยพรปีใหม่

จนถึง เวลา ๐๐.๕๙ น.

วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔

เวลา ๐๐.๑๕ น. รับน้ำพระพุทธมนต์ ย่ำฆ้อง กลอง ระฆัง เป็นเสร็จพิธี

ฉะนั้น จึงขอเชิญท่านร่วมพิธี และแจ้งเชิญชวนญาติสนิทมิตรรักลูกหลาน ไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ วัดทุ่งศรีเมือง โดยพร้อมเพรียงกัน โปรดนำของขวัญปีใหม่ไปร่วมงานด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท