หมั่นคอยดูแลและรักษาใจให้สงบและให้อภัยแก่กัน


"ขอให้เราแต่ละคนหมั่นดูแลและรักษาใจ รวมทั้งวาจาและกาย (การกระทำ) ของเรา เพื่อให้ความสงบสันติที่แท้จริงได้เติบโตขึ้นภายในใจของพวกเราทุกคน"

เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน 2553 ได้ดูข่าวทางทีวี มีระเบิดลง 5 ลูก
ที่ถนนสีลม บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง
มีคนบาดเจ็บ 70 กว่าคน และมีคนหนึ่งเสียชีวิต
คนที่บาดเจ็บและตายมีทั้งคนที่ไปชุมนุมต่อต้านคนเสื้อแดงอยู่บริเวณนั้น
และคนที่เป็นผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ไม่ได้ไปร่วมชุมนุมกับฝ่ายไหน
มีฝรั่งชาวออสเตรเลียคนหนึ่งบาดเจ็บด้วย มีตำรวจคนหนึ่งและทหารคนหนึ่งบาดเจ็บเช่นกัน

ผมรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์นี้ และเสียใจกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ตามข่าวบอกว่าผู้เสียชีวิตจากระเบิดในครั้งนี้ชื่อ คุณธัญญานันท์ แถบทอง อายุ 50 ปี
มีอาชีพขายอาหารอยู่ย่านสีลม ลูกสาวที่ช็อคหลังจากทราบว่าแม่เสียชีวิตบอกว่า
แม่นำน้ำและดอกไม้ไปให้กำลังใจทหารที่มารักษาการณ์บริเวณนั้น
โดยแม่ไม่เกี่ยวเรื่องสีเสื้อ เพียงแต่ต้องการแสดงออกถึงความรู้สึกและสิทธิของตน 
ส่วนพ่อเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของแม่ก็ถึงกับช็อคเป็นลมหมดสติ

ลูกสาวเชื่อว่าหากแม่ถึงมือแพทย์ทันเวลา แพทย์อาจช่วยได้
แต่ครั้งนี้กว่าจะถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ใช้เวลานานทั้งที่เกิดเหตุอยู่ใกล้โรงพยาบาล
ทั้งนี้เพราะรถที่นำส่งไม่ได้รับการเปิดทางให้จากผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
(ผมเขียนไปตามข่าว ไม่ทราบว่าความจริงเป็นเช่นไร)

หลังจากนั่งซึมไปพักหนึ่ง ผมก็คิดได้ว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ เราต้องดูแลความรู้สึก
หรือใจของเราให้ดีเป็นพิเศษ ดูแลใจเราให้สงบก่อนเป็นลำดับแรก
เมื่อใจสงบลงแล้ว ผมก็แผ่เมตตาให้ทั้งผู้ยิงระเบิด(ไม่ว่าจะเป็นใคร ฝ่ายไหน)
และผู้ที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงในครั้งนี้

แน่นอนว่าการเบียดเบียน ทำร้ายกัน จะถึงแก่ชีวิตหรือไม่ถึงแก่ชีวิต เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม
ทางพุทธถือว่าผิดศีลข้อแรกเลย ชาวพุทธเรามีความเชื่อพื้นฐานว่า
ใครทำกรรมใดไว้ เขาก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นเอง
ใครปลูกพืชใดก็ได้ผลแห่งพืชนั้น ปลูกมะม่วงก็ได้ผลเป็นมะม่วง ไม่ได้ผลเป็นมะนาว
เช่น หากทางการจับได้ เขาก็ต้องรับโทษตามกฏหมายของบ้านเมือง

ส่วนเราไม่ควรปล่อยใจเราให้ไปโกรธไปแค้นผู้ยิงระเบิด ตรงข้ามกลับต้องเมตตา ให้อภัย
ภาวนาให้เขาได้สำนึก เช่นเดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาองคุลีมาล
เมื่อองคุลีมาลผู้ฆ่าคนมาเกือบพันคน สำนึกในบาปบุญคุณโทษได้แล้ว
ได้รับพระเมตตาธิคุณจากพระพุทธองค์ให้อุปสมบทจนบรรลุอรหันต์(พ้นทุกข์ถาวร)
เวลาท่านไปบิณฑบาตร บางครั้งชาวบ้านที่ยังโกรธแค้นมาขว้างปาทุบตีทำร้ายท่านจนเลือดตกยางออก
ท่านก็นิ่งสงบไม่ตอบโต้ใดๆ การถูกทำร้ายแม้เป็นบรรพชิตแล้วเป็นส่วนหนึ่งของกรรม
ที่ท่านยอมรับโดยดุษฎี และการไม่ตอบโต้ใดๆ ก็คือการไม่ก่อเวรกรรมใดๆ ต่อไปอีก
เรียกว่าใจท่านสงบลงได้อย่างแท้จริง

