วันนี้ เป็นวันเปิดเทอมของเด็กๆ หลายคนมีความสุข หลายคนมีความทุกข์ หลายคนโรงเรียนถูกปิดชั่วคราว หลากหลายที่เกิดขึ้น แต่ผู้บันทึกเอง ได้มีส่วนเป็นผู้ปกครองของเด็ก ทำหน้าที่แทนน้องชายที่มาหาที่เรียนให้ลูกสาวไม่ได้ ย้ายจากม.4 มาเรียนต่อ ม.5
จึงทำให้เป็นภารกิจอีกอย่างหนึ่งในการดูแลครอบครัวของน้องชาย ที่ได้ส่งลูกสาวทั้งสองคนมาเรียนที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อลูกสาวคนโตสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ คนเล็กก็ไม่มีเพื่อนที่จะอยู่บ้าน เพื่อไปโรงเรียน เด็กก็ไม่กล้าที่จะอยู่บ้านคนเดียว ถึงแม้ว่าหลานสาวคนเล็กจะเข้าเรียนชั้น ม.5
โตแต่ตัว แต่ความคิดความอ่านยังเป็นเด็กต้องการที่จะมีผู้ใหญ่คอยชี้แนะและดูแล ส่วนพ่อแม่ของเด็กจะต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านกับพี่สาว ที่จะช่วยทำไร่ทำนา แต่ในขณะที่หลานสาวได้ไปทำเรื่องย้ายมาจากจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะมาเข้าโรงเรียนมัธยมในจังหวัดมาสารคาม พบว่า หลักสูตร 51 วิชาตามโครงสร้าง สสวท. ไม่เป็นไปตามส่วนกลางที่กำหนดไว้
แต่โรงเรียนมัธยมที่หลานสาว เรียนมาในระดับชั้น ม.4 จะเป็นแบบเรียนวิชาพื้นฐานมาหมดเลย (คณิตศาสตร์-ภาษา ) และเมื่อเด็กนักเรียนขึ้น ม.5 เด็กนักเรียนถึงจะเลือกแผนการเรียนได้ การที่เรียนวิชาพื้นฐาน ไม่ได้แยก ทำให้มีปัญหาในการเทียบโอน เช้านี้ได้พาหลานไปหาที่เรียน ไปหลายโรงเรียนของโรงเรียนมัธยม แต่ก็เทียบโอนไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหา แต่จะทำอย่างไรได้หละ เมื่อเด็กย้ายมาแล้วทางโรงเรียนก็รับไปก่อน แต่งานทะเบียน บอกว่า ขอให้ไปหาโรงเรียนอื่นๆก่อน ถ้าไม่ได้จริง ค่อยจะมีเหตุผลในการทำบรรทุกเสนอผู้บริหาร แต่ขณะนี้ เด็กต้องการจะเรียนแล้ว ถ้าช้าไปก็ จะเกิดปัญหาตามมาอีก คือเรียนไม่ทันเพื่อนๆ จะทำอย่างไรที่จะให้ผู้ปกครองสบายใจและ เข้าใจความรู้สึกผู้ที่ไปขอที่เรียน อีกอย่างยังให้กลับไปติดต่อที่โรงเรียนเดิมด้วย คิดดูซิคะ จังหวัดอุบล กับจังหวัดมหาสารคาม ห่างกันขนาดไหน น่าจะมีทางออกที่ดี ในการตอบคำถาม ให้ผู้ปกครองรู้สึกมีความหวังบ้าง
จากนั้นใกล้เวลาเที่ยงแล้ว ได้มาติดต่ออีกโรงเรียน สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด คุณครูมีความกระตือรือร้น ให้คำแนะนำ และหาแนวทางออกให้ แรกๆ ก็บอกว่าให้กลับไปทำหนังสือ ย้ายมาที่เรียนนี้ก่อน แต่ฐานะผู้ปกครองได้แจ้งความประสงค์ กับคุณครูว่า ขอให้เด็กได้เรียนและได้มอบตัวก่อนได้ไหม กลัวว่าจะช้าไป เพราะกลับไป กลับมา ก็จะต้องใช้เวลามาก ส่วนเอกสารผู้ปกครองจะประสานทีหลังและนำเอกสารที่ขาด นำ มาส่งให้ทางโรงเรียนที่หลัง เมื่อพูดเช่นนี้ ครูก็ตอบรับและให้เด็กกรอกรายละเอียดและมอบตัวนักเรียนเพื่อเข้าเรียนในระดับชั้น ม.5 ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกขอบคุณ และเข้าใจว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องนำลูกหลานเข้าโรงเรียนดังๆ เพราะการให้บริการไม่ประทับใจเลย การที่จะเรียนที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง เราสามารถที่จะให้ความรัก ความเข้าใจ และสอนเขาได้ ให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความสุข เรียนที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเราค่ะ ขอให้มีความตั้งใจจริงในการเรียน เพียงเพราะทางโรงเรียนให้โอกาสและมีความกระตือรือร้นในการให้บริการ เข้าใจความรู้สึกของผู้ปกครอง อีกทั้งชี้แนะแนวทางออกที่สร้างสรรค์ค่ะ
อนงค์ ปะนะทัง
17 พ.ค.53
เห็นด้วยเลยค่ะพี่นงค์ ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่ก้บตัวเราเองค่ะ สิ่งแวดล้อมแค่เพียงส่วนหนึ่ง
เรียนใกล้บ้าน ใกล้ชิดคนที่เรารักและรักเรา มีเป้าหมาย ตั้งใจมั่น สวรรค์ก็อยู่แค่เอื้อมค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์...ห่างหายไปนานมากครับ ขออนุโมทนาที่ได้เลี้ยงหลาน ให้การศึกษาให้ชีวิตได้บุญ ครับ