วันนี้ผมได้สนทนากับพ่อในหลาย ๆ เรื่อง จริง ๆ แล้วพ่อเพิ่งทุกเลาจากอาการเวียนหัว แต่เห็นท่านมีความสุขในการที่ได้พูดคุยด้วย ผมก็คุยกับท่าน และฟังท่านไปเรื่อย ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ผมจับประเด็นจากที่ท่านเล่าให้ฟังใน 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ การหัดฟัง และการฟังอย่างเซียน พ่อบอกผมว่าคนพูดเก่งมีโรงเรียนสอน มีคนทำได้เยอะ แต่คนฟังเก่ง ๆ ยังหายาก และไม่ค่อยมีการสอนกัน ไม่ค่อยมีการพูดถึงกันมากนัก
เอาประเด็นแรกก่อนคือ การหัดฟัง ท่านบอกว่าเป็นประตูแรกที่เราจะได้ใจคนอื่นมา เพราะใคร ๆ ก็อยากจะให้ฟังเขา แค่ฟัง ก็ได้มาแล้วกว่าครึ่ง โดยมีเทคนิคดังนี้
อ่านต่อ ฟัง: เซียนฟัง
พี่เมตตา
เห็นด้วยกับพี่ ยิ่งพี่ได้เรียนรู้ว่าเวลาเจ็บคอ แล้วต้องฟังนี่ได้อรรถรส ยิ่งยืนยันแน่ชัด ผมเองก็นึกสงสัยครับว่าทำไมพ่อชวนสนทนาเรื่องนี้ หรือพ่อเห็นอะไรมากไป-น้อยไปในตัวผม พ่อมักจะสอนเอาอย่างนี้แหละครับ ท่านไม่ค่อยจะใส่ตรง ๆ เพราะเกรงว่าลูกจะอัตตาสูงมั้งครับ (กำลังว่าตัวเองครับ)
ประเด็น "พูดก่อนซิ" ก็มีเยอะเหมือนกันนะครับ (เย้า ๆ) เช่นเวลาหัวหน้าถามลูกน้องว่า "อยากระบายอะไรบ้างไหม" (ยิ้ม ๆ)
ขอนอกเรื่องนิดนึงคะ อาจารย์ Handy ค่ะ ดิฉันจะพยายามพิสูจน์อักษรก่อนเขียนคะ รู้ตัวคะว่าเป็นคนพิมพ์เร็ว อ่านเร็ว บางครั้งพลาดเขียนผิดคะ เขียนไม่ถูกหลักไวยกรณ์บ้างค่ะ
แต่การใช้ คะ กับ ค่ะ ใช้ไม่ถูกจริงๆ คะ ที่เขียนไปก็จะดูว่าตัวเองพูดเสียงสูงของ ค่ะ ตอนไหน ก็จะเขียนอย่างนั้นคะ น่าจะได้นะค่ะ :)
ยังไม่ทันได้ตอบใครเลยวันนี้ แต่ดูเหมือนแขกที่มาเที่ยวที่บ้านผมจะคุยกันสนุกเชียว ผมเลยมีความสุขไปด้วย :) นิ
อาจารย์ Handy
ให้พ่ออ่านแล้วครับตะกี้นี้เอง พ่อยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า พ่อพูดไปงั้น ๆ ไม่รู้ว่าจะเอามาเขียน พ่อจะเขียนให้ดีกว่าที่พูด ครับ
อ.ดร.จันทรวรรณ
"ค่ะ" เป็นคำที่เขียนถูก แต่ใน Blog เรามักจะใช้การเล่าเรื่อง หรือเหมือนการสนทนากันแล้วนำมาเขียน ผมว่าเขียนด้วยภาษาพูดก็มีเสน่ห์ดีครับ น่าอ่านกว่า ไม่แข็งเกินไปนะครับ
เข้ามานั่งฟัง (อ่าน) อย่างเดียว แล้วยิ้มค่ะ
อ่านแล้วชักคิดถึงคุณพ่อเหมือนกัน.. หาดใหญ่กับพัทลุง นั่งรถแค่ ชั่วโมงกว่าๆก็ถึง แต่งานยุ่งจนไม่ได้กลับบ้านมาเดือนกว่าแล้ว ความจริงกะว่าจะโทรไปคุยกับคุณพ่อ แต่เผลอเขียนบล็อกอ่านบล็อกซะเพลิน พอเงยหน้าดูนาฬิกา ก็ปาจะเที่ยงคืนแล้ว
อย่างนี้ต้องโทษ Gotoknow ดีไหมคะ (ล้อเล่นๆน่า ^O^ )
อ้อเกือบลืมไป..มาฝากเนื้อฝากตัว ว่าเป็นคนพัทลุงเหมือนกันค่า (สนับสนุนความเห็นของคุณชายขอบ ที่บอกว่า การเขียนด้วยภาษาพูด บางทีก็มีเสน่ห์ดีเหมือนกันค่ะ)
^______^
คุณ k-jira
การเขียนด้วยภาษาพูด ผมว่าทำให้เราจับ Tacit K. ในเรื่องราวได้ง่ายกว่านะครับ ประมาณว่ายังไม่ถูกตีความไงครับ ยังสด ๆ อยู่
กลับบ้านบ้างก็ดีนะครับ ท่านจะได้ไม่เหงา เอาว่าหากกลับไม่ได้ก็โทรหา แต่อย่าสัญญานะครับว่าจะกลับวันไหน พอไม่ได้กลับท่านจะคอย (ประสบการณ์ตรงเลยครับ)
ได้รู้ว่าเป็นคนพัทลุง ก็ดีใจครับ เมืองลุงยังต้องการคนรักบ้านเกิด อีกมากนะครับ เคยได้ยินประเยคเหล่านี้ไหมครับ
"เมืองลุงมีคนเรียนหนังสือเยอะ เป็นวัฒนธรรมในการส่งลูกไปเรียน แต่เมื่อไปแล้วไม่สามารถกลับมาทำงานที่บ้านได้ เพราะไม่เคยมีใครเริ่มต้นสร้างเมืองให้รองรับการกลับบ้าน แล้วใครจะเริ่มดีล๊ะ?"
บ้านเรามีปลัดกระทรวงมากี่คนแล้ว มีอธิบดีเท่าไหร่ มีผู้ว่าฯกี่คน มีนักธุรกิจกี่มากน้อย มี... มากมาย แต่ยังไงครับ พัทลุงเมืองผ่าน (ไม่แวะ) ไงครับ ยิ้ม ๆ ครับ