ผมเชื่อว่า เมื่อเราดูแลใจของเราให้สงบลงได้ในทุกๆ สถานการณ์
เราก็จะสามารถปล่อยวาง ไม่ว่าจะเป็นความเศร้าโศกเสียใจหรือความโกรธ
อันความโกรธนั้น หากไม่ดูแลให้ดีก็อาจสะสมไปเป็นความเกลียดชัง
นำไปสู่ความแค้น และการล้างแค้นจองเวรกันไม่สิ้นสุด

การดูแลใจตนเอง ต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองพอสมควร
บางเรื่องที่เราทำไปแล้ว เรารู้สึกผิด  รู้สึกเสียใจอยู่เป็นเดือนเป็นปีก็มี
ไม่สามารถปล่อยวางลงได้

การให้อภัยตนเองเป็นเรื่องยาก คนอื่นทำให้เราโกรธยังวาง ยังอภัยได้ง่ายกว่า
หากอภัยได้ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ใจเราก็จะทุกข์น้อยลง

ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก แต่ก็ภาวนาว่า
สมาชิกของครอบครัวคุณธัญญานันท์จะสามารถให้อภัยต่อผู้กระทำการในครั้งนี้ได้ในที่สุด
หากวันหนึ่งทางการจับตัวเขาได้ และหากเขายอมมาขอขมา ผมก็อยากได้ยินคำว่า “อภัย”

ตอนดึกฝ่ายรัฐบาลได้ออกทีวีมาแถลง มีการกล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ผมก็อยากให้ฝ่ายผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงแถลงแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตด้วย
ซึ่งท่านสามารถทำได้อย่างจริงใจหากท่านไม่เกี่ยวข้อง
เป็นการแสดงความรักความเมตตา อันเป็นจิตวิญญาณของนักสันติวิธี

หากคนเสื้อแดงสามารถทำได้มากกว่านั้นอีกสักขั้น นั่นคือให้ความช่วยเหลือ(ความกรุณา)
แก่ครอบครัวคุณธัญญานันท์ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บคนอื่นๆ ในทางใดทางหนึ่ง
เช่น ให้เงินช่วยเหลือ หรือขอเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ (หากเขาอนุญาต)
ท่านก็จะใจประชาชน คนทั้งหลายก็จะชื่นชมพวกท่าน แสดงมุทิตาจิตต่อท่าน

การทำเช่นนั้นยังจะช่วยทำให้ความร้อนแรงของสถานการณ์เย็นลงได้บ้าง
เป็นการสร้างบรรยากาศแห่งการชุมนุมอย่างสันติตามเจตนารมณ์ของการชุมนุม
ที่ท่านได้ประกาศไว้

ขอให้เราแต่ละคนหมั่นดูแลและรักษาใจ รวมทั้งวาจาและกาย (การกระทำ) ของเรา
เพื่อให้ความสงบสันติได้เติบโตขึ้นภายในใจของพวกเราทุกคน

สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
23 เมษายน 2553

หมายเลขบันทึก: 353551เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2010 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันแบบนี้

เมื่อชาวบ้านเขาเดือนร้อนก็ควรรับรู้แล้วรีบสลายตัวกลับไป

ไม่มีใครเขาว่าคุณแพ้หรอก  มีแต่คนคอยปรบมือให้

ในการตัดสินใจเช่นนั้น  ไม่เชื่อแกนนำลองทำดูซิ



"There is no revenge so complete as forgiveness"

-Josh Billing-

"Without forgiveness life is governed by... an endless cycle of resentment and retaliation."

Roberto Assagioli (1888 - 1974)

"Hatred never ceases through hatred." (เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร)

Buddha (563 BC - 483 BC)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท