หลังจากลาสิกขามาแล้ว ผมก็ยังวนเวียนไปคอยรับใช้ท่านอาจารย์เกษมอยู่เสมอ ทั้งตอนเช้าที่จะเดินไปช่วยหิ้วของรับบิณฑบาตร หรือเวลาอื่น ๆ ที่พอจะไปช่วยท่านได้
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน นัดกับท่านไว้ว่าจะมาเดินกับท่านไปตลาดซื้อเสื่อน้ำมันสำหรับปูพื้นกุฎิเณรและปูโต๊ะฉันอาหารของหลวงพ่อกัน
หลังจากนั้น ท่านได้ชวนไปวัดพระศรีมหาธาตุฯ ตรงบางเขน เพื่อนำของไปคืนและจะไปสรงน้ำพระอีกรูป
จากการนั่งคุยกัน พอจะทราบได้ว่า พระที่ท่านอาจารย์จะไปสรงน้ำนี้ ท่านเป็นผู้ที่เคยให้การช่วยเหลืออาจารย์ และได้พาท่านอาจารมาบวชเป็นสามเณรและดูแลอาจารย์เมื่อก่อน ท่านอาจารย์เกษมจึงนำชุดรดน้ำที่มีคนนำมาถวาย (มีโตกไม้อันเล็กน่ารัก น้ำอบหนึ่งขวด ขันใบเล็กจิ๋ว ผ้าขนหนูผืนเล็กหนึ่งผืน บรรจุในถุงน่ารัก) และเตรียมน้ำไปหนึ่งขวดด้วย เพื่อไปรดน้ำขอพรจากพระอาจารย์ผู้นั้น ซึ่งบวชและอยู่ประจำที่วัดพระศรีฯ ผมติดตามอาจารย์ขึ้นไปด้วย ได้นั่งสนทนาธรรมกัน พอถึงเวลาท่านอาจารย์เกษมก็ทำพิธีสรงน้ำพระองค์นั้น แล้วก็ให้ผมได้มีโอกาสทรงน้ำพระองค์นั้นด้วย คงเป็นบุญของผมที่มีโอกาสได้สรงน้ำพระตั้งแต่ต้นปีใหม่ไทย...
สาระของบันทึกนี้มิได้อยู่ที่เรื่องความโชคดีของการได้สรงน้ำพระต้นปีใหม่ไทย หรือต้นสงกรานต์ปีนี้ของผม แต่สาระที่อยากชี้ให้เห็นคือ ความกตัญญูที่ผมได้เห็นเป็นตัวอย่าง ที่พระอาจารย์เกษมมีต่อพระรูปที่อยู่ที่วัดพระศรีฯ เพราะท่านเคยให้การช่วยเหลือและอุปถัมภ์ดูแลพระอาจารย์เกษมมาก่อน เมื่อถึงเวลาที่เป็นมงคล ก็มีการไปสรงน้ำผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณ เพื่อขอพร นับว่าเป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาเป็นตัวอย่างที่ดีในชีวิตของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง... และอยากให้คนในสังคมปัจจุบันนี้น้อมนำไปเป็นตัวอย่างต่อไป เพื่อความสงบ ร่มเย็น ของชาติและบ้านเมือง
ไม่มีความเห็น