หากประชาชนในชาติร่วมมือร่วมใจกันปลูกป่า ผู้ลงมือกระทำ อันจัดว่าเป็นกุศลกรรม ย่อมได้รับอานิสงส์จากการปลูกป่านี้หลายประการ ขอแสดงในแง่ทางพุทธศาสนา และทางโลกได้ดังนี้
1 ได้บุญตลอดเวลา ดังพุทธพจน์ที่ว่า
ชนเหล่าใด ปลูกป่าสวยอันน่ารื่นรมย์ ปลูกป่า สร้างสะพาน ขุดสระน้ำ บ่อน้ำ และให้ที่พัก
อาศัย บุญย่อมเจริญแก่ชนเหล่านั้น ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดกาลทุกเมื่อ
เหตุที่ทำให้ได้บุญทุกเมื่อก็เพราะสิ่งที่ทำหรือผลงานที่ได้เป็นประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป มีผู้ได้ใช้สอยประโยชน์ทั้งในในปัจจุบันและในอนาคต เมื่อผลงานสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะชนอยู่ตลอดเวลา ผู้สร้างผลงานก็ย่อมอิ่มเอมใจ นึกถึงทีไรก็ได้บุญทีนั้น จึงเท่ากับได้บุญอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
2 ได้ความปราโมทย์ อันเป็นพื้นฐานของสมาธิ เมื่อเราสร้างสิ่งที่ดี มีคุณประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไป ในยามที่นึกถึงความดีที่ทำจิตย่อมเกิดปราโมทย์ขึ้น และปราโมทย์นี้เองเป็นจุดเริ่มต้นขององค์ธรรมที่ตามมาอย่างต่อเนื่องอันนำจิตไปสู่สมาธิ
นั่นคือ ปราโมทย์ ปิติ ปัสสัทธิ สุข สมาธิ
พระพรหม คุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้ให้ความหมายของคำต่างๆในองค์ธรรมนี้ว่า
ปราโมทย์ ความบันเทิงใจ ความปลื้มใจ
ปิติ ความอิ่มใจ
ปัสสัทธิ ความสงบกายสงบใจ
สุขความสบาย ความสำราญ
สมาธิความมีใจตั้งมั่น
นั่นคือเมื่อเรานึกถึงนึกถึงคุณธรรมของตน หรือความดีที่ทำขึ้นมา ก็จะเกิดปราโมทย์ หรือปิติอันเป็นองค์ธรรมเริ่มต้นที่นำไปสู่สมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิ จะมีกำลัง ควรแก่การใช้งาน หากนำจิตที่มีคุณสมบัติดังกล่าวในขณะนั้นไปใช้งานพิจารณาธรรม จะเห็นแจ้งในธรรมที่พิจารณานั้น ซึ่งการพิจารณาธรรมโดยวิธีนี้ ท่านพุทธทาสภิกขุให้ความเห็นว่า เป็นการวิปัสสนาด้วยวิธีธรรมชาติ
สรุปความว่า สมาธิ และวิปัสสนาตามธรรมชาติที่ทำให้บุคคลบรรลุมรรคผลได้ในที่เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคตรงที่นั่งฟังนั้นเอง และเป็นวิธีที่เหมาะกับทุกคนนั้น ตั้งอาศัยอยู่บนรากฐานแห่งการพิจารณาความจริงในข้อที่ว่า ไม่มีที่น่าเอาน่าเป็นอยู่เป็นประจำทุกวัน ผู้หวังจะได้ผลอันนี้จะต้องพยายามทำตนให้เป็นคนสะอาด มีอะไรเป็นที่พอใจตัว จนยกมือไหว้ตนเองได้ มีปิติปราโมทย์ตามทางธรรมอยู่เสมอ ไม่ว่าในเวลาปฏิบัติงานในหน้าที่ หรือเวลาพักผ่อน
ปิติปราโมทย์นั้นเอง ทำให้เกิดความแจ่มใสสดชื่น มีใจสงบระงับเป็นปัสสัทธิ เป็นเหตุให้มีสมาธิตามธรรมชาติอยู่อย่างอัตโนมัติ จนเห็นความจริงที่ว่า ไม่มีอะไรที่น่าเอาน่าเป็นอยู่เสมอ ขณะใดเป็นไปแรงกล้า จิตก็หน่าย คลายกำหนัดจากสิ่งที่เคยยึดถือ หลุดออกมาได้จากสิ่งที่เคยยึดถือ แม้แต่การยึดถือว่าเป็นตัวตน หรือของตน ไม่มีความหลงอยากในสิ่งใดด้วยกิเลสตัณหาอีกต่อไป ความทุกข์ไม่มีที่ตั้งอาศัย ก็สิ้นสุดลง ผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ถึงที่สุดแห่งการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้เพื่อให้ตนพ้นทุกข์อีกต่อไป นับว่าเป็นของขวัญที่ธรรมชาติมีไว้สำหรับทุกคนโดยแท้จริง
พุทธทาสภิกขุ วิธีชนะความตาย ธรรมสภา ๑ / ๔-๕ ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา
กรุงเทพมหานคร
3 ช่วยชะลอวิกฤติการจากภาวะโลกร้อน ภาวะโลกร้อนไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย และไม่สามารถแก้ไขได้โดยปัจเจกชน อย่างไรก็ดี การเพิ่มจำนวนประชากรพืช เป็นการช่วยชะลอผลจากภาวะนี้ออกไป การปลูกป่าชุมชนตามที่เสนอในบทความนี้ นอกจากจะช่วยชะลอวิกฤติการจากภาวะโลกร้อนออกไปแล้ว ยังช่วยให้มนุษย์ได้ใช้คุณค่าของป่าให้นานที่สุด และอย่างทั่วถึงอีกด้วย
4 เป็นมรดกแก่มนุษยชาติในอนาคต หากจะกล่าวว่าการรักษาป่าเพื่อลูกหลานของเราในอนาคตได้ใช้ประโยชน์ เป็นการตอบแทนบุญคุณบรรพบุรุษที่ได้รักษาป่าจนมาถึงเราก็คงไม่เกินเลยไปนัก การเป็นตัวอย่างที่ดีของเราย่อมทำให้ชนรุ่นหลังซาบซึ้งใจ และแสดงความกตัญญูกตเวทีด้วยวิธีเดียวกัน คือกระทำตนเป็นตัวอย่างที่ดีสืบต่อไป
ความกตัญญูรู้คุณและประกาศตอบแทนคุณนั้นให้ปรากฏเป็นเครื่องหมายของคนดี
นิมิตตัง สาธุ รูปานัง กตัญญูกตเวทิตา เถรภาษิต สังฆราชสา
การปลูกและรักษาป่า ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะเรากำลังเผชิญการผันผวนของภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติอยู่ในปัจจุบัน วิกฤติการณ์อาจไม่ได้เกิดในช่วงชีวิตของลูกหลานอย่างที่เราเคยได้ยิน แต่อาจเกิดในช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้
การแก้ไขในขณะที่ยังทำได้ น่าจะดีกว่าที่เราไม่ได้ทำอะไรเลยในปัจจุบัน จนต้องยอมรับผลร้ายที่จะตามมาในอนาคต
การเลือกอยู่ที่ตัวเรา การกระทำของเราจึงเท่ากับเป็นการชี้อนาคตของมนุษย์ทั้งในปัจจุบันนี้ แต่ในยุคสมัยต่อๆไป
..........................................................
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลศัพท์ .พิมพ์ครั้งที่ 11 พ.ศ. 2546 . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พุทธทาสภิกขุ วิธีชนะความตาย . กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา
ดร.นงนภัส คู่วัญญู เที่ยงกมล สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ2551. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี http://www.rspg.or.th
ฝ่ายวิชาการ กรมป่าไม้ http://www.forest.go.th
ปลูกป่าจึงเท่ากับปลูกธรรมะในใจและในไทย
ปลูกปาต้องปลูกด้วยพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย
ความหลากหลายคือความสมดุลย์ของชีวิต
สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา...เป็นความจริงที่สัมผัสได้ทุกประการค่ะ..ขอให้ทำจริงและตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมเจ้าค่ะ...ยายธี
ชีวิตเรา แตกต่าง อย่างสร้างสรรค์
ต้นไม้ หลายหลากพันธุ์ สรรค์สร้าง
ปลูกเพาะ ธรรมะ ชาติงดงาม
สมดุลย์ นิเวศน์กว้าง ทางมรรคา
...
ขอบคุณค่ะพี่ณัฐ ภาพสวยจังค่ะ
มาชม
พึ่งชมข่าวตอนเช้าแวบเห็นน้ำในเขื่อนภูมิพลคนเล่าข่าวเขาว่าแห้งใกล้ติดก้นคลองแล้วอีก 20 วันถ้าไม่มีฝนตกลงมาก็ไม่มีน้ำจ่ายออกไป...ร้อน ๆ ต้นไม้ยืนต้นตาย...ต้องช่วยกันปลูกขึ้นมานะครับ...ปลูกธรรม...
ปลูกป่า กับการมีธรรมะ
จริงด้วยสิคะ พี่ณัฐ ต้องเซียนภาพดอกไม้ ขอบคุณมากนะคะที่แนะนำเซียนด้านต่างๆ
การปลูกป่าปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือส่วนรวมในเมือง ฯ เป็นสิ่งจำเป็นมากแล้วนะคะ ดอกกุหลาบวาดสวยจังเลยค่ะ
มาเยี่ยมชม จิตรกร...หน่อยนะ...
ปลูกป่าที่ใจก่อนครับ แล้วต้นไม้จะเต็มบ้านเต็มเมือง
ที่บ้านไม่มีที่พอจะปลูกป่า หรือสวน ก็คงทำได้ ตามรูปที่พอจะได้ความคิดขึ้นมาคะ
ปลูกพืชผัดสวนครัวรั้วกินได้คะ พอจะมีพืชเป็นอาหารทานเอง ช่วยลดโลกร้อนด้วยคะ แห้งแล้งอีกต่างหาก ทุกอย่างคงต้องปลูกที่ใจก่อนนะคะ