เช้าสายๆวันอังคาร ผมก้าวเท้ายาวๆ ทว่ามั่นคง...มุ่งตรงไปที่ตึกเรียนโดยมิได้แม้แต่จะชำเรืองมองเจ้าแมลงน้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ที่บรรจงอวดลายสวยด้วยปีกบางๆโดยมีธรรมชาติผู้สรรค์สร้าง...ณ ดอกไม้ที่พอจะมีอยู่บ้างพอได้สบายตาข้างตึกสูง...เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
เช้านี้....แดดอ่อนๆพอสบายๆเนื่องด้วยเบื้องบนเริ่มมีเค้าร่างเจ้าก้อนเมฆรูปร่างแปลกตา...เริ่มปกคลุ่มทั่วทั้งแผ่นฟ้า....ณ ที่นี่ หากเป็นที่บ้านสมัยเด็กๆไม่ประสีประสา...คงสนุกสนานในการชี้ชมก้อนเมฆเหล่านั้นมิขาดปาก.....หวังเอาไว้ว่า...สายฝนคงร่วงหล่นทักทายเจ้ายอดหญ้าผู้รอคอยอย่างสงบนิ่งอยู่...ณ..เบื้องล่างมิช้านาน....
วันนี้บริเวณหน้าตึกเงียบเหงา...ผิดปกติ..เด็กๆหายไปไหนกันหมด....หรือว่าวันนี้เค้าหยุดเรียนกัน! “แล้วทำไมผมไม่รู้”.....ทันทีที่เท้าแตะบันใดขั้นแรกของตึก...ตัวผมสั่นสะท้าน...ขนลุกชูชัน...ด้วยเสียงสวดมนต์ “อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ภควา...” ของเด็กๆที่แตกต่างวันก่อนๆ .....ดังมาจากหอประชุมใหญ่ของโรงเรียน....ผมเบนเข็ม..จากที่ตั้งใจจะขึ้นไปบนตึก....เดินตามเสียงสวดนั่นประหนึ่งต้องมนต์มหาเสน่ห์ของสาวเจ้าในวรรณคดีไทย....
เสียงสวดมนต์...ยังคงดังกระหึ่ม....กังวานใสในห้องประชุม...เด็กๆนั่งพร้อมเพรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย...ภาพแบบนี้หาชมได้ยากหนักหนา...โดยมีพระวิทยากรรูปหนึ่งที่นิมนต์มาควบคุมเสียงประสานระหว่างการสวดมนต์.............
เจ้าของดวงตากลมมนใส...ยังคงนั่งนิ่งบ้าง...งอบ้างตามนิสัยที่ชอบความเป็นอิสระไม่ชอบอยู่นิ่ง...... แต่ปากก็ยังท่องบ่นบทสวดมิได้ขาด....ผมนั่งฟังได้สักพักใหญ่ๆ....พลางนึกบ่นกับตัวเอง..ที่สู้เด็กแทบจะไม่ได้....ด้วยผมเกิดมานานเกินพอ...พอกพูนสิ่งที่พบเจอมากจนเกินงาม...สั่งสมกิเลสกองโต..เสียงสวดมนต์ผมคงไม่เพราะเหมือนเด็กๆเหล่านี้ที่สวดด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์....ไม่แน่อาจจะปลุกพุทธองค์ให้ตื่นจากแท่นบรรทมศิลาอาสน์...ก่อนโลกนี้จะร้างไร้ซึ่งผู้คน.....หรือผมคิดเกินไป......
“เป็นไงบ้าง......ครับท่าน” ผมมีโอกาสนั่งคุยกับท่านพระอาจารย์วิทยากร....ช่วงปล่อยเด็กเข้าห้องเรียนหลังการอบรม........
“ก็ดี.....โตแล้วสอนยาก....เด็กๆยิ่งยากกว่า” ท่านหันมายิ้ม ขณะเอาเช็ดหน้าปาดเหงื่อ ตอบด้วยเสียงแหบแห้ง ด้วยพึ่งต่อสู้กับนักพูดวัยละอ่อนพึ่งเสร็จ.....
“อย่างน้อยให้เขาได้เห็นบ้าง....รู้จักพูดกับพระ....ฟังพระพูดบ้าง...แต่ต้องบ่อยๆหน่อย...เพื่อสร้างสิ่งที่ดีงามให้ติดเป็นนิสัยเด็ก....เป็นภูมิคุ้มกัน...เราไม่รู้หรอก ข้างหน้าโตขึ้นเขาจะเจอะเจอกับอะไรบ้าง แล้วเราจะทำอะไรได้...นอกจากสร้างภูมิคุ้มกันให้เขา.....” ท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบกว่าเดิม... “แต่....เราทั้งหมดต้องช่วยกัน!”
ท่านเดินไปแล้ว......พร้อมเสียง “นมัสการพระอาจารย์”...ของเด็กๆที่ประนมมือกล่าวตามทางที่ท่านเดินผ่าน....เห็นแล้ว...เป็นภาพที่ประทับใจเสียนี่กระไร.......ผมนึกในใจ......แล้วถ้าผมเดินผ่านเด็กๆเค้าจะว่าอย่างไร....ผมไม่รั้งรอ...ลุกขึ้นขยับเท้าก้าวยาวๆไปเส้นทางเดียวกันกับที่พระอาจารย์เดินผ่าน....ซึ่งยังพอมีเด็กหลงเหลืออยู่บ้าง...ทันใดนั้น!
“สะสวัสดีครับท่าน ผอ.!” เจอผอ.เข้าเต็มๆ...ไม่ทันที่จะก้าวขาย่างเหยียบต่อถึงเด็กๆเหล่านั้น
“ไม่มีสอนหรอ?” นั่นนะสิครับ...ไม่มีสอนเหรอ...ผมตอบพลางลดสายตาลงต่ำ...แสดงถึงความนอบน้อม....ที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อมตอบเป็นเสียงสั่นๆนิดพองามว่า “มีครับ...กำลังไปครับ” จากนั้น....ก็สาวเท้ายาว...โดยไม่ประสงค์ที่จะฟังถ้อยคำอื่นใดอีก.........ขึ้นตึกไปโล้ด.........(เลยไม่รู้เลย...เด็กๆเขาจะพูดอย่างไร....หุหุ)
สวัสดีค่ะ...น้องเส้าหลง
มาเยี่ยมวันหยุด
และมาให้กำลังใจ เด็กตัวน้อยๆด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ...
น้องเส้าหลง.... วันนี้เขียนได้เยี่ยมมากค่ะ...อ่านแล้วคล้อยตามเห็นภาพชัดเจน
"เช้านี้....แดดอ่อนๆพอสบายๆเนื่องด้วยเบื้องบนเริ่มมีเค้าร่างเจ้าก้อนเมฆรูปร่างแปลกตา...เริ่มปกคลุ่มทั่วทั้งแผ่นฟ้า...."
"เจ้าของดวงตากลมมนใส...ยังคงนั่งนิ่งบ้าง...งอบ้างตามนิสัยที่ชอบความเป็นอิสระไม่ชอบอยู่นิ่ง...... แต่ปากก็ยังท่องบ่นบทสวดมิได้ขาด...."
...รวมถึงท่านทางของน้องเส้นหลงตอนที่หน้า ผอ. ฮิ ฮิ....
เด็กน้อยคนนี้น่ารักน่าเอ็นดูดีจัง..... เสียงสวดมนต์ก็คงใสเหมือนใบหน้าของน้องคนนี้... ชอบบันทึกนี้ค่ะ
สุขกายสบายใจนะคะ...
ครูเส้าหลงครับ รู้สึกดีมากกับข้อเขียนนี้ครับ เหมือนได้อยู่ในบรรยากาศดีดีนี้ไปด้วย เป็นกำลังใจให้นะครับ
เด็กๆคือผ้าขาว
เราจะแต้มสีใดให้เขา..
สีจะสดใสสวยงามแค่ไหน..คอยดูต่อไป
มาเยี่ยม ๆ เจ้าของบ้านหลับไปแล้ว....
ฝันดี ฝันๆ พรุ่งนี้หวยออก ฮ่าๆๆๆ
สวัสดีค่ะแวะมาทักทาย
เก่งมากเลยค่ะเขียนได้ดีมากๆค่ะ...^___^''
ได้กลิ่นนั้นเช่นกันค่ะ..กลิ่นบริสุทธิ์
ขอบคุณค่ะ
สวัสดี เช่นกัน คุณบุษรา ตอนนี้สบายดีใหมครับ ผมอยากร้จักกับคุณ คุณเป็นคนอารมณ์ดีนะเท้ที่อ่านบันทึกของเธอ
นำภาพงานบุญเล็กๆ ของนิสิตมาฝากครับ..
พวกเขายังไม่ได้กลับบ้าน
แต่รวมพลังถวายเทียนพรรษาต่อเนื่องมาสองวัน...
สุขกายสบายใจกันถ้วนหน้า...
คืออีกนิยามเล็กๆ ของการเรียนรู้ในวันหยุดท่ามเทศกาลวิถีพุทธ,วิถีไทย
และมุ่งสู่การให้บริการแก่ชุมชนรายรอบมหาวิทยาลัยไปในตัว..
เป็นการกระตุ้นให้นิสิตเห็นบทบาทและสถานะของตนเองที่มีต่อสังคม
และรับผิดชอบต่อสังคมเท่าที่บทบาทและสถานะเขาพึงกระทำได้...
...ขอบพระคุณครับ..
สวัสดีค่ะ น้องเส้าหลง
ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมพร้องฝากรอยบันทึกไว้
คิดว่าเดินตามมาไม่ผิดหวัง
ขอสมัครเป็นกัลยาณมิตรด้วยคนนะคะ
สุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรงนะคะ
มาเยี่ยมชมความบริสุทธิ์กลางป่าเขาค่ะ