ชีวิตการทำงานหลังจากเรียนจบ


"งานหนักที่ทานทน จะหลอมคนให้ทนทาน"

       เมื่อข้าพเจ้า จบมหาวิทยาลัยแล้ว ข้าพเจ้าได้ไปสมัครงานในหลายๆบริษัท แต่ก็ยังไม่มีงานทำ ว่างงานอยู่ห้าเดือน ก็คิดว่ามันไม่ไหวแล้ว ต้องหางานทำ งานอะไรก็ได้ พอมีโครงการต้นกล้าอาชีพ ข้าพเจ้าก็ไปสมัคร แต่ผลสมัครปรากฎว่าไม่ได้ แต่เมื่อมีโครงการต้นกล้าอาชีพอีกครั้งข้าพเจ้าก็ไปสมัคร ผลปรากฎว่าได้เรียนหลักสูตร การผลิตของขวัญของชำร่วย เพื่อการจำหน่าย ก็ได้ทำการรายงานตัวตามขั้นตอน และข้าพเจ้าก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัย ที่จะเป็นที่เรียนโครงการต้นกล้าอาชีพ ว่าจะเริ่มเรียนวันที่เท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ายังไม่แน่นอน เพราะว่าที่วิทยาลัยนี้มีนักศึกษามาก เกรงว่าจะมีห้องเรียนไม่พอ ให้รอการติดต่อจากเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง พอเวลาผ่านมาถึงวันที่ต้องไปเรียน กลับไม่มีการติดต่อใดๆ   จากเจ้าหน้าที่ ข้าพเจ้าก็เลยติดต่อไปยังวิทยาลัยแห่งนั้นว่า ทำไมจึงไม่มีการติดต่อกับผู้เรียนว่าเข้าชั้นเรียนวันไหน เจ้าหน้าที่ตอบว่า สถานที่ไม่พอสำหรับที่จะสอน มีหลายๆหลักสูตรที่ไม่ได้เรียน หากเมื่อถึงเวลาที่ว่างแล้ว จะติดต่อให้หลักสูตรที่ยังไม่ได้เรียนมาเรียน ข้าพเจ้าเลยสอบถามว่า เมื่อห้องที่ใช้เรียนมีไม่พอ ทำไมวิทยาลัยจึงไม่ดำเนินการติดต่อกับโครงการว่าไม่สามารถรับได้ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ทางรัฐบาลเขาจัดมาให้ลงที่นี่ ทางวิทยาลัยก็ต้องทำตามหน้าที่ จนข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่ได้เรียน เพราะโครงการนี้มีปัญหาหลายด้าน

      ข้าพเจ้าเลยได้ไปทำงาน กับญาติพี่เขย ที่บ้านถวาย โดยที่ร้านของอาพี่เขย มีทั้งหมด6ร้าน แบ่งเป็น 1.ร้านแกลอรี่ 2.ร้านหินอ่อนและน้ำพุลูกกลิ้งหินอ่อน 3.ร้านขายของที่ระลึก ของประดับตกแต่ง ของเล่นแฮนด์เมด3ร้าน และร้านขายช้างไม้สัก1 ร้าน โดยข้าพเจ้ามีหน้าที่ในการเปิดร้านและช่วยพนักงาน ขนของมาจัดหน้าร้านที่เป็นออฟฟิตหลักในโซนสอง และมีหน้าที่รับใบออเดอร์จากพี่สาว เพื่อมาตรวจดูในสต๊อกว่าของที่ลูกค้าสั่งนั้นในสต๊อกมีพอหรือว่าต้องสั่งทำใหม่หรือไม่ และต้องติดต่อกับพี่สาว หากของที่จะส่งลูกค้ามีไม่พอ และจัดเตรียมของที่จะส่งให้ลูกค้าโดยทำการแพ็คกล่องและตรวจเช็กเวลาที่คาร์โก้มาเอาของ และหากลูกค้าต้องการดูรูปภาพที่ร้านแกลอรี่ก็จะมีคนใช้วิทยุสื่อสารมาบอก แล้วก็ตามไปดูแลลูกค้า หากพบปัญหาก็จะใช้วิทยุสื่อสารให้พี่สาวมาดูแลต่อ ซึ่งในการทำงานนั้นบางครั้งก็สนุกกับการได้เพนท์สี ดินสอดินปั้นรูปกบ เพนท์สีลูกข่าง ติดโบว์ตุ๊กตา ลงสีตุ๊กตาไม้กลึง ฯลฯส่งออกเมืองนอก เกิดความภูมิใจในฝีมือของตัวเอง ที่เป็นคนที่งานฝีมือไม่ค่อยได้เรื่อง ได้ลองทำงานฝีมือจนพัฒนาขึ้นมาในระดับหนึ่ง ได้เจอลูกค้าที่ อารมณ์ขัน บางครั้งก็เครียดกับลูกค้าที่เรื่องมาก ออเดอร์ที่ต้องส่งมีหลายลูกค้า หลายบริษัท ของที่จะส่งไม่ครบ ทำของส่งไม่ทัน ซึ่งก็ได้เผชิญมาหลากหลายรูปแบบ แต่นั่นก็เป็นการทำให้ข้าพเจ้ามีความอดทน อดกลั้น การควบคุม การใช้สติในการแก้ไขปัญหาที่เจอ

       ในหลายๆครั้งก็มีคนมาพูดว่าทำไมเรียนมาจนจบปริญญาตรี แล้วมาทำงานที่ใครๆก็ทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษา ไม่อาย หรือไม่ไปหางานที่ดีกว่านี้ทำ ข้าพเจ้าก็บอกว่า การที่คนเราจะประสบความสำเร็จนั้นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเรียนจบสูงมาต้องประสพผลสำเร็จในการทำงานก็ได้ และการที่ข้าพเจ้าได้ทำงานนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่สอนในการใช้ชีวิตของข้าพเจ้า อย่างเช่น ถ้าสมมุติเราได้ทำงานบริษัท หรือองค์กร เวลาไปทำงานก็ต้องมีการซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม โทรศัพท์ รถยนต์ แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน ที่อาจจะได้เจอคนที่แก่งแย่งชิงดี ทำให้เราต้องดันตัวเองให้เสมอกับคนอื่นๆสังคมการทำงานที่มีแต่ข้อขัดแย้ง แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบชิงดีชิงเด่นกับใคร ชอบทำงานที่เป็นอิสระ มีเพื่อนร่วมงานที่จริงใจ ถึงแม้ว่าจะดูเป็นงานที่หลายๆคนไม่คิดที่จะทำก็ตาม แต่มาถึง ณ จุดนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้าได้ข้อคิดหลายๆอย่าง ได้หันมาให้ความสนใจกับครอบครัวมากขึ้น ครอบครัวต้องมาอันดับหนึ่ง ส่วนตัวข้าพเจ้าข้าพเจ้าก็อยากทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวให้มากกว่า การเที่ยวเตร่เข้าสังคม ชีวิตในการทำงานของข้าพเจ้าถือว่าเป็นงานที่ให้อะไรหลายๆอย่าง ที่งานอื่นๆไม่เคยได้ให้  อย่างคำพูดที่ว่า "งานหนักที่ทานทน จะหลอมคนให้ทนทาน" นั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 354507เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2010 18:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 02:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท