สมองคนเรามีระดับการพัฒนาสูงสุดที่อายุเฉลี่ยประมาณ 40-60 ปี หลังจากนั้นจะค่อยๆ ถดถอยลงไป และจะเห็นความเสื่อมได้ชัดเจนตั้งแต่อายุประมาณ 60-70 ปีขึ้นไป
ยุคนี้คนเรามีโอกาสจะมีอายุยืนขึ้น จึงมีโอกาสพบเห็นคนสูงอายุสมองเสื่อมมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้มีข่าวดีเกี่ยวกับกระบวนการถนอมสมอง... ข่าวดีที่ว่านี้คือ ถ้าเราหมั่นฝึกความคิดเชื่อมโยงองค์ความรู้ต่างๆ เข้าด้วยกัน อาศัยความเข้าใจ และการมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอแล้ว สมองเราจะมีประสิทธิภาพสูงได้นานขึ้นมาก
อาจารย์พอใจ พุกกะคุปต์ ผู้อำนวยการบริษัทเฮย์กรุ๊ป ท่านนำข้อมูลจากนิตยสารไทม์ (Time) มาเขียนเรื่อง “กระบวนการถนอมสมอง” ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
อาจารย์ท่านสรุปวิธีถนอมสมองไว้อย่างนี้ครับ...
คำแนะนำ:
แหล่งที่มา:
ดิฉันคิดว่า คนยุคปัจจุบันนี้ต้องฉลาดคิดกับชีวิตตัวเองมากๆ นะคะ ปล่อยชีวิตเลยตามเลยไม่ค่อยจะได้เลย กินไม่คิด ดื่มไม่คิด ออกกำลังกายไม่คิด (ออกน้อย หรือ ออกผิดประเภท) เป็นต้น สุขภาพอาจแย่ได้
อ่านบล็อกอาจารย์แล้ว ก็เข้าใจว่า ความรู้จำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากๆ นะคะ
บล็อกของอาจารย์เป็นตัวอย่างบล็อกเชิงวิชาชีพที่เยี่ยมมากๆ คะ เราต้องการบล็อกอย่างนี้เยอะๆ คะ
ขอบคุณอาจารย์คะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณ...
ทีนี้ถ้าต้องการ...
(1). ชะลอความแก่ > ควรลดโทสะ เช่น ฝึกสมาธิ ออกกำลังกาย ฝึกมองโลกในแง่ดี ฯลฯ
(2). ลดโรคภัย > ควรลดโลภะ เช่น อยู่แบบพอเพียง กิน-อยู่-หลับ-นอนพอประมาณ ฯลฯ
(3). อายุยืน > ควรลดโมหะ(ความไม่รู้) เช่น ศึกษาหาความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฯลฯ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ธวัชชัย...
(1). อายุขัยเฉลี่ยมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น
(2). เรียนนานขึ้น ทำงานช้าลง
(3). ช่วงเวลาหลังเกษียณมีแนวโน้มจะนานขึ้น
(4). โรคภัยไข้เจ็บปรากฏชัดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
ถ้ารักษาสุขภาพได้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ช่วยชาติประหยัดด้วย และช่วยให้มีความสุขมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางโลก หรือทางธรรม
พวกเรา(หมายถึงสมาชิก และท่านผู้อ่าน)ได้รับประโยชน์จาก Go2Know มาก ขอขอบพระคุณอาจารย์และทีมงานมา ณ ที่นี้... สาธุ สาธุ สาธุ