สวัสดีค่ะ
หลังจากจัดทัศนศึกษาให้เด็กๆแล้ว มีความคิดว่าจะพาเด็กๆไปปฏิบัติธรรม สถานฑูตไทยนิมนต์พระมาทำพิธีสงฆ์ คราวนี้
หลายวันค่ะ พระจากหลายๆวัด เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพระมาจากจ.ร้อยเอ็ด พรุ่งนี้ ๓๑ พ.ค มีตักบาตทำบุญที่สถานฑูตไทย
จำไม่ได้ว่าพระวัดไหน ต้องดูในเมล์ที่ได้รับน่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
การปฏิบัติเป็นอย่างสำคัญยิ่งกว่าการสอน ความรักความศรัทธาของผู้สอนจะเป็นส่วนหนึ่งค่ะ
การปฏิบัติจริง ควรมีการติดตามและฝึกต่อเนื่องด้วยนะคะ หลายครั้งที่ฝึกแล้วทำให้เด็กรู้และเข้าใจ แต่ระยะเวลาห่างนานไปและขาดความต่อเนื่องเขาจะลืม คิดว่าไม่สำคัญ
การที่เขาไม่เชื่อว่าทำดีได้ดี ก้เพราะยังแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี สังคมมีแต่เรื่องสับสนวุ่นวาย
ขอขอบพระคุณค่ะ
พี่คิมครับ
ความคิดเห็นถูกใจครับ
* การปฏิบัติเป็นอย่างสำคัญยิ่งกว่าการสอน
(แบบดีกว่าบอก นะครับ)
* ความรักความศรัทธาของผู้สอนจะเป็นส่วนหนึ่งค่ะ
(ความเป็นสัปบุรุษของผู้สอน)
* การปฏิบัติจริง ควรมีการติดตามและฝึกต่อเนื่องด้วยนะคะ หลายครั้งที่ฝึกแล้วทำให้เด็กรู้และเข้าใจ แต่ระยะเวลาห่างนานไปและขาดความต่อเนื่องเขาจะลืม คิดว่าไม่สำคัญ
(ครับ ธรรมะต้องทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นความเคยชินนะครับ)
* การที่เขาไม่เชื่อว่าทำดีได้ดี ก้เพราะยังแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี สังคมมีแต่เรื่องสับสนวุ่นวาย
(เด็กบางคนเชื่อในการทุจริตว่าดีครับ)
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเสริมเติมเต็ม
สวัสดีค่ะ
ท่านรองฯเคสังเกตไหมคะว่า ครูคุยกันในขณะที่ฟังพระเทศน์หรือกำลังสวดมนต์ แล้วเด็กจะได้แบบอย่างจากที่ไหนคะ
เพราะยังไม่มีโรงเรียนสอนฟัง มีแต่โรงเรียนสอนพูด ครูยังสงบไม่ได้แต่ครูต้องการมากคืออยากให้เด็กนิ่ง ซึ่งผิดกับธรรมชาติของเด็ก
เวลาที่พี่คิมสอนเด็กเกเร ทำไม่พูดกันง่ายมากค่ะ แบตจะหมดค่ะ ส่งก่อน
เด็กๆๆต้องได้ปฏิบัติจริงและมีต้นแบบที่ปฏิบัติธรรมมะจริงๆๆถึงได้ผลครับ มาให้กำลังใจครับ สบายดีไหมครับ
ความคิดของพี่คิม เป็นความจริงที่เป็นประโยชน์มากครับ
อาจารย์ท่านหนึ่ง (บันทึกถัดมาจากพี่คิมแหละครับ) ผมพาไปดูค่ายธรรมะของจริง พบ คุณครูสั่งเด็กว่าให้ทุกคนเงียบ มัวแต่คุยกัน ทำไมไม่ฟังครู อาจารย์ท่านดังกล่าวบอกว่า ที่เด็กไม่ฟังครู เพราะครูไม่ฟังเด็ก
ครับ มีแต่โรงเรียนสอนพูด ไม่มีโรงเรียนสอนฟัง คุณครูก็มักจะให้เด็กฟังครู โดยครูถนัดพูด แตคุณครูไม่เคยฟังเด็ก ไม่เคยฟังความรู้สึกของเด็ก
ค่ายธรรมะ เป็นอะไรที่ต้องพัฒนาอีกหลายๆอย่างครับ ก่อนจะพัฒนาเด็ก คงจะต้องพัฒนาครูก่อนนะครับ เด็กเป็นอย่างไร ก็มาจากครูแหละครับ
ขอบคุณมากครับ
ธรรมสวัสดีครับท่านอาจารย์
อยากร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ก็ทำงานด้านนี้อยู่ด้วย
คิดว่าคงถึงเวลาที่เราต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้
และกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงๆจังๆสักที
แม้แต่พระสงฆ์เอง ก็ต้องแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ไปประยุกต์ในการสอน อย่างอาจารย์ว่า
