หญ้าคาเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มาก ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและด้านสมุนไพร** แต่ในที่นี้ฉัน***จะขอกล่าวถึงหญ้าคาในด้านที่เคยสัมผัสเกี่ยวข้องมาบ้าง ถึงจะไม่มากมายนักก็ตาม
หญ้าคา Thatch Grass
หญ้าคาจัดเป็นวัชพืชหรือศัตรูอย่างหนึ่งของชาวนา หน้าฝนก็จะขึ้นเขียวระบัดแตกใบอ่อน ตอนยังเป็นใบอ่อนนี้วัวควายชอบกิน แต่เมื่อโตเต็มที่แล้วใบจะคมมาก วัวควายไม่อยากกิน เพราะถ้าไปและเล็มใบแก่ที่คมๆนั้น ก็จะเจอดีใบบาดปากเอาได้ หญ้าคาสูงกว่าต้นข้าวนิดหน่อย(ประมาณ ๒ เมตร) ใบของมันเวลาบาดจะแสบ ๆ คัน ๆ
ช่วงที่แตกหน่ออ่อน หน่อก็จะแหลมเปี้ยบ ถ้าไม่ใส่รองเท้าอย่าเดินผ่าเข้าไปในบริเวณกลุ่มที่หญ้าคาขึ้นอย่างหนาแน่นเป็นอันขาด หน่ออ่อนก็จริงแต่ทิ่มฝ่าเท้าแล้วละก็ถึงเลือดได้ ฤดูแล้งหญ้าคาก็จะเหี่ยวแห้งตาย ตายจากความร้อน ไฟป่า(รากใต้ดินไม่ตาย) พอถึงฤดูฝนก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่
หญ้าคากับการทำนา
ด้วยความทนทานตายยากนี่แหละ เมื่อถึงหน้าทำนา ทำให้ชาวนาหนักใจที่จะต้องเหน็ดเหนื่อยในการกำจัด ไถดะพลิกหน้าดินก็จะเป็นเหมือนขุดรากหญ้าคาขึ้นมาตากแดด แต่การกำจัดด้วยวิธีไถก็ยังไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะการไถก็ไถได้ระดับความลึกไม่มาก ด้วยรากหญ้าคานั้นทั้งแน่นทั้งลึก ถ้าจะให้ดีต้องลงแรงขุดซ้ำอีกครั้ง ขุดชนิดถึงรากถึงโคน
มีจำนวนน้อยๆ ก็พอรับมือไหว ถ้ามากๆ สักครึ่งงานแค่นั้น ก็เล่นเอาเราท้อเลยเหมือนกัน ขุดหญ้าคาเหมือนใช้แรงสองเท่า คือขุดดินก็หนักอยู่แล้วนี่มีหญ้าคาที่รากแน่นมากๆเพิ่มขึ้นอีก เหนื่อยเลยงานนี้
ทั้งไถทั้งขุดรากขึ้นมาแค่นี้ จะถือว่าหมดภาระแล้วยังไม่ได้นะ เพราะหญ้าคายังอยู่เช่นเดิม ยังไม่ตาย ต้องถึงเผาไฟโน่นแหละถึงจะวางใจได้ ก่อนจะที่เผาไฟ ก็ต้องนำรากมาตากแดดให้แห้งดีเสียก่อน บริเวณไหนมีหญ้าคา ข้าวก็จะไม่งาม เพราะหญ้าคาจะข่ม-แย่งอาหาร จนข้าวไม่โตหรือต้นข้าวจะเหลือน้อย เหลือบางๆ
หญ้าคา : วัสดุทำบ้านและเครื่องใช้สอยจากธรรมชาติ
ที่กล่าวมาเหมือนหญ้าคาจะดูไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่อย่างไรก็ตามหญ้าคานั้น ก็ยังมีคุณค่าอยู่ไม่น้อยใช้มุงหลังคาบ้าน มุงเล้าไก่ เล้าเป็ด คอกหมู มุงหลังคากระท่อม มุงหลังคายุ้งข้าว มุงหลังคาห้างนา เมื่อก่อนนี้จะมีบ้านมุงแฝก บ้านหลังคามุงหญ้าด้วย
หลังฤดูเก็บเกี่ยว ฉันกับพ่อก็จะไปหาเกี่ยวหญ้าคากันละ ตามท้องนาไม่มีก็ต้องไปหาตามชายป่า ริมทุ่ง ตามโนน ตามหัวปลวก ถ้าเป็นตามโนน ตามชายป่าก็ไม่ใช่มีเฉพาะหญ้าคาอย่างเดียว แต่จะมีหญ้าแฝกด้วย บางทีก็จะพูดกันว่าไปเกี่ยวแฝกเกี่ยวคา
เกี่ยวแฝกเกี่ยวคาก็เกี่ยวเหมือนกันกับเกี่ยวข้าว แต่เกี่ยวแฝกเกี่ยวคาต้องเกี่ยวทั้งต้นเลย เพื่อให้ได้ลำต้นยาวๆ แล้วมัดเป็นกำๆ โดยขนาดมือกำรอบ เมื่อได้ปริมาณเต็มตู้(เรือน)เกวียน (แค่นี้ก็พอเพราะที่บ้านจะใช้ไม่มากมีมุงห้างนาและคอกหมู ยุ้งถ่าน) บางปีก็ไม่ต้องลุหลังคาห้างนาคือไม่เปลี่ยนหลังคาใหม่ ก็เข็นกลับบ้าน ตากแดดให้แห้ง แล้วพ่อแม่ฉันจะช่วยกันสางต้นที่หักและเศษหญ้าออกทีละกำมือ สางได้หลายๆกำมือ แล้วนำมารวมกันเป็นมัดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางสัก ๒๐ เซนติเมตร(ขนาดประมาณต้นกล้วย)เพื่อเตรียมกอง(ไพ-ถักทอ)เป็นตับแฝก ตับคาต่อไป
การไพหญ้าจากหญ้าคา เพื่อทำแฝกมุงหลังคาบ้าน ห้างนา และสิ่งปลูกสร้าง
กิจกรรมกรรมกองแฝก-กองคา(คนบ้านฉันเรียกกองแฝก)จะเกิดขึ้นประมาณเดือนสี่เดือนห้า(มีนาคม-เมษายน) งานหน้าแล้งที่มีสีสันของชาวบ้านที่เห็นเด่นชัดสำหรับแม่บ้านและสาวๆก็คือการกองแฝกนี่เอง เพราะทุกบ้านก็มีความจำเป็นจะต้องใช้เหมือนกัน ไปบ้านไหนก็จะพบเห็นคนนั่งกองแฝกตามใต้ถุนบ้านบ้าง ใต้ร่มไม้บ้าง
วิธีการกองแฝก อุปกรณ์ คือไม้ไผ่ไม้ลวกผ่าซีกแบนๆ ยาว ๒ เมตร กว้างสัก ๑ นิ้ว(ขนาดเท่าหน้ากว้างไม้บรรทัด) ไม้ตอก,ปอกระเจา,ต้น-เครือย่านาง,ปอกล้วย,ปอแก้ว,เชือกฟาง,ใบจากกับหญ้าคา-หญ้าแฝก นำหญ้าคามาวางเรียงไว้ด้านหน้า ไม้ตับคาวางข้างตัวด้านซ้าย ปอจากธรรมชาติดังกล่าวก่อนจะนำมาใช้ ต้องแช่น้ำให้อ่อนตัว จะทำให้ปอนั้นเหนียว และไม่หักเวลานำมาผูกมัด
ผู้นำนาญการในเรื่องกองแฝก จะหยิบจับหญ้าคา-หญ้าแฝก มาพาดไม้ซีก(ไม้ตับ) พับ หัก ให้ก้านหญ้าอยู่ด้านเดียวกัน ส่วนใบจะอยู่ตรงข้าม ใช้ปอผูกมัดทีละเปลาะ จนสุดปลายไม้ แล้วก็เปลี่ยนไม้อันใหม่ต่อไป คนที่ทำจนคล่องแคล่วแล้วนั้น ขณะทำก็เคี้ยวหมากไปพูดคุยกันไปด้วย ไม่มีผิดพลาด ไม่ผิดคิว เสียหาย ทำได้เร็วดูเพลินดี แต่ผู้ฝึกใหม่ๆ ต้องค่อยๆทำไปอย่างช้าๆ
ไพหญ้าคา
หญ้าคาที่สำเร็จรูปเป็นตับแล้ว ก็จะนำไปตากแดดให้ปอที่มัดนั้นแห้ง แล้วก็จะนำไปเก็บไว้ที่เพิงเก็บแฝกข้างยุ้งข้าว
เวลาเปลี่ยนหลังคาใหม่แต่ละครั้ง นอนกลางคืนจะหอมกลิ่นหญ้าคาโชยมาตามสายลม ปลายหญ้าคาจะถูกมัดเป็นจุก เพื่อรองน้ำฝน พอฝนตก น้ำฝนก็จะไหลจากหลังคาทั้งหมดมารวมที่ปลายจุก เพียงแต่เอาถังหรือโอ่งน้ำไปรองน้ำฝนมาไว้กินได้ตลอดปี ถ้าจะให้ดีแล้วละก็ ก่อนรองน้ำฝน ควรให้น้ำฝนชะล้างหลังคาสักสองสามครั้ง แล้วเราก็จะได้น้ำฝนบริโภคที่ปลอดภัย จากวัชพืชที่มองเห็นเป็นศัตรูร้ายไม่มีคุณค่า ก็กลับกลายมาเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ใช้งานได้อย่างดี
จะเห็นได้ว่าการกำจัดวัชพืชด้วยแรงงานของคนและสัตว์(ไถ)นั้นเป็นวิธีทางธรรมชาติง่ายๆที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก พูดให้ทันสมัยเท่ ๆ หน่อยก็คือทำอยู่ ทำกินทุกอย่างล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
โดยปรกติบ้านหลังคามุงแฝก จะเย็นกว่าบ้านมุงหลังคาสังกะสี วันฝนตกก็จะได้ยินเสียงเม็ดฝนตกใส่หลังคาแฝก มีเสียงเบา ๆ ฟังเพลิน ๆ ไม่น่ารำคาญเหมือนหลังคาสังกะสี เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น นอนหลับสนิทท่ามกลางเสียงกบเขียดที่ร้องดังระงมในท้องทุ่งนา.
...............................................................................................................................................................................
หมายเหตุและเชิงอรรถ
* บทความนี้เขียนและบันทึกถ่ายทอดไว้ในเวทีคนหนองบัว โดย ท่านพระคุณเจ้า พระมหาแล ขำสุข(อาสโย) ในชื่อหัวข้อเดียวกันนี้ที่ dialogue box 763 ของเวทีคนหนองบัว เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมและค้นหาอ่านได้ง่าย รวมทั้งเพิ่มพูนศักยภาพการเขียนสะสมความรู้ สร้างวัฒนธรรมการอ่านและใช้ความรู้ในวิถีชีวิต ส่งเสริมให้ชาวบ้านและคนทั่วไปเข้าถึงความรู้ของท้องถิ่นที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของคนจากชุมชน ผ่านระบบค้นหาความรู้และข้อมูลทางเทคโนโลยี IT บูรณาการมิติชุมชนเข้ากับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมความรู้ผสมผสาน ต่อยอดขึ้นจากพื้นฐานชนบท ซึ่งจะส่งเสริมให้ชุมชนมีภูมิปัญญาปฏิบัติในชีวิตและเป็นองค์ประกอบการก่อเกิดสุขภาวะและสังคมเข้มแข็งในชุมชน ผมจึงขอนำมารวบรวมไว้เป็นหัวข้อเฉพาะนี้อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้ความเคารพในความสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมเขียนข้อมูลความรู้จากเรื่องราวในวิถีชีวิตสะสมเป็นภูมิปัญญาสาธารณะ ผมจึงขอรักษาความเป็นต้นฉบับไว้โดยจัดย่อหน้าให้ง่ายต่อการอ่านและปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
