(๖)
“เมื่อไร อำเภอเมือง จะเริ่มทำกะเขาสักทีละ...”
คำพูดทีเล่นทีจริงของ บุญเกิด อินยะบุตร ทำให้วรรณา ปันทะเลิศ เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขชำนาญงาน โรงพยาบาลลำปางถึงกับครุ่นคิด
จังหวัดลำปางซึ่งได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากในชมรมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ปีแรกเริ่มต้นใน ๒ อำเภอนำร่องคือ อ.แจ้ห่ม และ อ.ห้างฉัตร ปีถัดมาเพิ่มขึ้นอีก ๒ อำเภอ คือ อ.เกาะคา และ อ.เถิน สิ่งที่ทำให้วรรณา ปันทะเลิศ หนักใฝจก็คือ ในหลายอำเภอของ จ.ลำปาง ที่เหลือตัดสินใจเข้าร่วมโครงการไปแล้ว
อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากในชมรมผู้สูงอายุของ จ.ลำปาง อยู่ในความรับรู้และอยู่ในความสนใจของให้วรรณา ปันทะเลิศ มาโดยตลอด จากการเข้าร่วมประชุมทันตบุคลากรของ จ.ลำปาง เกือบทุกครั้ง สิ่งที่ทำให้เธอยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมเนื่องจาก ภาระหนักอึ้งถึง ๑๒ ประการในมือ อีกทั้งยังขาดทีมงานที่จะร่วมหัวจมท้ายในการรับงานใหม่เข้ามา
ปี ๒๕๕๑ ทันตแพทย์ท่านหนึ่งย้านมาจากโรงพยาบาลศูนย์ เธอจึงหารือและชักชวนทันตแพทย์ท่านนั้นรับโครงการฯ เมื่อทันตแพทย์เห็นด้วย เธอก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการในปีที่สาม
เธอมิได้ลำบากใจหรือยุ่งยากในใจในการเริ่มต้นงานนัก เนื่องจากได้สะสมความรู้ที่ได้รับการบอกเล่าผ่านเวทีต่าง ๆ ที่เข้าไปร่วมมา เธอรู้ดีว่าจะเริ่มต้นอย่างไร จะทำกิจกรรมเช่นไร การเลือกชมรมที่เข้มแข็งเพื่อทำงานด้วย เป็นภารกิจแรกที่ต้องดำเนินการ ซึ่งเธอตัดสินใจเลือกชมรมผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครลำปาง
โดยปกตินั้น ชมรมผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครลำปาง จะมีการประชุมร่วมกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งในการประชุมแต่ละครั้งจะมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปให้ความรู้ ทั้งนี้ฝ่ายเวชกรรมสังคมของโรงพยาบาลลำปางก็ใช้เวทีนี้ให้ความรู้อยู่บ่อยครั้ง เธอเองได้ติดตามไปสังเกตุการณ์ในเวทีนั้นและได้พูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคมของเทศบาลนครลำปาง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุด้วยตนเอง เธอให้ข้อมูลถึงงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากในกลุ่มผู้สูงอายุที่จะลงมาขับเคลื่อน แล้วขอคำแนะนำว่าควรจะเลือกชมรมใด
“ชมรมผู้สูงอายุชุมชนวัดสิงห์ชัย” คือคำแนะนำที่เธอได้รับ
ในการประชุมชมรมผู้สูงอายุชุมชนวัดสิงห์ชัย ในคราวถัดมานั้น วรรณา ปันทะเลิศ ได้ไปประชุมร่วมกับสมาชิกชมรมที่วัดสิงห์ชัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของชมรมฯ เธอให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมทั้งชักชวนชมรมฯ ให้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งชมรมฯ ก็ให้ความสนใจอย่างยิ่ง พร้อมใจกันตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ
กิจกรรมเริ่มจากการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากให้กับสมาชิก ซึ่งวรรณา ปันทะเลิศ ได้ดำเนินการร่วมกับทันตแพทย์ผู้รับผิดชอบโครงการฯ จากนั้นก็ได้อบรมเข้มให้กับประธานชุมชน ตัวแทน อสม. และคณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุ จำนวน ๑๐ คน เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ทำหน้าที่ในการขยายผลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากให้แก่บรรดาสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน
ความรู้ที่แกนนำทั้ง ๑๐ ท่านได้รับการอบรมนั้น ขยายผลไปสู่สมาชิกคนอื่น ๆ ในชุมชนหลายช่องทาง เช่น การเผยแพร่ความรู้ภายในครอบครัว การเผยแพร่ความรู้ในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังจากกิจกรรมเยี่ยมบ้าน การให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนในโณงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ฯลฯ
ผลการดำเนินงานให้ความรู้ความเข้าใจซึ่งส่งผลต่อวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้องเหมาะสมได้รับการกระจายข่าวให้กับชมรมผู้สูงอายุอื่น ๆ ในเขตเทศบาลนครลำปางทราบ ซึ่งต่างก็สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการเช่นเดียวกับชมรมผู้สูงอายุชุมชนวัดสิงห์ทอง และร้องขอมาทางเทศบาล เทศบาลจึงได้ทำหนังสือขอรับการสนับสนุนมายังโรงพยาบาลขอขยายพื้นที่ดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีก ๕ ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่ามะโอประตูป่อง ศรีล้อมแสงเมืองมา ปงสนุก ดงชัย และพระแก้วหัวข่วง โดยทางเทศบาลนครลำปางเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณดำเนินการ จำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท
ในปีเดียวกันนี้วรรณา ปันทะเลิศ ได้ขยายผลการดำเนินงานไปยังชมรมผู้สูงอายุนอกเขตเทศบาลด้วย โดยประสานงานกับสถานีนามัยในแต่ละพื้นที่ เลือกชมรมผู้สูงอายุที่มีความเข้มแข็งในทุกตำบล ในเขต อ.เมืองลำปาง ตำบลและ ๑ ชมรม แล้วลงไปทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกันกับชมรมในเขตเทศบาล จำนวน ๑๕ แห่ง ทั้งนี้ งบประมาณดำเนินงานทั้งหมดราว ๔๐,๐๐๐ บาท โรงพยาบาลเป็นผู้ให้การสนับสนุน
ในปีถัดมา ทางเทศบาลได้สนับสนุงบประมาณขยายผลการดำเนินงานในอกี ๔ ชุมชน ได้แก่ ชุมชนช่างแต้ม ประตูตาล หัวเวียง และตรอกไฟฟ้าเก่า
....................
เป็นการขยายผลที่น่าชื่นชมมากค่ะ..ปากต่อปาก..รวดเร็วยิ่งกว่าวิธีอื่น..
กิจกรรมศิลป์บำบัดของเยาวชนรร.เพชรบุรีปัญญานุกูล
สวัสดีค่ะ
เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆค่ะ ฝากดูแลทุกวัยนะคะ อย่าเน้นแต่ผู้สูงอายุ เพื่ออนาคตผู้สูงอายุรุ่นต่อๆไปจะได้สุขภาพฟันดี ไม่ต้องพึ่งมาดูแลตอนเป็นวัย สว. เหมือนปัจจุบันนี้
สุขภาพปากดีแล้ว ก็พักยิ้มกันสักนิดนะคะ
http://gotoknow.org/blog/kanda02/389700
สวัสดีค่ะ
มาแอบด้อมมองก่อน ของพี่คิมเหลืออีก ๒ ตอน รอให้ใกล้หมดเวลาถึงเขียน
สวัสดีค่ะ มาชื่นชมกิจกรรม
อ่านเพลินดีค่ะ ภาษาลีลาการเขียนอ่านแล้วไม่หนักสมอง
ทำให้อ่านงานวิชาการที่ไม่รู้สึกเหมือนวิชาการ
ทั้งที่สาระสำคัญก็เรื่องเดียวกัน
ซึ่งถ้าดิฉันเขียนก็จะติดภาษานักวิชาการจ๋าอีกแน่นอน
คงต้องฝึกเขียนแบบคุณหนานเกียรติบ้างแล้วล่ะ