Surviving in Mission Bay


นี่แหละวิถีคนที่นี่ เวลางานทำเป็นทีมเข้มแข็ง แต่เวลาส่วนตัวก็ ตัวใครตัวมัน..อีกอย่าง หาคำว่า "ไม่เป็นไร" ได้ยากเหลือเกิน


ด่านแรกก่อนที่จะเรียนรู้วิชาการ ก็คือการเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับสังคมใหม่
ความรู้สึกการมาครั้งนี้ แตกต่างจากปีก่อนอย่างมาก 
ซานฟรานซิสโกในวันนี้ บ้านเรือน สะพาน อากาศ ก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกต่างกัน..ความตื่นเต้นลดลง แต่ความหนักใจในภาระความรับผิดชอบ เพิ่มขึ้น

          golden gate ในม่านหมอก " Foggy in the summer"

ฉันเลือกอยู่ใน Mission bay campus ด้วยเหตุว่าเป็นชุมทาง free shuttle bus ระหว่าง โรงพยาบาลที่ Panassus  กับที่เรียน ATCR ที่ China basin และที่ซื้อกับข้าว,สถานีรถไฟฟ้าไปสนามบิน ในช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์  ส่วนเสาร์อาทิตย์เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานีรถไฟเข้า Downtown จึงนับว่าสะดวกในการเดินทางมาก ไม่ต้องไต่เขาด้วยขา


โซน Mission bay ชื่อก็บอกว่าเป็นชายฝั่งทะเล แต่..ไม่มีชายหาดงามๆ หรอกคะ เป็นท่าเรือกับโกดัง ข้อดีกว่าโซน panassus คือ มีแสงแดดส่องดีไม่หนาวมาก ลดความ depression ได้บ้าง (ที่นี่ summer ยังไม่ได้สัมผัสคำว่าร้อนเลย)


นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง..Mission bay..Mission way

                    Mission bay housing ติดสถานีรถไฟเข้า Downtown 

ที่อยู่ใน Mission bay เป็นอพาร์ทเมนท์ใหม่เอี่ยมเต็มไปด้วยระบบไฮเทค และแวดล้อมด้วยอาคารรูปทรงประหลาด ขณะที่ Panassus เป็นบ้านสมัยวิคตอเรีย ได้บรรยากาศโรแมนติคของซานฟรานซิสโกมากกว่า แต่ก็ต้องทำใจหากกริ่ง หรือประตูสมัยพระนางวิคตอเรียเกิดรวนขึ้นมา
แรกย้ายเข้ามา ก็ได้รับแฟ้มคู่มือผู้อยู่ 1 ปึก อธิบายละเอียดละออ แต่สิ่งที่เน้นมากๆ คือ
1. ห้ามทำกุญแจห้องหาย หรือ ล็อคลืมกุญแจไว้ในห้องนอกเวลาราชการ เพราะจะโดนปรับ 40 USD! 
2. การจ่ายค่าพัก ถ้าจะใช้เดบิตหรือเครดิตคาร์ดต้องเข้าอินเตอร์เนตไปจ่ายช่วงวันที่ 1-7 ของเดือน ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ ถ้าเกินวันที่ 7 ไปถือว่าจ่ายช้าจะโดนปรับ 
3. การซักผ้า แทนที่จะใช้ระบบหยอดเหรียญ ต้องซื้อการ์ดขั้นต่ำ 10 เหรียญ (ซํกได้ประมาณ 4-5 ครั้ง) หากลืมเสียบการ์ดทิ้งไว้ที่เครื่องซักแล้วถูกคนอื่น ฉกก็เสียค่าไม่ฉลาดไป

ความเป็นคนเวิ่นเว้อทำให้ฉันหนักใจ จนต้องคิดหาแผนป้องกัน critical error ทั้งสองข้อนี้ จนเจอแผนที่ได้ผลคือ
1. คล้องกุญแจไว้ที่ตัวบิดประตูเสมอ ดังนั้นถ้าจะออกนอกห้อง กุญแจจะตกลงพื้น เป็นการเตือนว่า ออกนอกห้องไปไหน ไปเข้าห้องน้ำ ต้องเอากุญแจไปด้วย
2. หาสมุด Academic planner เขียนลงไปในวันที่ 1 ของทุกเดือน ว่า Pay housing การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญมาก ทุกอย่างแม้แต่เวลาเป็นของมีราคา การนั่งรถสาธารณะจะจ่ายเป็นแบบเหมา 2 ชั่วโมง จะนั่งก็ต่อก็ได้ แต่ถ้าเกินเวลาต้องซื้อตั๋วเพิ่ม ดังนั้นแม้แต่ขึ้นรถโดยสารก็ต้องวางแผนว่าจะไปทำอะไร ต่อรถที่ไหน
3. อันนี้ ต้องใช้สติอย่างเดียว เพราะจะเสียบปุ๊บดึงออกปั๊บไม่ได้ ต้องรอให้เครื่องอ่านก่อนจนกว่ามันจะบอกให้ pull off ถึงดึงออกได้ (ทำไม ไม่ตั้งโปรแกรมให้ถ้าไม่ดึงการ์ดออกมีระบบเตือน หรือไม่เริ่มทำงานก็ไม่รู้..วางยาจริงๆ)


ดอกนี้มีมูลค่า 1300 บาท ! 

