กระชาย
เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าหรือลำต้นอยู่ใต้ดิน ซึ่งมีลักษณะเรียว
ยาวอวบน้ำ ตรงกลางเหง้าจะพองคล้ายกระสวย ออกเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุก
มีสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแกมส้ม เนื้อข้างในเป็นสีเหลืองมีกลิ่นหอม
ใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับกัน สีค่อนข้างแดง ใบมีขนาดยาวรีรูปไข่
ปลายใบแหลมมีขนาดใหญ่สีเขียวอ่อน โคนใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน
ออกดอกเป็นช่อที่ยอด ดอกมีสีขาวหรือสีขาวปนชมพู
ผลของกระชายเป็นผลแห้ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Boesenbergia pundurata (R0xb)
Schitr
วงศ์ :
Zinggberaceae
ชื่อท้องถิ่น :
กะแอน ระแอน (ภาคเหนือ) ขิงทราย (มหาสารคาม) ว่านพระอาทิตย์
(กรุงเทพฯ)
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
กระชายเป็นไม้ล้มลุก สูงราว 1-2 ศอก มีลำต้นใต้ดินเรียกเหง้า
มีรากทรงกระบอกปลายแหลมจำนวนมากรวมติดอยู่ที่เหง้าเป็นกระจุก
เนื้อในรากละเอียด สีเหลือง มีกลิ่นเฉพาะกาบใบสีแดงเรื่อ
ใบใหญ่ยาวรีปลายแหลม ดอกเป็นช่อ สีขาวชมพู ขยายพันธุ์โดยใช้เหง้า
กระชายชอบดินร่วนปนทราย ไม่ชอบดินแฉะ
ต้องการแค่ปริมาณน้ำฝนตามธรรมชาติ
ฤดูที่เหมาะกับการปลูกคือปลายฤดูแล้ง
กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกตามบ้านเรือนทั่วไป
ส่วนที่ใช้เป็นอาหารและยาในประเทศไทยคือเหง้าใต้ดินและราก
ในประเทศจีนมีรายงานการใช้กระชายเป็นยา
ในประเทศเวียดนามใช้กระชายในการปรุงอาหาร
ในประเทศไทยมีพืชที่เรียกว่ากระชายอยู่
3 ชนิด คือกระชาย (เหลือง) กระชายแดง และกระชายดำ
กระชายเหลืองและกระชายแดง
เป็นพืชจำพวก (genus และ species) เดียวกัน
แต่เป็นพืชต่างชนิดกันและมีฤทธิ์ทางยาต่างกันเล็กน้อย
โดยกระชายแดงจะมีกาบใบสีแดงเข้มกว่ากระชายเหลือง
ส่วนกระชายดำ
เป็นพืชวงศ์ขิงเช่นกันแต่อยู่ในตระกูลเปราะหอม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Kaempferia parviflora Wall. Ex Bak.
สารสำคัญที่พบ
รากและเหง้ากระชายมีน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารไพนีน แคมฟีน
เมอร์ซีน ไลโมนีน บอร์นีออลและการบูร
เหง้าและรากของกระชายมีรสเผ็ดร้อนขม หมอยาพื้นบ้านในประเทศไทยใช้เหง้า
และรากของกระชายแก้ปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด
แก้โรคกระเพาะ รักษาแผลในปาก แก้ตกขาว กลาก เกลื้อน
ใช้เมื่อมีอาการปวดข้อเข่า ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง
และใช้บำบัดโรคกามตายด้านอีกด้วย
สรรพคุณ
กระชายมีรสเผ็ดร้อน
สารสำคัญในรากและเหง้ากระชายมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
ในลำไส้ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ช่วยเจริญอาหารและแก้โรคในช่องปาก
1. แก้บิด
ท้องร่วง ท้องเสีย นำรากกระชายย่างไฟ ตำให้ละเอียด
ผสมน้ำปูนใสคั้นเอาแต่น้ำดื่ม
2.
รักษาโรคริดสีดวงทวาร ต้มกระชายพร้อมมะขามเปียก เติมเกลือแกงเล็กน้อย
รับประทานก่อนนอนทุกวัน
3.
ช่วยบำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ตำรากกระชาย 1 กำมือให้ละเอียด
คั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานก่อนอาหารเย็น
4.
ช่วยบำรุงหัวใจ กระตุ้นให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ
นำกระชายแห้งบดให้เป็นผงละลายกับน้ำร้อน
5.
นำรากกระชาย ตะไคร้ หอมแดง ข่า ใบสะเดาแก่ ตำผสมกัน
ใช้ฉีดบริเวณที่มีแมลงรบกวน
6.
