วันที่ 5 ก.ค.49 นี้ ผมมีโจทย์หนักหนึ่งเรื่องคือการเป็นวิทยากร KM โดยที่ผมไม่มั่นใจต่อความคาดหวังของผู้เข้าประชุม (เน้นว่าที่ตรงกับความคาดหวัง ครับ!) โดยกลุ่มเปล้าหมายคือข้าราชการและพนักงานของ มรภ.ยะลา 350 คน อันนี้ก็ผมมองว่ามากที่สุดเท่าที่ผมเคยไปเป็นวิทยากรในเรื่องเกี่ยวกับ KM เวลาทั้งหมดที่ผมได้รับมอบหมายคือช่วงบ่ายของวันที่ 5 ก.ค.49
โดยโจทย์ที่เขามอบหมายให้ผมคือ “จะนำ KM มาพัฒนาองค์กร (มรภ.ยะลา) ได้อย่างไร” ซึ่งโจทย์ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม ผมเลยขอเปลี่ยนโจทย์เสียสักนิดเพื่อผมจะได้รู้สึกตัวเล็ก ๆ ลง แล้วจะได้สบายใจในการทำหน้าที่คือ “การพัฒนาคนและงานด้วย KM: ง่าย ๆ และมีพลังร่วม ทำอย่างไร” อันนี้ปรึกษาทางผู้ประสานในการจัดประชุม แล้วก็ตกลงตามนี้ ต่อไปนี้ผมจึงขอทำ BAR: Befer Action Review ดูเป็นประเด็น ๆ ก่อนนะครับ ทั้งนี้เพื่อความกระชับในขั้นตอนการ Action จริง ๆ ดังนี้
1. จัดส่งเอกสารแนะนำ KM ล่วงหน้า เพื่อเป็นเอกสารประกอบ1 และ 2 และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายจะได้อ่านก่อนเข้ามาประชุม (ตามที่ทำ link ไว้) อันนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าของเอกสาร คือ สคส. อาจารย์หมอวิจารย์ พานิช พี่โอ๋-อโณ คุณประชุม โพธิกุล และวารินทร์ สินสูงสุด ซึ่งผมได้ส่งทาง E-mail ให้ผู้รับผิดชอบไปเรียบร้อยแล้ว
2. ผมเตรียม PowerPiont อีกนิดหน่อย เพื่อใช้เรียกความสนใจเท่านั้น แต่เป็นเชิงสรุป ๆ เพราะคิดจะเน้นเรื่องเล่า และยกตัวอย่างความสำเร็จ โดยเฉพาะจากหลากหลายองค์กร หลาย ๆ ท่าน ผมใช้แหล่งข้อมูลจาก Blog GotoKnow.org นี่แหละครับ หากอ้างถึงท่านใด แล้วจะนำมาเล่าอีกครั้งใน AAR ครับ
3. ผมเตรียมให้กลุ่มซึ่งแบ่งเป็นคณะ/สำนัก ได้ทดลองทำ ตารางอิสรภาพ ในเครื่องมือชุดธารปัญญา อันนี้ผมได้ต้นแบบที่เป็นไฟล์ Excel จาก กรมอนามัย จากนั้นจะให้เขาวิเคราะห์เพื่อรู้จักตนเอง และนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาองค์กรได้ในที่สุด ประเด็นนี้คิดว่าเหมาะสำหรับการรับรู้ตน แล้วจะได้เริ่มต้นกระบวนการต่อไปได้ง่าย ๆ เรียกว่าถูกทิศถูกทาง ไม่เหมือนตอนที่ผมเริ่มต้นใหม่ ๆ (สุดงง...กว่าจะได้มองออก)
4. ผมจะแนะนำการใช้ Blog เป็นเวทีเสมือนอันทรงพลังในการ ลปรร. และขยาย/เพิ่มเครือข่ายการจัดการความรู้ แต่ด้วยเวลาอันจำกัด ผมคิดวิธีการที่จะดำเนินการยั่งยุให้รู้สึกว่า Blog ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องของผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ Blog เป็นเรื่องของนักปฏิบัติจริง เป็นที่เราเอาของเรามาเขียนแลกกับการอ่านของคนอื่นที่เป็นความรู้ที่สร้างขึ้นจากการปฏิบัติ ผมพูดบ่อย ๆ ว่า ใครอ่านโดยไม่เขียนบ้างแม้ความเห็น เหมือนเอาเปรียบคนเขียน ไม่ทราบว่าใครโกรธบ้าง ไม่เคยได้รับการสะท้อนกลับมา แต่ที่สะท้อนกลับมาคือไม่โกรธ แต่เปลี่ยนเป็นคนเขียนบันทึกที่มีคุณภาพแทน ประเด็นนี้ตั้งใจจะเปิดประเด็นให้ ลปรร.โดยการเล่าเรื่องจาก Blogger ชาวยะลา ที่มีการบันทึกอย่างสม่ำเสมอ และมีความสุขในการเขียนบันทึก ให้ช่วย ๆ กันถ่ายทอดความประทับใจออกมา
5. ผมจะไปหาโดยการทำหน้าที่เป็นแมงมองหา “คุณอำนวย” ของยะลา เพื่อเปิดประเด็นการร่วมมือเป็นเครือข่ายคุณอำนวยภาคใต้ และระดับประเทศ หรือ KFC(oP) ที่รอการขับเคลื่อนในเดือนเดียวกันนี้ที่ มอ. (20-21 ก.ค.49) ต่อไป ซึ่งเดิมผมมองไม่เห็นทางมากนักที่จะเชื่อมเครือข่ายมายังกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ด้วยสถานการณ์หลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญเมื่อสาธารณสุขได้แยกเขตตรวจราชการฯ เสียใหม่ ซึ่งเดิมเราอยู่เขตเดียวกัน เป็นเขตที่ 12 ตอนหลังพัทลุงแยกมาเป็น เขต 16 ทำให้เครือข่ายส่วนนี้ค่อย ๆ หายไป มาดีขึ้นหน่อยตรงที่ ยังพอได้พบกันบ้างกับเครือข่ายหลักประกันสุขภาพ ที่ สปสช.สาขาสงขลา
6. สิ่งหนึ่งที่ผมกังวลคือประสบการณ์ความสำเร็จระดับองค์กรผมไม่มีให้ชม เพียงแต่ผมภาคภูมิใจในประเด็นเครือข่าย “ไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน” ที่เดินเรื่องด้วย KM มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ไม่รู้ตัว จนผมถูกทักโดยหลาย ๆ ท่าน จึงได้มาศึกษาเรียนรู้ KM อย่างเป็นเรื่องเป็นราว จากนั้นค่อย ๆ ปรับให้เข้าที่เข้าทางโดยไม่ให้ทีมงานเครือข่ายรู้สึกว่าเปลี่ยนแปลง และเมื่อเปลี่ยนจนได้ที่แล้ว ทุกคนเริ่มตั้งข้อสังเกตบนความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่เคยเห็นแบบนี้ที่ไหน ผมถึงได้เริ่มเปิดตัวและเฉลยกับทุกคน ฉะนั้นผมมีประสบการณ์แค่นี้เอง หาใช่การนำองค์กรให้เป็น LO โดย KM ไม่ สิ่งนี้เหมือนเป็นข้อจำกัดที่กังวลว่า มรภ.ยะลา ผมจะ Approach ยังไง ถึงจะเชื่อมกันได้ถึง และกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงได้ มองเห็นภาพ แต่เหมือนเถียงกับตัวเอง เพราะลึก ๆ ผมเชื่อในความยืดหยุ่นของ KM ว่าจะปรับให้เข้าได้กับทุกบริบท และนำไปสู่ความสำเร็จจริง ๆ อย่างยั่งยืน เพราะ KM เป็นเรื่องการเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นคน และความเท่าเทียมกันของปัญญา ไม่มีระดับการศึกษา หรือปัจจัย/เงื่อนไขอื่น ๆ มาเป็นตัวขวางกั้น
7. แน่นอนครับ ผมคงไม่ลืมการทำ AAR: After Action Review ด้วยการทดลองปฏิบัติ หากแต่คงทำได้เฉพาะบางคนเท่านั้น โดยคาดว่าจะใช้ตัวแทนกลุ่มลุกขึ้นพูด แต่ทุกท่านน่าจะได้เขียนลงกระดาษไว้และส่งมอบให้ผู้จัดฯ ตรงนี้ผมคงจะกักเวลาสัก 10-15 นาที เพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ ด้วยข้อคำถามนี้ 5 ข้อ
