อ่านบันทึกนี้ได้กลิ่นโคลนหอม
พร้อมเงาเหงื่อเพื่อผืนนา
พบหนทางพารอด
อุ่นอ้อมกอดเพื่อนแท้
และเราแค่..เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
ตื่นเช้าขึ้นมา ณ GotoKnow หน้าแรก บันทึก ความคาดหวังในการศึกษา ของน้องนิว ได้กระตุกความคิดผมกระเจิงในทันที ด้วยคำสำคัญที่พบในการอ่านบันทึกคือ ความคาดหวัง ค่าของคน ระบบการศึกษา และพบว่าเหมือนผู้เขียนกำลังถูกคาดหวังจากสังคมในระบบนี้ และกำลังถกเถียงกับตัวเอง จนได้ข้อสรุปว่าจะเอาอย่างไรดี ประมาณนั้น มีหลายท่านให้ คห.ไป ผมชอบใน คห.ของ ผอ.บวร เป็นพิเศษ ขอนำมาแปะได้วยนิดนึง เพราะชอบมากครับ ดังนี้
คมความคิดของคนคมสมความรู้
มือชั้นครูเปิดประเด็นเป็นเหตุผล
เรียนและรู้เพื่อยู่รวมร่วมกับคน
พร้อมมองตนอยู่อย่างไรให้พอดี
เรียนป.เอก ป.โท คือโอกาส
บางคนพลาดอาจเรียนน้อยด้อยศักดิ์ศรี
ค่าของคนอยู่ที่ผลของคนดี
เรียนมาก-น้อยมิอาจชี้ว่ามีธรรม
ผมก็ได้ให้ คห.ไป ว่า...การวัดคนด้วยระดับการศึกษา จึงไม่ได้บ่งบอกค่าของความเป็น "คน" ของคน ๆ นั้นแต่ค่าของคน ๆ นั้นน่าจะอยู่ที่ "การเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข" ชอบมากเลยครับที่คุณนิวเขียนไว้ตรงนี้ และขอเพิ่มอีกนิดเถอะครับ อดไม่ได้จริง ๆ ว่า... “ค่าของคน คนนั้น อยู่ที่ได้ทำให้คนอื่นมีความสุขมากน้อยแค่ไหนด้วย” ผมว่านะ (อาจจะผิดก็ได้)
แต่ในบันทึกนี้ผมกลับจะนำเสนอในลักษณะที่ว่า หากคนเราเกิดมาล้วนมีการศึกษาทั้งสิ้น มากน้อยก็วัดกันไม่ได้ด้วย หากจะวัดก็วัดว่านานแค่ไหน วัดจากอายุได้เท่านั้น เพราะผมเชื่อว่าทุกคนกำลังเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย เรียนรู้ในการดำรงชีวิตด้วยการปฏิบัติเพื่อการมีชีวิตจนกว่าจะหมดชีวิต
ฉะนั้นค่าของคนจึงไม่น่าจะมาวัดกันที่ระดับการศึกษาในระบบเท่านั้น เพราะคนที่ขาดโอกาสไม่ได้เข้าสู่ระบบมีอีกเยอะมาก มากว่าคนที่อยู่ในระบบ และคนเหล่านั้นก็กำลังสร้าง/พัฒนาชาติอยู่เช่นกัน ผมพบกับอาสาสมัครมากมาย ที่ทำงานภาคประชาชน คนเหล่านั้นไม่ได้พูดถึงระดับการศึกษากัน หากเมื่อต้องลงบันทึกในแบบฟอร์มด้วยความจำเป็น เราจะอึ้งว่าที่ท่านพูด ท่านเล่ามาเมื่อตะกี้นี่นะ ท่านจบแค่ ป. ... หรือ ม. ... จริงหรือ คำถามเหล่านี้เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งผมจบ ป.โท แล้วกลับมาทำงานใหม่ ๆ ผมมาด้วยความรู้สึกหยิ่งทะนงเหลือเกิน จนค่อย ๆ ลดลง แทบม่เหลือเลยในปัจจุบัน เพราะผมพบความจริงว่า ชาวบ้านเหล่านั้น ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ หากเราจะเชื่อกันเฉพาะคนที่มีดีกรีติดตัวมา
