ดิฉันไปสัมมนาวิชาการโรคไข้หวัดใหญ่ที่โรงแรมลองบีชการ์เด้นโฮเต็ล พัทยา งานนี้จัดขึ้นโดย3หน่วยงานคือกรมคร กรมวิทย์ และมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ ท่านอาจารย์ประเวศไปกับอาจารย์จันทพงษ์ วสี ดิฉันและคุณหมออนุพงษ์ถือโอกาศไปถ่ายรูปกับราษฎรอาวุโสเป็นที่ระลึกค่ะ งานนี้มีวิทยากรจากประเทศไทยและต่างประเทศ กรมต่างๆและแพทย์จากโรงเรียนแพทย์ ดิฉันไม่มีโอกาศฟังในวันที่ 7เพราะนัดกับแพทย์ที่มาจากประเทศเวียตนามที่จะส่งแพทย์มาดูงานประมาณ1สัปดาห์ ดิฉันขอเล่าในส่วนที่พอจะนำมาทำแผนงานของสถาบันได้ดังนี้
1 การระบาดของไข้หวัดใหญ่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะวงจรของการระบาดจะครบ40ปีในปีหน้านี้ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ และสูญเสียแค่ใหนขึ้นกับการเตรียมตัวของเรา
2 ประเทศไทยเตรียมตัวดีที่สุดในประเทศแถบเอเซียด้วยกัน
3 การแพร่จากคนไปคนเป็นไปได้แต่ไม่ง่ายเพราะเชื้อไข้หวัดนกส่วนใหญ่มีพยาธิที่ปอด ไม่พบที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบน
4 กลไกสำคัญค่อการเกิดdiffuse alveolar damage
5 สิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุมในสัตว์ปีกให้สำเร้จ
6 การทำงานทำเดี่ยวๆไม่ได้ต้องประสานกันทุกส่วนและทุกระดับ ทั้งรัฐและเอกชน ประชาชนและชาวบ้านธรรมดาและเจ้าหน้าที่ของรัฐของกระทรวงต่างๆ
7 WHOจะดูแลเรื่องglobal response
เราจะ เผชิญภัยอยางไร
1 ลดคนที่จะexpose ต่อ H5N1
2 เร่งสร้างระบบเตือนภัยได้อย่างทันท่วงที
3 พบเมื่อไหร่รีบจัดการทันที
4 เตรียมพร้อมทีจะรับมือทุกระดับ
5 มีการนำความรู้ความสามารถของทั้งโลกมาช่วยกันโดยเฉพาะเรื่องของวัคซีน
มีรายละเอียดอีกหลายประเด็นที่ทุกท่านสามารถอ่านได้จากwww.ift2004.orgซึ่งเป็นของมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ค่ะ
การประชุมในครั้งนี้ดิฉันต้องมาทำอะไรต่อไป?
1 จัดเตรียมแผนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสถาบันให้ทุกคนเข้าใจบทบาทของแต่ละคนในสภาวะต่างๆกัน
2 ให้ความรู้ทุกระดับ
3 เตรียมความพร้อมทางกายภาพและเครื่องป้องกัน วัคซีน ยา lab
ดิฉันจะภาวนาอยู่เสมอว่าขออย่าให้การระบาดเกิดขึ้นในองค์กรของเราเลย และเมื่อเกิดแล้วดิฉันต้องมั่นใจว่าทุกคนในสถาบันเข้าใจ และนำความรู้ไปขยายต่อให้คนที่บ้านและคนที่ร้จักรู้จักวิธีป้องกันค่ะ
ไม่มีความเห็น