บำบัดโรคกระเพาะ กินรากสดแง่งเท่านิ้วก้อยไม่ต้องปอกเปลือก วันละ 3
มื้อ ก่อนอาหาร 15 นาที สัก 3 วัน ถ้ากินได้ให้กินจนครบ 2 สัปดาห์
ถ้าเผ็ดร้อนเกินไปหลังวันที่ 3 ให้กินขมิ้นสดปอกเปลือกขนาดเท่ากับ 2
ข้อนิ้วก้อยจนครบ 2 สัปดาห์
7.บรรเทาอาการแผลในปาก
ปั่นรากกระชายทั้งเปลือก 2 แง่งกับน้ำสะอาด 1 แก้วในโถปั่นน้ำ
เติมเกลือครึ่งช้อนกาแฟโบราณ กรองด้วยผ้าขาวบาง ใช้กลั้วปากวันละ 3
เวลาจนกว่าแผลจะหาย ถ้าเฝื่อนเกินไปให้เติมน้ำสุกได้อีก
ส่วนที่ยังไม่ได้แบ่งใช้เก็บในตู้เย็นได้ 1 วัน
8.
แก้ฝ้าขาวในปาก บดรากกระชายที่ล้างสะอาด ไม่ต้องปอกเปลือก
ในโถปั่นพอหยาบ ใส่ขวดปิดฝาแช่ไว้ในตู้เย็น กินก่อนอาหารครั้งละ 1
ช้อนกาแฟเล็ก (เหมือนที่เขาใช้คนกาแฟโบราณ) วันละ 3 มื้อก่อนอาหาร 15
นาที สัก 7 วัน
9.
ฤทธิ์แก้กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้า คันศีรษะจากเชื้อรา
นำรากกระชายทั้งเปลือกมาล้างผึ่งให้แห้ง ฝานเป็นแว่น
แล้วบดให้เป็นผงหยาบ เอาน้ำมันพืช
(อาจใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้) มาอุ่นในหม้อใบเล็กๆ
เติมผงกระชายใช้น้ำมัน 3 เท่าของปริมาณกระชาย หุง
(คนไปคนมาอย่าให้ไหม้) ไฟอ่อนๆ ไปสักพักราว 15-20 นาที กรองกระชายออก
เก็บน้ำมันไว้ในขวดแก้วสีชาใช้ทาแก้กลาก เกลื้อน
10.
แก้คันศีรษะจากเชื้อรา
ให้เอาน้ำมันดังกล่าวไปเข้าสูตรทำแชมพูสระผมสูตรน้ำมันจากที่ไหนก็ได้
โดยใช้แทนน้ำมันมะพร้าวในสูตร ประหยัดเงินและได้ภูมิใจกับภูมิปัญญาไทย
หรือจะใช้น้ำมันกระชายโกรกผม ให้เพิ่มปริมาณน้ำมันพืชอีก 1 เท่าตัว
โกรกด้วยน้ำมันกระชายสัก 5 นาที นวดให้เข้าหนังศีรษะ
แล้วจึงสระผมล้างออก
11.
ฤทธิ์เป็นยาอายุวัฒนะ
ผงกระชายทั้งเปลือกบดตากแห้งปั้นลูกกลอนกับน้ำผึ้ง กินวันละ 3
ลูกก่อนเข้านอน ตำรับนี้เคยมีผู้รายงานว่าใช้ลดน้ำตาลในเลือดได้
หรือใช้กระชายตากแห้งบดผงบรรจุแคปซูล แคปซูลละ 250 มิลลิกรัม กินวันละ
1 แคปซูลตอนเช้าก่อนอาหารเช้าในสัปดาห์แรก วันละ 2
แคปซูลตอนเช้าในสัปดาห์ที่ 2
วิธีใช้ในการประกอบอาหาร
ส่วนที่ใช้ในการประกอบอาหารก็คือ เหง้าและราก
รากกระชายเป็นส่วนผสมของเครื่องแกงขนมจีนน้ำยา
และเป็นส่วนประกอบของอาหารอีกหลายชนิดเพื่อดับกลิ่นคาวเนื้อและปลา
เช่น ผัดเผ็ดปลาดุก แกงเผ็ดเนื้อ แกงป่า หลนปลาร้า ฯลฯ
วิธีปลูก
กระชายชอบอากาศร้อนชื้นและขึ้นได้ดีในดินปนทราย
วิธีการปลูกคือใช้เหง้า ตัดรากทิ้งไปบ้างให้เหลือไว้ 2 ราก
และปลูกให้ลึกประมาณ 15 ซม. กลบด้วยปุ๋ยคอกและคลุมด้วยฟางแห้ง
รดน้ำให้ชุ่ม
ขอบคุณข้อมูลจาก
คลังปัญญาไทย