ความตั้งใจก่อนปิดภาคเรียนว่าจะหาเวลาไปฝึกปฏิบัติธรรมสัก ๕ วัน แต่ความเป็นจริงมีเหตุมากมายที่ไม่สะดวก ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดหวังหรือเพราะความโชคร้ายโชคดีเนื่องจากทุกอย่างมีเหตุมีผล เพราะธรรมชาติคือธรรมะ ชีวิตและความจริงคือธรรมชาติ
เมื่อไปไม่ได้ก็ต้องจัดการตัวเองเป็นอย่างอื่นที่มีความหมายทำนองเดียวกัน ซึ่งในความจริงก็เป็นเพียงขั้นตอนการศึกษาเรียนรู้การในเบื้องต้น จึงได้ใช้วิธีการอ่านหนังสือ ซึ่งยังมีหนังสือมากมายที่อ่านผ่านตาไปแล้ว ได้แต่ค่อนข้างจะรู้ บางเล่มอ่านแล้วเข้าใจบ้างและไม่เข้าใจบ้าง ทำให้เป็นมีธรรมะในใจค่อนข้างน้อย และการนำธรรมะไปใช้เพื่อแก้ไขตนเองยิ่งน้อยมาก ๆ ก็จึงยากจะเป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คำสอนของพระพุทธองค์"การหมั่นทำความเพียร" ก็น่าจะเป็นแรงผลักดันและสร้างพลังใจได้
วันนี้ได้ทำอะไร ๆ ตามที่ใจอยากจะทำ และเลือกทบทวน "แบบฝึกหัดสำหรับการภาวนา" จากหนังสือ"ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ" (The Miracle Of Being Awake) : ท่านติช นัท ฮันห์ แปลโดยพระประชา ปสนฺนธฺโม เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ยากจึงนำมาแบ่งปัน
แบบฝึกการเจริญสติ เป็นเรื่องไม่ยากของวิธีการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการฝึกขั้นต่าง ๆ
๑. ยิ้มน้อย ๆ
๑.๑. ยิ้มน้อย ๆ เมื่อตื่นนอนในตอนเช้า แขวนกิ่งไม้หรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นคำว่า"ยิ้ม" ไว้ที่เพดานหรือผนังห้อง ให้มองเห็นได้ทันทีเมื่อลืมตาตื่นนอนในตอนเช้า เครื่องหมายนี้จะทำหน้าที่คอยเตือนให้ระลึกถึงการยิ้ม ใช้เวลาชั่วขณะจิตก่อนที่จะลุกขึ้น เพื่อบังคับบัญชาลมหายใจ หายใจเข้าหายใจออกอย่างนุ่มนวล ๓ ครั้ง ขระที่คงยิ้มไว้และติตามลมหายใจไปเรื่อย ๆ
๑.๒ ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเธอมีเวลาว่าง ขระที่นั่งคอยใครอยู่ในห้องรับแขก หรือนั่งบนรถเมล์ หรืออยู่ที่ทุกหนทุกแห่งที่ยืนหรือนั่งให้ยิ้มเล็กน้อยเสมอ ยิ้มแล้วก็มองไปยังเป้าสายตาที่ค่อนข้างนิ่งเช่นเด็กสักคนหนึ่ง ใบไม้ ภาพเขียนบนผนังก้ได้ คงรอยยิ้มเอาไว้และพิจารณาจุดที่สนใจ ในฐานะที่เป็นธรรมชาติแท้ของตัวเธอเอง
๑.๓ ยิ้มน้อย ๆยามที่เธอฟังดนตรี ตั้งใจฟังเพลงสักสองสามนาที เอาใจใส่เนื้อร้อง เสียงดนตรี จังหวะและทำนอง ยิ้มไว้และสังเกตลมหายใจเข้าออก
๑.๔ เมื่อเธอตระหนักว่าอารมณ์เธอเริ่มขุ่นมัว ให้ยิ้มน้อย ๆทันที หายใจเข้าและหายใจออกย่างสงบสัก ๓ ครั้ง คงรอยยิ้มเอาไว้
http://images.google.co.th/imglanding?q