บะ”...สภากาแฟ...แลกเปลี่ยนประสบการณ์การฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009


...เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีน จากการเสวนา บะ”...สภากาแฟ...ครั้งที่ 3 วันที่ 30 มีนาคม 53 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ...

          ใครฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 แล้วบ้างคะ?...ยกมือขึ้น...ปรากฎว่าประมาณ 80% ของผู้เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ได้ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มากน้อยแตกต่างกันไป  ซึ่งบุคลากรสถาบันมะเร็งแห่งชาติถือว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์ด้านสาธารณสุข ได้รับวัคซีนจำนวน 400 โดส ฉีดไปแล้ว 230 คน กำลังสำรวจและรวบรวมผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับบุคลากรหลังการฉีดวัคซีน

                   

          บะ”...สภากาแฟ...ได้จัดให้มีการนำผู้มีประสบการณ์จากการฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง รวมถึงคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็จะได้เป็นข้อมูลในการพิจารณาว่าจะตัดสินใจฉีดหรือไม่เพราะอะไร?

 

 

  ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการเผยแพร่ ซึ่งแต่ละคนต่างก็หามาเป็นเหตุผลก่อนการฉีดวัคซีน

          เมื่อได้เอ่ยถึง...วัคซีนไข้หวัด 2009 ซึ่งหน่วยราชการได้มีการรณรงค์ให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ให้ฉีดเพื่อป้องกันไข้หวัด 2009 ที่จะระบาดระลอกใหม่ ซึ่งมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยังสงสัยในผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 ทำให้ลังเล ไม่กล้าฉีด โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้มีการค้นหาข้อมูลในทุกด้าน เพื่อประมวลความเสี่ยงที่เป็นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

          นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทราวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมวอร์รูมสธ.เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่าขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่และพบว่าสัปดาห์นี้มีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แผนกผู้ป่วยนอกมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ป่วยนอกจาก 33 อำเภอ 23  จังหวัด ซึ่งได้เป็นห่วงการระบาดรอบ 2  ตอนนี้มีเครื่องมือป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สองอย่างคือ การป้องกันตนเองสำหรับประชาชนทั่วไป และวัคซีนสำหรับกลุ่มเสี่ยง (อ้างอิงข้อมูล www.thaigov.go.th)

          นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 ว่ามีการดำเนินการทั่วโลก เพื่อป้องกันการระบาดรอบ 2 ซึ่งวัคซีนที่ฉีดในไทยเป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อตาย ผลิตโดยเทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับว่ามีความปลอดภัยสูงแก่ผู้ได้รับ มีกระแสข่าวการเกิดอาการหลังฉีดวัคซีนบ้าง โดยรับแจ้งเหตุทุกรายเพื่อให้การดูแลและให้คำปรึกษาอย่างดีที่สุด แต่ให้เพิ่มการดูแลอย่างใกล้ชิดในกลุ่มหญิงมีครรภ์

 

           

 

        สธ. ระบุอาการหลังการฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 มีรายงานทั่วโลก 

          ทั้งนี้การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด 2009 ทั่วโลกมีการเฝ้าระวังหลังการฉีดเพื่อความปลอดภัย โดยองค์การอนามัยโลกมีการรายงานหลังการฉีดวัคซีนจากประเทศต่างๆเช่น แคนาดากระจายวัคซีน 25 ล้านพบอาการหลังฉีด 5,707 ราย เกิดในหญิงตั้งครรภ์ 26 ราย ไต้หวัน มีผู้ฉีด 5.6 ล้านราย อาการหลังฉีด 1,051 ราย เกิดในหญิงตั้งครรภ์ 19 ราย เดนมาร์กมีผู้ฉีด 4.2 ล้านรายพบอาการหลังฉีด 547 ราย เกิดในหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย

          ส่วนไทยกระทรวงสาธารณสุขฉีดแล้ว 83,165 ราย พบอาการหลังฉีด 52 ราย (เกิดในหญิงตั้งครรภ์ 5 ราย บุคลากรสาธารณสุข 2 ราย) ซึ่งสธ. ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการฉีดวัคซีนทุกกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใดและให้บริการประชาชนในกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มการดูแลหญิงมีครรภ์ใกล้ชิดและให้วัคซีนโดยความสมัครใจ

 

          มารู้จัก...วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ...กันเถอะ

          วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 คือวัคซีนที่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเกือบทุกปี วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะป้องกันโรคได้ต้องให้ตรงกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดจึงต้องมีการผลิตวัคซีนและนำมาฉีดใหม่ทุกปี ที่เรียกว่า”ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล”ในปี 2552 มีการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้โดยเฉพาะ  ร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และสามารถป้องกันได้ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังการฉีด

       วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือ หรือ flu vaccine มีด้วยกัน 2 ชนิด  คือ

         1.  Trivalent Inactivated Influenza Vaccine (TIV) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า The Flu Shot เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ให้โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณไหล่หรือต้นขา  ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป  รวมทั้งคนสุขภาพดีทั้งหลายหรือผู้ที่มีภาวะโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์

         2.  Live, Intranasal Influenza Vaccine (LAIV) มีชื่อการค้าว่า FluMist® เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น  ให้โดยการพ่นทางจมูก  อนุมัติให้ใช้ได้เฉพาะผู้มีสุขภาพดี  อายุตั้งแต่ 2-49 ปี และไม่ตั้งครรภ์  ไม่อนุญาตให้ใช้ในผู้ที่มีภาวะโรคเรื้อรัง อายุต่ำกว่า 2 ปี หรือมากกว่า 50 ปี  ทั้งนี้อาจเนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคในบุคคลเหล่านี้ไม่ค่อยดีพอ  จะเป็นการเสี่ยงหากใช้วัคซีนชนิดเชื้อเป็น  นอกจากนี้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีและมีประวัติหอบซ้ำก็ไม่แนะนำให้ใช้เช่นกัน  (ผู้มีอายุ > 50 ปีควรใช้วัคซีนแบบฉีดแทน)

        คำถามที่เกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่กับความปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์  คงเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่กระจ่างในเอกสารกำกับวัคซีนของบริษัทองค์การเภสัชกรรม เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด ที่ระบุว่าหากต้องการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่ากำลังตั้งครรภ์,  คาดว่าตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร  ซึ่งแพทย์หรือเภสัชกรจะเป็นผู้ตัดสินว่าควรได้รับวัคซีนหรือไม่    

( แหล่งข้อมูลอ้างอิง 1.http://www.cdc.gov/flu/protect/pdf/vaccinekeyfacts.pdf 2.http://www.cdc.gov/flu/professionals/vaccination/pdf/vax-summary.pdf   3. เอกสารกำกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ปี 2009 จากบริษัทองค์การเภสัชกรรม เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด ปรับปรุง 01/2009 )

 

 

บะ”...สภากาแฟ ได้เชิญผู้ที่มีประสบการณ์การฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 มาเล่าสู่กันฟัง

         เนื่องจากแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้ารักษาผู้ป่วยต้องให้การดูแลรักษาผู้ป่วยจำนวนมากมีความเสี่ยงในการติดโรคสูงและถ้าบุคลากรดังกล่าวป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็จะมีผลกระทบต่อผู้ให้บริการและผู้ร่วมงาน ดังนั้นพอจะสรุปเหตุผลที่จนท.รับการฉีดวัคซีนโดยความสมัครใจ (เซ็นใบยินยอมในการฉีดวัคซีน) ดังนี้

        1. จากการที่จนท.ห้อง x-ray รพ.รามา ติดไข้หวัด 2009 จนต้องปิดแผนกเพื่อฆ่าเชื้อนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บุคลากรของสถาบันมะเร็งที่ไปๆมาๆระหว่างกันเกิดความกลัวและไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ติดใจฉีดวัคซีน

        2. จากการที่ตอนไข้หวัด 2009 ระบาดในปีที่แล้ว จนท.ของเราก็ติดเช่นกัน ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ฉีดไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

       3. การทำงานนั้นต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก การป้องกันไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งคือ มีคุณหมอบางท่านฉีดนำร่องไปก่อนแล้ว พยาบาลก็รู้สึกอุ่นใจ ทำให้เกิดความมั่นใจที่จะฉีดตามเช่นกัน(คงปลอดภัย)

      4. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนก็มีทั้งบวกและลบ จึงมีคนประมาณ 50% มีความไม่มั่นใจและเกิดความกังวลขึ้น จึงมีผู้ที่หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและการวิจัย(มีเยอะมาก)มาประกอบการตัดสินใจ

      5. จำนวนวัคซีนที่มีจำกัดและกลัวการระบาดรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เข้ารับการฉีด ทั้งๆที่ไม่ค่อยแน่ใจในผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นก็ตาม เมื่อชั่งใจดูแล้วน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสียที่จะเกิดขึ้น

 

        ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่นำมาเป็นขวัญกำลังใจให้กับตัวเองในการเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย เช่น

กลุ่มแรก  มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่มีอาการใดๆเลย (ประมาณ 45%)

กลุ่มสอง  มีอาการไข้ ปวดศีรษะ อาการมึนคล้ายจะเป็นหวัด ในระยะสามวันแรก (ประมาณ 50%)

กลุ่มสาม  มีอาการไข้ มึนง่วงซึม ตาแดง(ตอนกลางคืน) มีอาการคลื่นไส้คล้ายอยากอาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ในระยะสามวันแรก (ประมาณ 4%)