ทุกวันนี้ผมพยายามที่จะทำให้ “คนเคารพคน” ด้วยฐานเชื่อในปัญญาของกันแล้วกันว่า “เท่าเทียมกัน” เพียงแต่เขาได้มีโอกาสปลดปล่อยออกมาหรือยัง เพราะบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ดี ๆ เป็นสิ่งสำคัญมากที่ทำให้เขานำ “ปัญญา” ของเขาออกมาแลกเปลี่ยนกัน ต่างคนต่างรับเอาแล้วนำไปปรับใช้ จากนั้นก็นำกลับมาแลกเปลี่ยนกันอีก ทำซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ จนเกิดการหมุนวนยกระดับปัญญากันต่อไปอีกไม่รู้จบ ฉะนั้นทุกวันนี้ผมจึงพยายามทำหน้าที่ในงานที่รับผิดชอบด้วยการช่วยเร่งให้เกิด “บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ดี ๆ” มากกว่าที่จะไปให้ความรู้ ทุกครั้งเราก็จะพบเห็นแต่ความสุขแท้ เพราะเมื่อคนเราเคารพกันในระดับการเคารพที่ “ปัญญา” แล้ว จะเกิดแต่ปิติ เป็นผลได้
กลับมาที่โจทย์เดิมคือ “ค่าของคน” วัดกันได้หรือ? ผมจึงเชื่อว่าไม่ควรวัดกันครับ แม้จะวัดได้ อันนี้เป็นการวัดค่าของคนที่เป็นคน ๆ นะครับ ส่วนการวัดค่าของคนที่เป็นภาพรวมยังเห็นด้วยครับ แต่เห็นด้วยที่จะวัดกันที่ “ความสุขมวลรวม” ครับ
ใบปริญญาไม่ได้ช่วยให้คนเป็นคน...อย่างสมบูรณ์
ใบปริญญาบางครั้งไม่ได้ขัดเกลาในจิตของคน....
มีคนจบสูงมากมาย...แต่ขาดน้ำใจและความมีเมตตา...
แม้การศึกษา..จะขาดหวัง...ให้คนจบสูงๆ...หันกลับมองสังคม...
แต่คนอีกหลายๆ คนนั่นแหละ...ลืม...
เพราะหลงตน...หลงอัตตา...ว่าตนคือผู้รู้จริง
การให้...และการรับ...อย่างพอดีพอเพียง
ก็อาจโน้มนำ...จิต...แห่งปัญญา...
และการลด...การหลง"ตน"...
นำไปสู่...การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง...
Dr.Ka-poom
ขอบคุณนะครับที่มาเติมเต็ม ต่อยอดให้ นับว่าสมบูรณ์เลยทีเดียวครับ
ความรู้..บางคน บางท่าน...บางความรู้
ไม่จำเป็นต้องมามีใบอะไร...รับรอง...
หากแต่...คนในสังคม...มักมองกัน...ที่ใบ...นั้นเสมอ...
มีคนอีกมากมาย...ที่เป็นผู้สุดยอดแห่ง...ความรู้และการเรียนรู้...โดยที่ไม่ได้เป็น...ดอกเตอร์..หรือจบโทใดใดทั้งสิ้น.ฯลฯ...
และพระพุทธองค์
คงเป็นบทพิสูจน์สอน
สำหรับโลกมายาที่ยังหลงวัดค่าคนแค่
ภายนอก เปลือกนอก เพียงนั้นค่ะ
ดอกไม้ไม่เคยมีเกลีบเดียว
ถึงเรียกว่าดวงดอกไม้มาทายทัก
ทุกผู้คนในวัฏฏจักรหมุนวน
ทุก*โลกเลือก*
หลากสาขาอาชีพก็เกเช่นกัน
มาปันหลอมพร้อมพลี*ดี*
ให้เราได้มีความเป็นสังคมประเทศ
อย่าง
*พอเหมาะพอดี ..
อย่างที่ต้องพึ่งพาพึ่งพิงกันและกัน
อย่างควรเรียนรู้ค่าคำสมานฉันท์สามัคคี
อย่างที่ให้สมเกิดมาเป็นมนุษย์
ได้พบพระพุทธศาสนา
ได้อาศัยร่มเงาพระบุญญาบารมี
ใต้ร่มพระมหาเศวตรฉัตรพระมหากษัตรา
ที่ทั้งโลกหล้าเทิดไท้พระเกียรติเกริกไกร
ใต้ร่มธงไท แห่งแผ่นดินทองผืนอุดมค่ะ
พลีกำนัลจากดวงใจสาวนาค่าเพียงดิน ถึง ทุกดวงใจในGotoKnow ให้ ไหวรู้รับงามทางจิตวิญญาณค่ะ
ค่าเพียงดิน..! | |
สาวบ้านนา | |
| |
Dr.Ka-poom
เห็นด้วยครับตาม คห.ที่ให้ไว้
คุณ.....ครับ
ใช่เลยครับ พระพุทธองค์ทรงสอนโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะใด ๆ เพื่อพ้นทุกข์
คุณ สาวบ้านนาไร้ปริญญาใด ครับ
ขอบคุณสำหรับบทกวี ดี ๆ ที่ผมต้องอ่านแล้วหลับก่อนตื่นมาตีความอีกครั้ง (ยิ้ม ๆ)
อ่านบันทึกนี้ได้กลิ่นโคลนหอม
พร้อมเงาเหงื่อเพื่อผืนนา
พบหนทางพารอด
และอ้อมกอดเพื่อนแท้
เพราะเราแค่..เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
Dr.Ka-poom
ทีหลังอย่าได้เขียนบันทึกแบบ Gender Bias อีกนะครับ กัลยาณมิตรผมหลงเข้าไปวันที่ผมไม่อยู่จะยุ่ง ๆ อีก สงสารท่าน ผอ.บวร จังในวันนี้
อาจารย์หมอ JJ
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้น้องชายไม่เคยขาดหายไปไหนครับ
อาจารย์ Handy
โชคดีจังที่อาจารย์ขยายเสียงถ่ายทอดมาจนผมได้ยินด้วย ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ
คุณ d.1
บทกวีทรงคุณค่ามากครับ ขอนำไปใช้บ้างนะ เวลาทำเวที แบบว่าแต่งเองไม่เป็นนะครับ
อ่านบันทึกนี้ได้กลิ่นโคลนหอม
พร้อมเงาเหงื่อเพื่อผืนนา
พบหนทางพารอด
อุ่นอ้อมกอดเพื่อนแท้
และเราแค่..เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
คุณ d.1และกลอนบทจิ๋ว
ขอบคุณมากนะครับ ที่ยังอุตส่าห์ ปรับใหม่ให้
ไร้นามมาช้าไปหรือเปล่า
สรุปกันไปแล้วนี่นะ ว่า ความดีวัดที่คุณค่าของคน ไม่ใช่ปริญญา
แต่พูดๆกันคือปริญญา ที่เป็นใบๆ ใช่ไหม
ไม่มีใครจะพูดถึงปริญญา ตามความหมายจริงๆ ด้วยหรือ
คนที่คู่ควรกับปริญญา ที่เรียกว่า บัณฑิต
ที่ต้องมี"บัณฑิตลักษณะ" หรือเครื่องหมายให้รู้ว่าเป็นบัณฑิต 3 ประการคือ ทำดี พูดดี คิดดี
ถ้าใครมีคุณสมบัติครบก็คือคนมีปริญญา โดยไม่หรือมี "ใบ"
ดังนั้นคนที่รับ"ใบ"ปริญญาจึงต้องคอยฝึกฝนตนเองเสมอ เพื่อให้คู่ควรกับใบปริญญาที่ได้รับ
ไม่ใช่รับครั้งเดียวก็เป็นบัณฑิต ได้
บางคนไม่เคยได้เป็นบัณฑิตเลยตลอดชีวิต แม้จบรับ "ใบ" ปริญญาเอกก็ตาม ...เพราะขาดคุณสมบัติทั้งสามนั้น
เนตหลุด...ยังเขียนไม่จบเลย...
สรุปความเห็นของไร้นามคือ...ความดีเป็นเครื่องหมายของบัณฑิต บัณฑิตคือคนมีปริญญา ดังนั้น ความดีกับปริญญาเป็นเรื่องเดียวกัน..แต่คนละเรื่องกับ "ใบ"ปริญญา
ค่าของคน อยู่ที่ผลแห่งความดีที่ทำค่ะ ในปัจจุบันเรายังคงต้องมีคำถามอยู่ว่าเอ๊ะ ความดีที่ทำน่ะ มันอยู่ตรงไหน วัดกันอย่างไร มีเครื่องมือชนิดไหนที่วัด ดีที่ได้ทำ หรือทำได้ดี หรือทำดีได้ หรือ ทำแล้วไม่ได้ดี