สัปดาห์นี้ผู้เขียนได้ไปร่วมงานณาปนกิจศพคนรู้จักที่ค่อนข้างสนิทกันเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าคนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตายเป็นอนิจจัง แต่ก็ให้รู้สึกใจหาย และหากพูดตามประสาชาวบ้าน.. วัยของเขายังไม่สมควรตายค่ะ เพราะยังอยู่ในวัยทำงาน อนาคตกำลังสดใส พ่อแม่ก็บอกเล่าทั้งน้ำตาว่าลูกเคยเล่าถึงสิ่งที่อยากจะทำ แต่ก็ยังไม่ได้ทำ อืม.. จริงสินะ นี่เองคือที่มาของบันทึกนี้ คิดในใจว่าก่อนตายสิ่งที่ผู้เขียนอยากทำ ได้แก่..
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
1. การตอบแทนพระคุณพ่อแม่ให้ถึงที่สุด
ทุกวันนี้ผู้เขียนได้ปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีในระดับหนึ่ง มีการไปเที่ยวทั้งครอบครัวอยู่เป็นประจำ รับประทานอาหารร่วมกันแทบทุกมื้อ มีกอดและบอกรักท่านรวมทั้งกราบเท้าท่านในโอกาสต่างๆ.. แม้ว่าสิ่งที่ทำจะดูเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของท่านชุ่มชื่นขึ้นมามากมาย ซึ่งเราเองก็ยังไม่มีโอกาสจะรู้ว่า.. วันพรุ่งนี้จะได้ทำแบบนี้อีกหรือไม่..
2. การตอบแทนสังคมและโลกของเรา
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเราต่างเติบโตไปพร้อมๆกับการทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ตอนนี้อยากจะเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่จะช่วยลดสิ่งที่ทำร้ายโลกลง เริ่มที่ตัวเองก่อนค่ะ ลดการใช้ถุงพลาสติกมาใช้ถุงผ้า ถือตะกร้าสานจากฝีมือเด็กๆไปตลาด ตอนนี้หากเป็นงานอาสาอะไรหากไม่ติดงานหรือภาระกิจก็จะไปร่วมด้วยช่วยกัน ตอนนี้มีเด็กทำตามแล้วหลายคนค่ะ
3. เดินทางตามความฝัน
ผู้เขียนเชื่อค่ะว่า.. หากเรามีฝัน เราจะสามารถทำอะไรได้ทุกๆอย่าง สำหรับผู้เขียนไม่จำเป็นว่าเป้าหมายแห่งฝันจะต้องยิ่งใหญ่ในสายตาผู้อื่น ขอแต่ฝันนั้นมีคุณค่าแห่งใจเรา แม้ใครจะเห็นว่าธรรมดา แต่มันจะยิ่งใหญ่ในใจของผู้เขียนเสมอ การวางแผนทำทีละขั้นและจะทุ่มเทพลังทั้งหมดให้เต็มที่กับมัน บอกกับตัวเอง.. "ฉันต้องทำได้"
4. ทำความดี สั่งสมบุญ
การทำความดีเล็กๆน้อยๆ จะเพิ่มพลังใจให้เราสามารถที่จะทำงานภายในและงานภายนอกได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์ของงานภายนอก ได้แก่หน้าที่การงานโดยทั่วไป จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงานภายในของผู้เขียน นั่นคือ การปฏิบัติธรรม ที่มวลหมู่กัลยาณมิตรแวะเวียนมาแนะนำ และส่งเสริมอยู่เสมอๆ สุขใจค่ะ
5. ดูแลตัวเองและเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ที่ผ่านมาผู้เขียนมีการพักผ่อนน้อย จนหลายท่านในโกทูโนว์แห่งนี้เป็นห่วงและพิศวงไปตามๆกัน ช่วงนั้นมีความมุ(มานะ)กับการศึกษาเล่าเรียนพักผ่อนน้อยมาช้านาน ลืมไปว่า"เราไม่อาจจะทำสิ่งใดได้ หากร่างกายไม่แข็งแรง"ขณะนี้ได้หัดพักผ่อนให้มากขึ้นแล้วค่ะ มีเวลาพอที่จะหันมาพิจารณาตัวเราว่า โอ้หนอ..ร่างกายเราแท้ที่จริงประกอบไปด้วยธาตุ4 เพื่อจักได้ละความเป็น"มนุษย์" ออกไปเสียบ้าง จะได้ไม่กลัวหากวันแห่งความตายได้มาถึงจริงๆค่ะ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดกับทุกคนเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ การเตือนสติตัวเองไว้เสมอว่า "ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว" จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทและระมัดระวัง ในการใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีคุณค่าและมีความหมายให้มากที่สุด
และนี่ก็เป็นความคิดของผู้เขียนที่ผุดขึ้นมา ณ วันนี้ วันที่เมื่อได้เห็นสะกิดใจ เห็นความตายอยู่ใกล้ตัว ที่ไม่รู้ว่าจะมาเยือนเราเมื่อไร แล้วท่านผู้อ่านละคะ ก่อนตาย.. คิดอยากทำอะไรกันบ้าง..???????..
สว้สดีค่ะครูแป๋ม
สวัสดีค่ะ คุณพี่Kanchana
ครับ ความตาย เป็นเครื่องเตือนตัวเองได้เป็นอย่างดีครับ ประมาณว่า
วันคืนแต่ละวันที่ผ่านพ้นไป ท่านกำลังทำอะไรกันอยู่
ขอบคุณบันทึกดีๆครับ
สวสดีค่ะ ท่านรองฯวิชชา
สวัสดีครับ ครูแป๋ม
ง่ายๆๆ สั้นๆ ครับ
"พึงระลึกถึงความตายวันละ 3 ครั้ง แล้วเราจะอยู่เป็นสุข อยู่บนความไม่ประมาท"
เย็นนี้ประกาศผล add เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ โชคดีครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณน้องครูแป๋มที่มาเตือนสติ
บางวันก็หลงลืมความตาย
บางวันก็ครวญคิดได้
พี่รุ่งจะกลับไปทบทวนตัวเองบ่อยๆนะคะ
และจะเขียนลงในบันทึกมรณะที่ไม่ได้เขียนเพิ่มเติมนานมากแล้ว
ขอบคุณค่ะ..พี่ใหญ่เห็นด้วยกับครูแป๋มค่ะ..เวลาเราเหลือสั้นนัก..ทางใดที่จะพ้นทุกข์เวียนว่ายตายเกิด ต้องรีบฝึกเดินทางนั้น..ตามรอยพระพุทธองค์โดยไม่ย้อนกลับ..หมดเวลาลองผิดลองถูกแล้ว..เดินหน้ารู้ตัวด้วยสติอย่างมั่นคง...นี่คือเป้าหมายสูงสุดของสว.(สูงวัย)คนนี้ค่ะ..
สวัสดีค่ะ คุณสิทธิชัย
สวัสดีค่ะ คุณพี่รุ่ง ที่คิดถึง
สวัสดีค่ะ คุณพี่ใหญ่ นงนาจ
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย ได้สิ่งดีดีที่ควรนำไปปฏิบัติ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูnoy
ขอบคุณสิ่งดีๆที่มีให้
มีสิ่งดีๆในทุกๆวัน นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูสายธาร
สวัสดีค่ะครูแป๋ม หนูมาอ่านานาสาระ ...สิ่งดีดีที่ควรทำก่อนตาย ชื่อเรื่องน่าสนจัยม๊ากกกก...
ก็จะนำไปคิดก่อนนอนคะ ว่าเราจะยุได้อิกนานป่าว แล้วเราทำอะรัยหัยตัวเองมีความสุขหรือยัง
หัยคนรอบข้างเห็นความสำคัญในตัวเรายัง
เป็นข้อคิดที่ดีมากๆๆๆ สำหรับหนูเลยคะ
ขอบคุณคะ
สวัสดีค่ะ นางสาวชนาภา โกสุมภ์ ม.4/7 เลขที่ 42
สวัสดีค่ะ
ทำไมหนอ พี่คิมจึงพลาดไม่ได้มาอ่านข้อคิดดี ๆจากบันทึกนี้ ทุกข้อคิดโดนใจพี่คิมมากค่ะ
"ความไม่ประมาท" เป็นการเตือนสติเสมอนะคะ ขอขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณพี่คิม ที่คิดถึง
ค่ะ
เป็นสิ่งเราควรทำแต่หนูไม่อาจจะพูดไก้ว่าจะทำได้ทุกข้อ
ไม่รู้ว่า ความตาย จะมาเมื่อไร
หนูรู้เพียงว่า ทำทุกวันให้มีความสุข รักพ่อแม่ ดูแลท่านเท่าที่ทำได้ตอนนี้ เอาใจใส่ตัวเอง เพื่อน คนรอบข้าง
ซึ่งถ้าเกิดว่าเราตายไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทำตามความฝัน แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำอะไรที่ดีสักอย่าง ที่พอใจ ยังดีกว่าไม่ได้ทำเลยสักอย่าง
กราบสวัสดีค่ะคุณครูแป๋มที่เคารพ จริงอย่างที่คุณครูบอกค่ะความตายป็นเพียงเส้นทางสายหนึ่งที่ทุกๆคนต้องเดินผ่านมันไป ในแต่ละวันมีคนตายมากมายและเช่นเดียวกันก็มีคนเกิดมากมายเช่นกัน ทุกคนเกิดมามีความฝันกันหมด และส่วนความฝันของหนูก็คือหนูอยากเป็นพยาบาลแต่ความฝันนี้ก็ยากสำหรับหนูเหลือเกินแต่หนูก็จะต้องพยายามทำฝันของหนูให้เป็นจริงให้ได้ หนูฝันอยากที่จะมีอาชีพที่ดีๆทำเพื่อที่โตไปเราจะได้เลี้ยงพ่อและแม่ของเราได้ แม่ชอบบอกกับหนูเสมอๆว่าให้หนูตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อที่โตไปจะได้มีงานที่ดีๆทำแล้วจะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อกับแม่ และหนูก็จะพยายามทำความฝันของหนูให้เป็นจริงให้ได้เพื่อให้พ่อแม่มีความภาคภูมิใจ และหนูคิดว่าคนเรานั้นก็มีสิทธิที่จะฝันมากมายและถ้าเราตั้งใจจริงก็จะไม่มีอะไรที่จะสามารถมาทำลายความฝันของเราได้ใช่ไหมค่ะคุณครูแป๋มเหมือนกับอย่างวันนี้ที่คุณครูประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง...#วันนี้พอเท่านี้ก่อนดีกว่าน่ะค่ะคุณครูแป๋ม ราตรีสวัสดีล่วงหน้าน่ะค่ะคุณครูแป๋ม good night น่ะค่ะอย่านอนดึกมากน่ะค่ะคุณครูผู้แสนดีของนักเรียนโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ สู้ สู้ !! ค่ะทุกๆคนเพื่อความฝันของเราที่อยู่แค่เยื้อมมือของเรานี่เองค่ะ...#นอนหลับฝันดีน่ะค่ะคุณครูแป๋ม
น.ส.ปาริฉัตร เสระทอง ม.4/7 เลขที่ 29
สวัสดีค่ะ น.ส.ปาริฉัตร เสระทอง ม.4/7 เลขที่ 29