เป็นภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ และมีคุณูปการสูงมากครับ เพราะเหตุผลหนึ่งก็คือทำกระบวนการเรียนรู้กับบุคลากรของสถาบันการศึกษาโดยตรง
ขอให้กำลังใจในการเป็นวิทยากรนะครับพี่ชายขอบ แต่ขออย่างหนึ่งครับ...ขอความกรุณาพี่เขียนบันทึกเรื่องราวในครั้งนี้ทั้งในส่วนของกระบวนการ และ ผลลัพธ์ฉับพลัน จากการ AAR.ด้วยนะครับ ผมจะได้ร่วมเรียนรู้ด้วย เพื่อไปใช้พัฒนาตนเอง และเผื่อท่านอื่นๆที่เข้ามาเรียนรู้ด้วยครับ
จะรออ่านบันทึก ต่อไปด้วยใจจดจ่อครับผม
น้อง จตุพร
ครับ แล้วจะเล่าให้ฟังทั้งกระบวนการ และผลลัพธ์ทัยตาเห็น (ฉับพลัน) แต่อาจจะช้าสักเล็กน้อยนะครับ หากผม Connect ไม่ได้ เนื่องจากโทรศัพท์ผมยังไม่ได้จดทะเบียนเข้าใช้ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่แน่ใจว่า GPRS จะใช้ไม่ได้ไปด้วยไหมครับ แต่ยังไงผมก็กลับออกมาวันที่ 6 ก.ค.49 ครับ
แอบมาดูหลายรอบ...แต่ไม่ได้ทิ้งรอย...เลยคะ...
ทราบว่า...ไม่สบายดูแลตัวเองบ้างนะคะ...
Dr.Ka-poom และน้องจตุพร
ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วครับ พร้อมสู้เมื่อวันพรุ่งมาเยือน...
ขออัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์
ความฝันอันสูงสุด
พลีมอบแด่คนดี
ผู้เป็นที่รัก *วีรบุรุษไพรในดวงใจ*ค่ะ
ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ
ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ
ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด
จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร
ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา
ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป
นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง
หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด
ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน
โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่
เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน
ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย...
...............
จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด
จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
เติมใจให้กัน | |
มัม ลาโคนิค | |
|
พลีช่อดอกไม้รับขวัญในวันนี้
แด่คนดีคนกล้าท้าทายฝัน
ให้โลกนี้มีรักสามัคคีเป็นนิรันดร์
คือสวรรค์สร้างผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา...
ด้วยชื่นชมศรัทธา
คุณ อันเป็นดวงใจ
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับ บทกวีรจนาที่พลีให้เสมอมา อ่านแล้วเกิดพลังในใจมากโขทีเดียวครับ
พี่ ภีม ครับ
ผมยังตามอ่านงานพี่และเครือข่ายอยู่อย่างต่อเนื่องแหละครับ เสียดายนะครับ ผมรู้จักพี่ตั้งแต่คราวเริ่ม ๆ GotoKnow แต่บัดนั้นจนบัดนี้ ยังไม่เคยได้ F2F กับพี่เลยครับ