** หญ้าคา ชื่ออื่น : หญ้าคา, คาหลวง (ทั่วไป), ลาลาง (มะลายู), สาแล (มลายู-ยะลา-ตานี) : แปะเม่ากึง, เตี่ยมเซากึง (จีน-แต้จิ๋ว); Thatch Grass : ชื่อวิทยาศาสตร์ Imperata Cylindrica Beauv วงศ์ Gramineae (อ่านและศึกษาความรู้การใช้หญ้าคาเพื่อสุขภาพ : ข้อมูลเกี่ยวกับหญ้าคาของมูลนิธิหมอชาวบ้าน [คลิ๊กที่นี่] : วิรัตน์ คำศรีจันทร์)
*** หมายถึงผู้เขียนบันทึก พระมหาแล ขำสุข (อาสโย)
ข้อมูลภาพถ่ายประกอบบทความ
ภาพชาวบ้านนั่งไพหญ้า : แม่บุญมา คำศรีจันทร์ บ้านตาลิน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ทำไพหญ้าจากหญ้าคา เพื่อเป็นวัสดุทำหลังคามุงแฝก ภาพกระต๊อบหรือห้างนา : ห้างนาของชาวบ้านหนองบัว กลางท้องนาบริเวณห้วยน้อย สะพานหนึ่ง ใกล้กับอำเภอหนองบัว ถ่ายภาพโดย : วิรัตน์ คำศรีจันทร์
กราบนมัสการพระคุณเจ้าพระมหาแล ขำสุข (อาสโย) และสวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์
เจริญพรอาจารย์วิรัตน์
เจริญพรอาจารย์ณัฐพัชร์
เจริญพรอาจารย์ธนิต
สวัสดีค่ะ
จะแนะนำให้เด็ก ๆ เข้ามาอ่านหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ เพราะที่ชุมชนบ้านของเด็ก ๆ เขามีอาชีพการกองและไพหญ้าคาขายค่ะ
มีวางขายข้างถนนสองฝั่ง มีนายทุนรับซื้อและจ้างไพหญ้าคาด้วยค่ะ เด็ก ๆ ส่วนมากทำเป็นและมีรายได้เสริมค่ะ
เจริญพรคุณครูคิม
นมัสการพระคุณเจ้าพระมหาแล
ป่าแก ป่าคาจริง ๆ นั้นพี่ครูยังไม่เคยเห็นเจ้าค่ะ แต่ที่โรงเรียนเคยให้เด็กไปขุดมาจากไหนไม่ทราบ นำมาปลูกกั้นไม่ให้ดินพังทลาย สังเกตว่ามันเติบโตและขายพันธุ์รวดเร็วมากค่ะ
นายทุนคือคนมีฐานะในหมู่บ้าน เขามาปรึกษาพี่ครูก่อนว่า จะรับซื้อหญ้าคา และจ้างกอง จ้างไพหญ้าคาด้วย และจำหน่ายที่หน้าบ้านเขาเลย "ทำแบบนี้ดีไหมครู"
พี่คิมเสนอให้เขารวมกลุ่มกัน และจัดทำซุ้มไม้ไผ่มุงหญ้าคาไว้ขายด้วย มีการเก็บออมรายได้ด้วย แต่ไม่ทราบเขาทำได้แค่ไหน เพราะพี่คิมไม่ได้ติดตาม ได้แต่ไปโรงเรียนเช้าและกลับเย็น
ด้วยปีนี้ได้ลาออกจากราชการแล้วเจ้าค่ะ รอการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ๑ ตุลาคมเจ้าค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ธนิตย์ครับ
กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระอาจารย์มหาแลครับ
สวัสดีครับคุณครูคิมครับ
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆของ "หญ้าคา" ... ธรรมชาติสร้างประโยชน์ในทุกสิ่ง..หากมนุษย์รู้จักค้นหา..
..ที่บ้านมี "หญ้าหนวดแมว " ขึ้นตามซอกซีเมนต์..สังเกตว่าแมวชอบไปเล็มกินแล้วสำรอก เพื่อบำบัดโรคบางอย่าง..จึงไม่อยากถอนทิ้งเพราะเกรงใจแมวค่ะ..
หญ้าคานี้ก็เหมือนกันครับ ที่บ้านนอกนั้น พวกแมวและสุนัขก็มักจะไปเล็มปลายใบหญ้าคาแล้วก็สำรอกอาหารออกมา