.......................................
ในห้วงหลังๆมานี้
มี website ที่ครูวุฒิเข้าอ่านและเก็บประเด็นมาใช้ประโยชน์ทั้งในงานประจำและงานตามอารมณ์ ก็คือ
website ของ "ศูนย์ข้อมูลข่าวสารการปฏิรูปประเทศไทย" โดยสำนักข่าวสถาบันอิศรา
ซึ่งทำให้ครูวุฒิได้เห็นความเคลื่อนไหวและทิศทางของความคิด
ทั้งของปัจเจกบุคคลและองค์คณะบุคคลหรือองค์กรต่างๆพอสมควร
...................................
และในวันนี้
ก็ได้เห็นท่านผู้เฒ่าระดับปราชญเมธีของแผ่นดินไทยอีกท่านหนึ่ง
ได้ร่ายบทปัจฉิมกถาฝากเป็นข้อคิดและแนวทางการปฏิรูป
เนื่องในงานสัมมนาเครือข่ายสายสายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ๘ มหาวิทยาลัย
หัวข้อ “มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: ก้าวหน้าหรือถอยหลัง สร้างสรรค์หรือล้มเหลว”
สำหรับภาคการศึกษาของไทยทุกระดับ โดยเฉพาะระดับมหาวิทยาลัย
สถาบันการศึกษาที่มีสิทธิ์และหน้าที่คัดสรรคนชั้นหัวกระทิของชาติ (ผู้ชนะจากการแข่งขันจำและจิ้ม)
เข้าไปเพื่อหล่อหลอมและพัฒนาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพของสังคม
จะได้นำไปเป็นแง่คิดและแนวทางในการปรับรูปแบบและเป้าหมายการจัดการศึกษา
ในส่วนที่อยู่ในมือของท่าน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
(อ่านรายละเอียดที่นี่ หรือ ที่นี่ ครับ)
........
และ ณ บันทึกนี้
ครูวุฒิจึงใคร่ความอนุเคราะห์จากเทวดาฟ้าดิน
ได้โปรดดลบันดาลให้
ฯพณฯ ผู้บริหารการศึกษาไทยระดับสูง ทั้งสายการเมืองและข้าราชการประจำ
ได้บังเอิญเข้ามาอ่านรายละเอียดในส่วนนี้สักครั้ง
เผื่อ "การศึกษาไทย" จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นบ้าง
สักนิดก็ยังดี....ขอรับ....
************
ขอบคุณค่ะ..ภาพองค์รวม อาจชัดเจนอยู่บ้างว่า ควรทำอะไร แต่ยังเป็น ?? ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิผล ..และ ใคร จะเป็นผู้ขับเคลื่อนสู่ภาคปฏิบัติอย่างยั่งยืน..
..ภาพย่อยของปัจเจกองค์กร ไม่จำเป็นต้องรอนโยบายจากเบื้องบน สามารถ "ระเบิดจากภายใน" ได้เองบนฐานของความพอเพียงนะคะ..ขอให้กำลังใจค่ะ..
ขอบพระคุณครับคุณพี่นงนาท
ตามไปอ่านแล้วค่ะครูวุฒิ ช่วงที่ผ่านมาชีวิตยุ่งวุ่นวายมาก แต่คิดถึงน้องๆที่โคกเพชรเสมอๆ
สบายดีค่ะ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากน้ำท่วมเลยค่ะ
เพราะชั้นล่างไม่ได้ใช้อยู่อาศัย และที่สำคัญช่วงน้ำท่วมไม่อยู่เมืองลิงค่ะ
รอดไปได้หวุดหวิดมาก เพราะออกเดินทางปุ๊บ เย็นนั้นน้ำท่วมเลย
เฮ้อ...พูดถึงระบบการศึกษาของเราแล้วเหนื่อยใจ
เพราะยิ่งเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ยิ่งแย่ลงไม่ต้องสร้างตัวชี้วัด อันใดมาจับให้วุ่นวาย
ดูให้จะๆที่ผลผลิตเลยค่ะ ว่าเรารับได้แค่ไหน กับความประพฤติและความรู้ความสามารถของเด็กๆรุ่นนี้
ให้ดูจากเด็กทั่วประเทศนะคะ อย่าไปดูเด็กที่มีความพร้อม และครอบครัวดูแลดีที่มีไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์
ไม่อยากเดา ว่าอนาคต ที่เด็กรุ่นนี้โตเป็นผู้ใหญ่ บ้านเมืองเราจะมีชะตากรรมอย่างไร นะคะ