อาตมาได้ข้อคิดจากการสอนนักเรียน มีอยู่วันหนึ่ง เด็กบอกว่า ผมเรียนอริยสัจ 4 และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
มาตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม เด็กบอกว่า เขาเรียนซ้ำอย่างนี้ทุกปี
ก็ใช่ของเด็ก อยากจะยกตัวอย่างการอธิบายวันวิสาขบูชา เด็กจะรู้ว่า
1. วันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
2. ตอนเย็นไปเวียนเทียน ฯลฯ
แต่ส่วนใหญ่เราไม่เคยถอดรหัสวันวิสาขบูชาให้เด็กได้เรียนรู้ชีวิตว่า
วันวิสาขบูชา เป็นกระบวนการพัฒนาชีวิตอย่างมีคุณค่า
กล่าวคือ สิทธัตถะกุมาร ประสูติแล้วเดินได้ 7 ก้าว แล้วชี้นิ้วขึ้นบนฟ้า กล่าวอภิสวาจา ว่า
"อัคโคหะมัสมิ โลกัสสะ เชฏโฐหะมัสมิ โลกัสสะ เสฏโฐหะมัสมิ โลกัสสะ อะยะมันติมา เม ชาติ นัตถิทานิ ปุนัพภะโวติ ฯ
ในโลกนี้ เราเป็นผู้ยอดที่สุด เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุด การเกิดของเรานี้ เป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี"
นั่นหมายถึง พระองค์ได้ตั้งปณืธานใจ หรืออุปมาว่าเป็นความฝันของเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อสิทธัตถะ จะเป็นพระพุทธเจ้าตั้งแต่เกิด
จะเกิดขึ้นมาเพื่อทำความดี จึงเป็นข้อคิดว่า นักเรียนได้มีปณิธานใจหรือยังตั้งแต่เกิดมา มีความฝันว่าจะเป็นอะไร
นี้เป็นส่วนหนึ่งที่อยากสะท้อนถึงการ "วิเคราะห์" หรือ "ถอดรหัส" ในการสอนธรรมะในปัจจุบัน
ที่จะทำให้นักเรียน หรือ ผู้ใหญ่ ได้เข้าถึงธรรมได้ง่ายขึ้นหรือไม่
แลกเปลี่ยนเรียนรู้มาเยอะ ต้องขออภัย
ธรรมะสวัสดี
* พระองค์ได้ตั้งปณิธานใจ หรืออุปมาว่าเป็นความฝันของเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อสิทธัตถะ จะเป็นพระพุทธเจ้าตั้งแต่เกิด จะเกิดขึ้นมาเพื่อทำความดี จึงเป็นข้อคิดว่า นักเรียนได้มีปณิธานใจหรือยังตั้งแต่เกิดมา มีความฝันว่าจะเป็นอะไร
* นี้เป็นส่วนหนึ่งที่อยากสะท้อนถึงการ "วิเคราะห์" หรือ "ถอดรหัส" ในการสอนธรรมะในปัจจุบัน
เป็นการถอดรหัสจากพุทธประวัติที่สุดยอดเลยครับ ผมว่าถ้าเทศน์แบบนี้ เด็กจะเรียนรู้ได้ดีมากๆเลยครับ
จะทำให้นักเรียน หรือ ผู้ใหญ่ ได้เข้าถึงธรรมได้ง่ายขึ้น
ผมว่าการเทศน์แบบนี้ น่าจะมีมากๆครับ ผมเชียร์เต็มที่ ทั้วเด็กทั้งผู้ใหญ่ ได้เรียนรู้ธรรมด้วยศรัทธาและปัญญา
ขอบคุณท่านมากครับ ที่เสริมเติมเต็มด้วยความรู้ทางธรรมที่มีคุณค่า
* นำพระมาเทศน์สอนเป็นเรื่องฉาบฉวย..ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
(ครับ พระเทศน์ส่วนใหญ่ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพราะไม่สัมพันธฺกับชีวิตจริง)
* ต้นแบบคือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูสำคัญที่สุด
(เป็นต้นแบบที่สำคัญครับ)
"ต้องทำให้ดู อยู่ให้เห็น เน้นรูปธรรม" จึงจะเข้าถึง เข้าใจและเกิดศรัทธา
เลียนแบบตามนะคะ
(แบบดีกว่าบอก มากมายหลายเท่าครับ)
ขอบคุณมากครับ
ที่ท่านรองฯว่ามา...เห็นด้วยทุกประการ..อบรมให้เด็กไปแล้วแต่ครูไม่ทำเป็นแบบอย่าง..ก็ไร้ผลค่ะ...
ได้อ่านแล้ว กด like ครับ
แบบนี้ได้ลองใช้แล้วครับ รับรองเห้นผล ใช้ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ confirm ครับ
แต่ผู้สอนต้องเข้าใจเทคนิคนี้ ทดลองทำจริงๆ ทั้งปฏิบัติ คำพูดที่อธิบายถ่ายทอด และที่สำคัญคือด้วยความจริงจากใจ
ท่าน นพ.ประวิทย์ ครับ