แม้จะได้รับการแจ้งแล้วว่า unfurnished room แต่ก็คาดไม่ถึงว่า มันจะไม่มีกระทั้งไฟเพดาน! เป็นเหตุให้ต้องหา แหล่งใหญ่เฟอร์นิเจอร์ของฉันคือ " Goodwill shop" ฟังดูดีมียี่ห้อไหมคะ แต่จริงๆ มันคือของมือสอง คำว่า goodwill ก็คือมรดก ตกทอด (อาจเป็นมรดกผู้ล่วงลับที่ลูกหลานมาบริจาคจริงๆ ก็ได้) แน่นอน ราคาย่อมถูกกกก กว่าซื้อของใหม่มาก เหมาะกับ คนจนหน้าใหม่อย่างเรา
กระนั้นอุปกรณ์ไฟฟ้า ร้าน goodwill ก็ยังอุตสาห์มีประกัน (ตั้ง 3 วัน) อย่างโคมไฟอ่านหนังสือ ราคา 6 USD  วิทยุนาฬิกาปลุก sony ราคา 3 USD
ฟูกที่นอนก็ใช้ของ goodwill ปูรองชั้นล่าง แล้วหาซื้อของใหม่วางทับลงไป จริงๆ แล้วพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นมาก ช่วงกรกฎาคม สิงหาคม คนใน campus จะย้ายออกแล้วมีการขายเลหลังถูกๆ ผู้มาใหม่ซื้อใช้ต่อ

Room

 ห้องนี้มีแต่ของ goodwill ยกเว้นอย่างเดียวคือ netbook คู่ยากที่หอบหิ้วกันมา

ก่อนมา ฉันจินตนาการว่า อพาร์ทเมนท์ยูนิตละ 4 คน คงมีเพื่อนเพิ่ม แต่..ความเป็นจริงคือ common room ไม่ค่อยมีใครใช้ จนทีวีกลางห้องฝุ่นจับ..ห้องครัว เพื่อนร่วมยูนิตแต่ละคนใช้แค่เตาไมโครเวฟ กับเทคอนเฟล็กซ์  แล้วก็ห้องใครห้องมัน..
ช่วงแรกๆ ฉันก็รู้สึกแปลกๆ แต่ต่อมาก็ชิน เจอหน้ากันก็คุย (มักไม่เกิน 5 นาที) แต่เจอกันน้อยเหลือเกิน..นี่แหละวิถีคนที่นี่ เวลางานทำเป็นทีมเข้มแข็ง แต่เวลาส่วนตัวก็ ตัวใครตัวมัน..อีกอย่าง หาคำว่า "ไม่เป็นไร" ได้ยากเหลือเกิน

คำสำคัญ (Tags): #mission bay campus
หมายเลขบันทึก: 380234เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2010 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ช่วงแรกๆก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ พวกรูมเมทแต่ละคนเค้าก็มีชีวิตของเค้านะ สนิทกันทีหลังก็มีบ้างไม่เหมือนอยู่เมืองไทยเนอะ ตอนเรียนเวลาอยู่หอก็จะสนิทกับรูมเมทไปโดยปริยาย.. แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยมากหรือเปล่า

เรื่องทำกุญแจคล้องลูกบิดประตูนี่ฉลาดมากๆเลยค่ะ ^_^ เสียดายถ้าน้องอยู่ใกล้ๆบ้านพี่ตอนที่ย้ายมา น้องคงได้เฟอร์นิเจอร์ไปโข เพราะตอนที่ย้ายบ้านขายของไม่ทัน ยกให้เค้าไปซะเยอะเลยค่ะ

สู้ๆนะคะ..พี่จะแวะมาเยี่ยมเรื่อยๆค่ะ

พี่ปุ้มค่ะ

ไม่เคยไปเมืองนี้ครับ แต่ที่นอนน่านอนมาก อากาศเป็นอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณมากคะพี่ปุ้ม สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเรียนจริงๆ จังๆ เลยไม่มีเวลามา update g2k เลย

เรียนอาจารย์ขจิต อากาศที่นี่หนาว สลับกับ หน้าวหนาวคะ :-}

วันไหนมีแสงแดดออก ก็จะดีใจมาก แต่วันไหนครึ้ม แทบไม่อยากก้าวจากหอเลย

อาจารย์เคยไปที่ไหนบ้างคะ เล่าให้ฟังบ้าง

อาจารย์หมอปัทไปอยู่ซานฟารซิสโก นานมั๊ยคะ ไปเรียนเหรอคะ อาจารย์พี่กุ้งขอโทษด้วยที่ไม่ได้เเวะมาเยี่ยมนาน เลยไม่ทราบว่าอาจารย์มาอยู่ต่างเเดน มีความสุขทุกวันนะคะ เเต่ว่าพี่กุ้งพึ่งกลับจากสิงคโปร์ คิดถึงบ้านใจเเทบขาด

แต้ เขียนเก่งขึ้นทุกวันเลยจ้ะ

ขอแค่ครึ่งหนึ่งของพี่เป้ ก็ดีใจแล้วคะ :>

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท