IF THE WORLD WERE A VILLAGE OF 100 PEOPLE
ว่างเว้นจากการทำงาน ท่องไปในโลกอินเทอร์เนท เจอะบทความหนึ่ง อ่านแล้วคิดว่าน่าสนใจและให้ข้อคิดดี เลยลองแปลมาให้อ่านกันนะครับ (แปลผิดถูก อย่าถือสานะครับ)
In the world today, more than 6 billion people live.
โลกเราทุกวันนี้ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 6,000 ล้านคน
If this world were shrunk to the size of a village of 100 people, what would it look like?
ถ้าเอาข้อมูลของประชากรทั่วโลกมาย่อย่นลง เปรียบโลกเป็นเหมือนหมู่บ้านของคน ๑๐๐ คน ,จะเป็นอย่างไร?
59 would be Asian
59 คน เป็นคนเอเชีย
14 would be American (North, Central and South)
14 คน เป็นคนอเมริกาเหนือ กลางและใต้
14 would be African
14 คน คนเป็นแอฟริกา
12 would be European
12 คน เป็นคนยุโรป
1 would be from the South Pacific
1 คน เป็นคนแปซิฟิกใต้
50 would be women, 50 would be men
50 คน เป็นผู้หญิง , 50 คน เป็นผู้ชาย
30 would be children, 70 would be adults.
30 คน เป็นเด็ก ,70 คน เป็นผู้ใหญ่
70 would be nonwhite, 30 would be white
70 คน ไม่ใช่คนผิวขาว ,30 คน เป็นคนผิวขาว
90 would be heterosexual, 10 would be homosexual
90 คน รักเพศตรงข้าม ,10 คน รักเพศเดียวกัน
33 would be Christians
33 คน เป็นคริสเตียน
21 would be Moslems
21 คน เป็นมุสลิม
15 would be Hindus
15 คน นับถือฮินดู
6 would be Buddhists
6 คน เป็นชาวพุทธ
5 would be Animists
5 คน นับถือภูติผี ปีศาจ
6 would believe in other religions
6 คน นับถือศาสนาอื่นๆ
14 would be without any religion or atheist.
14 คน ไม่นับถือศาสนาใดๆ
15 would speak Chinese, Mandarin
15 คน พูดภาษาจีนกลาง
7 English
7 คน พูดภาษาอังกฤษ
6 Hindi
6 คน พูดภาษาอินเดีย
6 Spanish
6 คน พูดภาษาสเปน
5 Russian
5 คน พูดภาษารัสเซีย
4 Arabic
4คน พูดภาษาอาหรับ
3 Bengali
3 คน พูดภาษาเบงคลี
3 Portuguese
3 คน พูดภาษาโปรตุเกส
The other would speak Indonesian, Japanese,
German, French, or some other language.
ที่เหลือ พูดภาษาอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส และอื่นๆ
In such a village with so many sorts of folks, it would be very important to learn to understand people different from yourself and to accept others as they are. Of the 100 people in this village:
ในหมู่บ้านที่มีชาวบ้าน 100 คนแห่งนี้ มีความแตกต่างหลากหลาย เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ และยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน
20 are underonurished
20 คน เป็นโรคขาดสารอาหาร
1 is dying of starvation, while 15 are overweight.
1 คนกำลังตายโดยความหิวโหย ขณะที่ 15 คน มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
Of the wealth in this village, 6 people own 59% (all of them from the United States), 74 people own 39%, and 20 people share the remaining 2%.
คน 6 คน ถือครองทรัพย์สิน 59 เปอร์เซนต์ (ทั้ง 6 คน มาจากประเทศอเมริกา) 74 คน ถือครองรวมกัน 39 เปอร์เซนต์ และอีก 20 คน ถือครองรวมกัน 2 เปอร์เซนต์
Of the energy of this village, 20 people consume 80%, and 80 people share the remaining 20%.
คน 20 คน บริโภคพลังงาน 80 เปอร์เซนต์ ขณะที่ อีก 80 คน ร่วมกันบริโภคอีก 20 เปอร์เซนต์ที่เหลือ
20 have no clean, safe water to drink.
20 คน ไม่มีน้ำสะอาดสำหรับดื่ม
56 have access to sanitation
56 คน มีสุขอนามัยที่ดี
15 adults are illiterate.
ผู้ใหญ่ 15 คน ไม่รู้หนังสือ
1 has an university degree.
เพียงแค่ 1 คน ที่เรียนจบปริญญา
7 have computers.
7 คน มีคอมพิวเตอร์ใช้
In one year, 1 person in the village will die, but in the same year, 2 babies will be born, so that at the year's end the number of villagers will be 101.
ใน 1 ปี จะมีคนเสียชีวิต 1 คน ขณะเดียวกันก็มีชีวิตใหม่เกิดขึ้น 2 คน ดังนั้นปีต่อไป ประชากรในหมู่บ้านจะเพิ่มขึ้นเป็น 101 คน
If you do not live in fear of death by bombardment, armed attack, landmines, or of rape or kidnapping by armed groups, then you are more fortunate than 20, who do.
ถ้าคุณไม่เคยรู้สึกกลัวถึงอันตรายจากการทิ้งระเบิด การสู้รบ การสงคราม ความทุกข์ทรมาน ความเปลี่ยวเปล่าจากการถูกกักขัง ก็เรียกได้ว่า คุณยังดีกว่าคนอีก 20 คน ที่กำลังประสบอยู่
If you can speak and act according to your faith and your conscience without harassment, imprisonment, torture or death, then you are more fortunate than 48, who can not.
ถ้าคุณสามารถทำกิจกรรมเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาได้ โดยไม่ต้องกังวลต่อการถูกกักขัง การทรมานและความตาย คุณก็ยังดีกว่าคนอีก 48 คน ที่ทำไม่ได้
If you have money in the bank, money in your wallet and spare change somewhere around the house, then you are among the richest 8.
ถ้าคุณมีเงินฝากในธนาคาร ในกระเป๋าสตางค์และวางไว้ในบ้านที่ไหนสักแห่ง คุณก็อยู่ในกลุ่ม 8 คน ของผู้มั่งมีที่สุด
If you can read this message, that means you are probably lucky!
ถ้าคุณได้อ่านเรื่องนี้ ต้องเรียกได้ว่า คุณน่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่โชคดีที่สุดในโลกทีเดียว
(The statistics were derived from Donella Meadows "State of the Village Report" first published in 1990)
(สถิติทั้งหมด อ้างอิงจาก "State of the Village Report" ของ Donella Meadows ตีพิมพ์ครั้งแรก ในปี 1990)
ความเห็น (7)
คนเขียนข่าว
ของเป็น1ใน59คนที่เป็นคนเอเชีย และขอเป็นคนไทยคะ
ดรีม
อ่านแล้วค่ะ...แต่ไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือเปล่า
ขออภัยที่เข้ามาอ่านช้าไปหน่อย...เห็นใจเถอะช่วงนี้กำลังสับสนกับชีวิตที่ยุ่ง ๆ อีรุงตุงนัง แต่ก็มีความสุขดีค่ะ...เมื่อปรับตัวได้
แต่อย่างไรก็ยังติดตามงานอยู่นะจ๊ะ...
ตกลงแล้วเราโชคดีหรือโชคร้ายค่ะ...ที่เกิดมาเป็นคน
ต้องให้ อ.พงศกร สอนหน่อย...เรื่องการใช้ชีวิต
อย่าลืมลงไว้เป็นความเห็นให้อ่านด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ...
ทักทายน้องดรีมครับ ติดตามผลงานของน้องอยู่นะครับ
ให้อภัย คุณ vij ครับ .. ยุ่งแต่มีความสุขก็น่าจะดีแล้วนี่ครับ .. เกิดเป็นคนสนุกจะตายไป - จะโชคร้ายได้ยังไง .. มองโลกในแง่ดีไว้ครับ - ถ้าพอใจมันก็พอดี - เป็นกำลังใจให้ในทุกๆเรื่องนะครับ ..
ยินดีครับมากครับ หาก อ.เอกองค์ จะนำไปเผยแพร่ในเว็บบอร์ดของวิทยาลัย (อันที่จริงไม่ต้องขออนุญาตผมหรอกครับ ผมแค่แปลมาเท่านั้นเอง)
บนโลกใบนี้ ยังมีคนอีกตั้งมากนะครับ ที่ลำบากกว่าเรา - คิดได้เช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น .. ลดกิเลสลงได้เยอะ - ตั้งใจว่าต่อไปจะทำทานให้มากขึ้นครับ
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตนำบล็อกเข้าแพลนเน็ต ด้วยความชื่นชมและอยากติดตามผลงานค่ะ
KPRUQA Team
อ่า ค่ะ . . .
ทราบแล้วเปลี่ยนค่ะ แง้วๆ
// แปลงกายเป็นแมวเดินออกจากห้องไป