ช่วงนี้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในห้องประชุมครับ เกือบๆ สัปดาห์ เวลาทำงานส่วนใหญ่ใช้ไปกับการประชุม ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ความจริงไม่ได้ชอบประชุมหรอกครับ เพียงแต่คิดเป็นถือเป็นเครื่องมือที่ประสิทธิภาพเครื่องมือหนึ่งในการขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะงานสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัยในขณะนี้ครับ เพียงแต่ตอนนี้ผมพยายามทำให้บรรยากาศการประชุมมันมีความหลากหลายมากขึ้นเท่านั้นเอง (ไม่รู้ทำได้หรือเปล่า)
และด้วยความยุ่งๆ ทั้งหน้าฉากและหลังฉาก หน้าฉากคืนนั่งประชุมจะเป็นหัวโต๊ะหรือปลายโต๊ะไม่เกี่ยวครับ ส่วนหลังฉากก็มุ่งไปที่การศึกษาเอกสารต่างๆ การเตรียมข้อมูล ต่างๆ สารพัด เพื่อให้งานมันเดินหน้าได้ดีที่สุด ทำให้ช่วงนี้ไม่สามารถมาเขียนบันทึกรายวันได้ครับ จึงต้องเป็นรายสองวันแทน จึงขอเริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อวานซืนก่อนนะครับ สายๆ เป็นการประชุมวอร์รูมประกันคุณภาพของคณะศิลปศาสตร์ฯ ครับ งานนี้ท่านคณบดีนั่งหัวโต๊ะครับ
(สังเกตุดีๆ นะครับ จะเห็นว่า คณบดีกุมขมับ ฮา)
รอบนี้เช็คกันคนละประเด็นครับ ทุกคนได้รับมอบหมายให้จับตามองในส่วนที่ตนเองถนัดครับ ผมได้รับมอบหมายงานด้านวิจัย เลยเบาหน่อย (ข้อมูลที่หายไปก็มาจากผมนั่นแหละ ฮิฮิ)
เสร็จจากงานนี้ภาคบ่ายก็เป็นการประชุมคณะกรรมการประเมินและติดตามการประกันคุณภาพครับ ชุดนี้จากมีคณะกรรมการจากภายนอกด้วย ซึ่งปรากฏว่าไม่ได้มีอุปสรรค์ในเรื่องการประสานงานในการมาร่วมประชุมในครั้งนี้เลยครับ แม้จะโทรแจ้งเมื่อคืนเอง
(ถ้าเทียบเปอร์เซนต์พบ กรรมการภายในขาดประชุมเยอะกว่ากรรมการภายนอกครับ)
คณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่สำคัญคือ จับตามองการทำงานของผมครับ เห็นผมทำอะไรหลงทางแล้วต้องสะกิดกลับมาให้ได้ แน่นอนครับข้อเสนอแนะจากการประชุมจะเป็นประโยชน์มากเพื่อการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย รอบนี้ได้แนวทางแก้ไขหลายเรื่องมาก คุ้มกับการประชุมจริงๆ ที่สำคัญทำเวลาการประชุมดีกว่ารอบที่แล้ว เสร็จการประชุมประมาณ 5 โมงเย็น ฮิฮิ รอบที่แล้ว 6 โมงเย็น
เช้าวานนี้กิจกรรมเริ่มด้วยการคุย ผมตั้งหัวข้อไว้ว่า km:qa-yiu ครับ เดิมเข้าใจว่าคนจะเข้าร่วมเยอะเหมือนตอนประชุมแผนของสัปดาห์ก่อน ปรากฏว่าหร่อยหร่อครับ แต่ก็ดีมากครับทำให้บรรยากาศการพูดคุยมีส่วนร่วมมากขึ้น
(บางกรณีต้องซุบซิบกันบ้างครับ)
เวทีนี้ผมจัดเพื่อตอบโจทย์สามสี่เรื่องจากงานประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะประเด็นปัญหาในการจัดทำ sar ซึ่งจากการสัมผัสปัญหาก็เจอว่าอันนี้มันเรื่องใหญ่จริงๆ และคิดว่าข้อมูลหลักฐานการดำเนินงานเยอะมากที่ตกหล่นในขั้นการเขียน sar เวทีนี้น่าจะช่วยให้ผลของงานดีขึ้น
(การนั่งคุยให้ได้อรรถรสต้องเอาเอกสารมานั่งคุยกันครับ)
(สังเกตว่าภาพแรกนั่งคุยกันดีๆ ครับ หลังๆ นั่งไม่ไหวแล้วขอยืนคุยดีกว่า)
ข้อสรุปแรกของการขับเคลื่อนการเขียนรายงาน sar ปี 52 คือ เดินไปพร้อมกัน เรียนรู้ร่วมกัน ตรวจสอบด้วยกัน ผ่านกิจกรรมกลุ่ม
เสร็จจากประชุมนี้ก็เป็นการประชุมแผนในช่วงบ่ายครับ ความจริงสมาชิกประชุมช่วงเช้ากับบ่ายเป็นชุดเดียวกันครับ เพียงแต่คุยคนละเรื่องกัน
ความรู้สึกของผมในการประชุมคือ ถ้าไม่มีความเห็นต่างกันในที่บ้าง ไม่มีการนำเสนอแนวทางใหม่ๆ บ้างบรรยากาศการประชุมมันก็กร่อยครับ แต่รอบสองสามวันนี้บรรยากาศการประชุมสนุกครับ เห็นต่างกันบ้าง มีแนวทางใหม่ๆ ออกมาบ้าง คึกคักดีครับ
ประชุมบ่อยๆๆเหนื่อยไหมครับ กลัวโดนใครบางคนยึดเวที พูดคนเดียว ฮ่าๆๆ ขอให้อาจาย์มีความสุขกับการทำงานครับ
มาคารวะ สหาย ร่วมอุดมการณ์ สร้างสาน สู่ LO ครับ
ขอบคุณครับ ดร. ขจิต ฝอยทอง
ผมเป็นประธานประชุมประเภทของเบรกครับ ฮิฮิ เลยหาคนยึดเวทีพูดคนเดียวลำบากหน่อย แต่ยอมรับเหนื่อยมากครับ ประชุมบ่อยๆ
ขอบคุณครับอาจารย์ JJ
ผมคิดว่ากระบวนการเหล่านี้จะสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรได้ครับ ทุกคนต้องมีเครื่องมือในการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน
เห็นบรรยากาศการผลักดันการร่วมประชุมในหลายๆเรื่องแล้วรู้สึกดีมากครับ...อย่างน้อยได้เห็นท่านคณบดีที่ไม่ได้เจอกันนานเลย อิอิ (อัลฮัมดุลิลละฮฺ)
คิดต่างบ้างดีแล้วครับและบางครั้งเดินกันคนละทางเพื่อจุดหมายปลายทางที่ดีของสังคมบ้างมันก็ดีครับ
ด้วยสลามและดุอาอฺ
ขอบคุณครับอาจารย์ เสียงเล็กๆ فؤاد
เอารูปท่านคณบดีมาฝากครับ
อาจารย์ครับ สงกรานต์ พาเตาฟิกไปเที่ยวที่ไหนครับ ป่านนี้คงตัวโตแล้วใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ ดร. ขจิต ฝอยทอง
สงกรานต์ พ่อของเตาฟิกไม่ว่างครับ เพราะต้องขึ้นเวทีโชว์ตัว ฮิฮิ (ยังกะดาราแหนะ) แต่หลังสงกรานต์ เตาฟิกจะได้ไปเที่ยวบ้านปู่ ฮา