กลุ่มสี่      มีไข้ ปวดศีรษะ เมื่อยกล้ามเนี้อและมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการคลื่นไส้ ไอ เลือดกำเดาไหล ในระยะสามวันแรกถึงหนึ่งสัปดาห์ (ประมาณ 1%)

 

          จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกันจะเห็นว่าอาการเหล่านี้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนจะเคยได้พบในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งดังกล่าวในช่วง 3 วันแรก ซึ่งอาการจะคล้ายๆกันซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่สอง ซึ่งไม่มีผลกระทบมากนัก แต่ในสถาบันมะเร็งฯมีผู้ที่ต้องนอนรพ. 1 ราย คือ

        คุณพจนีย์ เป็นพยาบาล ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่าเป็นเพียงคนเดียวที่เกิดอาการแพ้มากจนต้องนอนรพ. 3 วัน ซึ่งหลังจากฉีดวัคซีนแล้วกลับบ้านตอนเย็นก็สังเกตอาการ มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้คล้ายอยากอาเจียน ไอ มีน้ำมูก มีไข้ และต่อมาเริ่มปวดกล้ามเนื้อมาก มีความดันสูงกว่าปกติและรู้สึกปวดในกระดูก สังเกตอาการโดยนอนที่บ้านหนึ่งวัน เมื่อแน่ใจว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน จึงได้โทรปรึกษาคุณหมอ หมอสั่งให้นอนสังเกตอาการที่รพ. 3 วันแล้วอาการก็หายเป็นปกติ

 

 

 

 

      ผู้ที่ยังไม่กล้าฉีดวัคซีนก็ได้นำเหตุผลมาเล่าสู่กันฟัง 

      ....จากการค้นคว้าข้อมูล คุณสุนันทาซึ่งเป็นนักวิจัย บอกว่าทำให้รู้สึกกลัวและไม่แน่ใจในผลกระทบที่เกิดขึ้น เนื่องจากวัคซีนที่ใช้นี้เวลาในการทำการวิจัยมีจำกัด เนื่องจากการระบาดของโรคจึงทำให้รีบทำวัคซีนออกมา

      ....เห็นว่าวัคซีนตัวนี้ผลิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเมืองหนาว ซึ่งใช้ได้ผลดีกับประเทศเมืองหนาว ซึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ผลดีกับเชื้อไวรัสที่อยู่ในแถบเอเซียซึ่งอาจจะคนละสายพันธุ์กันดังนั้นวัคซีนนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมกับคนไทย ซึ่งตอนนี้วัคซีนที่วิจัยสำหรับเชื้อที่ระบาดในเอเชีย  ยังทำการศึกษาอยู่ ยังไม่เสร็จมีงานวิจัยออกมาบ้างแต่ก็ใช้เวลาศึกษาสั้นเกินไป

     ....ในต่างประเทศวัคซีนนี้ทำให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ และทำให้เกิดผลกระทบต่อAutoimmune ได้ในบางคนเช่นกัน

 

 ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

          1. อาการบางอย่างที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เราคิดว่าอาจจะเป็นอุปทานหรือเปล่าหรืออาจจะเป็นความบังเอิญ  แต่พอมาฟังเพื่อนๆคนอื่นก็มีอาการเกิดขึ้นเช่นเดียวกันแต่ไม่มากนักและมักจะเกิดในช่วงวัน 2-3 วันแรกๆ

        2. การแก้ไขอาการดังกล่าว โดยการกินน้ำเยอะๆจะช่วยได้มาก (ส่วนมากทำอย่างนี้) แล้วทำให้อาการที่เป็นอยู่เบาบางลง และมีไข้ก็ทานยาแก้ไข้(พาราเซ็ตตามอล)ก็เพียงพอ

       3. จากประสบการณ์ที่เพื่อนๆเล่าให้ฟัง ทำให้ไม่อยากให้คนที่ตั้งท้องฉีดวัคซีนนี้ ทั้งๆที่สธ.ออกมาประกาศว่าฉีดได้ก็ตาม

        4. ท่านที่ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด 2009 แล้วก็อย่าทระนงว่าจะไม่ติดไข้หวัด 2009 ได้อีก เนื่องจากว่าไข้หวัดใหญ่นั้นมีหลายสายพันธุ์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถ้าไข้หวัดมีการกลายพันธุ์ วัคซีนที่คิดค้นจากต่างประเทศซึ่งอาจจะคนละสายพันธุ์กับบ้านเราก็อาจใช้ไม่ได้ผลเช่นกัน

       5. เพราะฉะนั้นการป้องกันตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นหนทางที่ไม่ประมาท การใช้หน้ากากอนามัยเวลาเป็นหวัดไม่สบาย การล้างมือสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงที่