กินอย่างมีสติ (เคล็ดลับลดอ้วน)

กินอย่างมีสติ (เคล็ดลับลดอ้วน)

             เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ระหว่างหยุดภาคเรียนที่ สถาบันชูตากัว ใน อัฟสเตท นิวยอร์ค ผมได้เข้าร่วมฟังการบรรยายจากนักจิตวิทยาจากฟลอริดา ผมจับใจความไม่ได้ว่าการบรรยายนั้นเกี่ยวกับอะไร แต่ผมเห็นผู้บรรยายแต่งกายด้วยชุดที่ดูเรียบร้อย บรรยายไปเรื่อย ๆ อย่างสงบ บอกกล่าวเรื่องราวต่าง ๆ ถึงกำหนดการเรื่องอาหารเย็นของเขาซึ่งได้เตรียมมาในถุงสีน้ำตาล เขากล่าวว่าตั้งใจจะใช้เวลาในการทานอาหารเย็นที่สนามหญ้านอกอาคาร ที่เขาจะใช้เป็นสถานที่สร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหาร เธอบรรยายเรื่องวิธีการกินอย่างมีสติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหนังสือเล่มหนึ่งส่งมาทางไปรษณีย์จากตัวแทนผู้พิมพ์ เป็นหนังสือซึ่งเขียนโดยคุณซูวาน อัลเบิร์ต นักจิตวิทยา ซึ่งอาศัยอยู่ใน วูสเตอร์, โอไฮโอ นอกจากนี้ เธอยังเป็นที่ปรึกษานักเรียน ในมหาวิทยาลัย โอไฮโอ เวสเลเยน อีกด้วย โดยขณะนี้เธออายุ 29 ปี หนังสือเล่มนี้ มีชื่อว่า "กินอย่างมีสติ" "นักเรียนหลายคนถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องการกิน" เธอกล่าวในโทรศัพท์ขณะที่พูดคุยกับพวกเราเมื่อวันก่อน "การควบคุมอาหารเป็นวิธีการที่ไม่ได้ผล กุญแจสำคัญเกี่ยวกับสุขลักษณะการกินก็คือการควบคุมจิตใจของเราเองซึ่งจะส่งผลต่อร่างกาย"
คุณอัลเบิร์ตได้เป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับเรื่องราวทางจิต ขณะที่เธอกำลังอยู่ในช่วงภาคฤดูร้อนของโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น ครอบครัวหนึ่ง แต่เนื้อหาสาระในการบรรยายครั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จนกระทั่งเธอได้เริ่มงานมัณฑนากรในมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ และเป็นที่ปรึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ทเธอดัม และมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด ในแคลิฟอร์เนีย เธอได้พบปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักตัวของนักศึกษา, น้ำหนักที่มากเกินไป อันเนื่องมาจากการขาดการควบคุมเรื่องอาหาร เธอเริ่มเจาะลึกในเรื่องการควบคุมอาหารด้วยพุทธวิธี "ควบคุมจิต ด้วยการกินอาหารอย่างช้า ๆ และให้จิตรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาในระหว่างทานอาหาร" คุณอัลเบิร์ต เขียนบทความนี้ในหนังสือของเธอ "ให้ทุกคนหาที่สบาย ๆ เงียบ ๆ ในมือกำดอกทานตะวันอย่างหลวม ๆ ไว้ 1 กำ" เธอกล่าวไว้ในหนังสือว่า เริ่มแรกให้ตั้งสติ ระลึกอยู่ตลอดเวลาถึงรูปร่างลักษณะของเมล็ดทานตะวันที่กำอยู่ (หรืออาจเป็นลูกเกด ก็ได้) ถัดมาเราก็เริ่มจะได้กลิ่นเมล็ดทานตะวัน ต่อไปเริ่มจะรู้รสชาติ เหมือนกำลังเคี้ยวอยู่ สุดท้ายก็รู้ว่ารสชาติหวานหรือเค็ม ตรงกันข้ามหากเราขาดสติในการกิน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะขาดความควบคุม และจะไม่ได้รสสัมผัส จากประสาทสัมผัสต่าง ๆ เลย "การกินอย่างไม่มีสมาธิ อาจไม่ใช่ปัญหาในการกิน แต่สามารถส่งผลหลายอย่างกับร่างกายและจิตใจ" คุณอัลเบิร์ต ได้ให้ความหมายของพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีไว้ว่า "ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะไม่ใส่ใจในเรื่องการกิน" ดังนั้นการกินที่ดี จึงหมายถึง ฉลาดที่จะกิน, ฉลาดที่จะรู้ว่าทำอะไรอยู่ และต้องไม่ฝืนความรู้สึก "มันเหมือนความรู้สึกของเราเองที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้าใจได้" คุณอัลเบิร์ตได้กล่าวไว้ในการบรรยาย "วัฒนธรรมของเรา ทำให้เราเกิดความรู้สึกละอายรูปร่างของเรา ซึ่งเกิดขึ้นมาเอง"
ทิช นัท ฮันห์ ภิกษุลี้ภัยชาวเวียตนามผู้สอนพระพุทธศาสนา ได้กล่าวอยู่เสมอว่า การระมัดระวังว่าเรากำลังกินอะไรอยู่เป็นเรื่องสำคัญ และสอนให้เรามีสติอยู่เสมอ
ท่านสอนไว้ว่าอาหารแต่ละอย่าง เป็น "ทูตแห่งจักรวาล" แครอท เปรียบเสมือนพระอาทิตย์และโลก เมื่อเราหยิบอาหารเข้าปาก ต้องไม่รู้สึกกลัวหรือวิตกกังวลกับสิ่งที่อยู่ในปาก
ปัญหาโรคอ้วนในประเทศของเราและในโลก ก่อให้เกิดแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องอาหารและการบริโภค มีการควบคุมอาหารจนเป็นเรื่องสมัยนิยม ความคิดในเรื่องการมีสติในการกินจึงเป็นสิ่งที่กระตุ้นได้ง่ายและรวดเร็ว  หนังสือของคุณอัลเบิร์ต ที่พิมพ์เผยแพร่โดย สำนักพิมพ์ นิว ฮาร์บิงเกอร์ มียอดขายกว่า 8,000 เล่ม ซึ่งหาได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไป