การปรับพฤติกรรมของคุณแม่
ได้มีโอกาสพบครอบครัวน้องชาย น้องสะใภ้ ในวันเตรียมงานทำบุญครบรอบ ๑๐๐ วัน การเสียชีวิตของคุณแม่ของน้อง(๑๓ ส.ค.) ในท่ามกลางการเสวนาออกรสชาดของบรรดาญาติ และเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ยามค่ำคืนที่ฝนพรำ ๆ เริ่มตั้งแต่อดีต ๆ ๆ ๆ จนมาถึงปัจจุบัน ส่วนมากเป็นเรื่องความสนุกสนาน ความประทับใจ และทยอยหายไปทีละคนสองคน เหลือห้าคนก็ต้องหันหน้าเข้าหากัน เสียงค่อยเบาลงตามความดึกที่เพิ่มขึ้น
หลายสาวที่เหนื่อยล้าจากการเล่นมาขอน้ำดื่ม เตรียมเข้านอน คุณแม่นำกระเป๋าออกจากท้ายรถส่งให้ ก็นำสพายใส่หลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนที่น้องชายและน้องสะใภ้จะขอคำปรึกษา โดยสรุปว่า คุณแม่ทำทุกอย่างให้กับลูกชายตั้งแต่เกิดจนมาถึงชั้น ป.๔ สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจและเกิดเป็นความทุกข์ คือ ลูกชายทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตั้งแต่การแต่งกาย กินข้าว สวมถุงเท้า รองเท้า ไปเรียนปวดท้องก็ไม่บอกคุณครู จนขับถ่ายเลอะกางเกง สร้างความเดือดร้อนให้กับคุณครูและเพื่อนนักเรียนทั้งบนรถรับ-ส่งหรือในห้องเรียนจะแก้ไขอย่างไร
ปัญหาที่พอสรุปได้
ถ้าปล่อยให้ลูกกินข้าวเองแม่กลัวจะเลอะเทอะเปื้อนเสื้อผ้า แม่จึงต้องป้อนข้าวลูก ลูกสวมเสื้อผ้าช้า ติดกระดุมช้า ร้อยเข็มขัดช้า ผูกผ้าพันคอช้า แม่รีบจึงทำให้ ปัจจุบันน้องสาวช่วยทำให้อีกคน จนในที่สุดลูกชายคิดอะไรไม่เป็น ทำอะไรไม่ได้ พ่อแม่กลัวลูกทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ไม่ได้
การปรับพฤติกรรมของคุณแม่
พฤติกรรมที่เป็นปัญหาคุณแม่ยอมรับและเสียใจในพฤติกรรมของตนที่ทำกับลูกที่ผ่านมา เมื่อเปรียบกับลูกสาวที่ทำอะไรได้เอง คิดเป็น ทำเป็น ซึ่งเมื่อคุยกันคุณแม่ก็จะพยายามปรับพฤติกรรมของตน โดยการจะถอดถอนพฤติกรรมที่ทำให้ลูกทุกอย่าง มาเป็นช่วยลูกทำ และลดลงจนลูกจะสามารถทำด้วยตนเองได้ ด้วยการเน้นลูกเป็นสำคัญ
ก็ขอให้กำลังใจคุณแม่ที่มีความรัก ความปรารถนาดีที่มีต่อลูก ซึ่งยังไม่สายเกินไปยังเป็นไม้อ่อนที่ดัดได้ ที่สำคัญคือดัดหรือปรับพฤติกรรมของคุณแม่ให้ได้
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
สบายดีนะคะ น้ำท่วมไหมคะ ด้วยความระลึกถึงค่ะ
สิริพร