เทคโนโลยีนอกห้องเรียน
ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเพราะเป็นผลมาจากการแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำให้โรงเรียนส่วนมากปรับตัวและก้้าวตามเทคโนโลยีแทบไม่ทัน สื่อยุคใหม่นี้จะเน้นความสนุกสนานมากกว่าการให้ความรู้เทคโนโลยียุคใหม่จึงมากับวิธีจูงใจแและดึงดูดเด็กๆได้ดีกว่า เด็กๆจึงตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีนอกห้องเรียนก่อนที่โรงเรียนจะทันตั้งตัว
เหตุการณ์ที่พบเห็นกันอยู่บ่อยๆ หรือแทบทุกวันก็คือ ก่อนเข้าห้องเรียนและหลังเลิกเรียนนักเรียนมักชอบเข้าไปอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเข้าไปเล่นเกม chat หรือทำอย่างอื่น เป็นต้น
เทคโนโลยีเหล่่านี้เมื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาก็จะทำให้สามารถจัดลำดับขั้นตอนกการเรียนหรือการค้นหาข้อมูลความรู้ใหม่ได้ สามารถที่จะทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วหรือลงลึกไปสู่ข้อมูลหรือเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้นได้ด้วยความเร็วที่ควบคุมได้และด้วยการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ปัญหามีอยู่ที่ว่าเทคโนโลยียังถูกนำมาออกแบบในกระบวนการเรียนการสอนน้อยมากส่วนมากก็เป็นเกมส์และการบันเทิงท้ั้งสิ้น
หลักการง่ายๆในการใช้เทคโนโลยีหรือสื่อเพื่อการศึกษาก็คือ " มันจะมีผลต่อการศึกษาหรือการเรียนรู้ก็เเมื่อมันจำลองหรือสอดคล้อง หรือสนับสนุนวิธีการที่มนุษ์ใช้ในการเรียนรู้เท่านั้นเอง " จริงๆแล้วทักษะและการเรียนรู้หลายๆอย่างเกิดขึ้้นและพัฒนาขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือหรืิอเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราอาจใช้เครื่องมือเหล่านี้ในบางโอกาสแต่บางครั้งแม้ใช้เครื่องมือก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก การที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษานั้น เราจะต้องรู้ว่ากระบวนการเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร การที่เราสามารถรู้เรื่องวิธีการเรียนรู้ของเด็กจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรานำเทคโนโลยีมาใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกวิธี และรู้ด้วยว่าเราต้องอาศัยอย่างอื่นอีกที่ไม่ใช่เทคโนโลยีการเรียนรู้จึงจะได้ผล
ที่มา : พรพิไล เลิศวิชา.มัลติมีเดียกับโรงเรียนในศตวรรษที่21,
กรุงเทพฯ:2544.
ี่ัีั่่ี้่่่
ไม่มีความเห็น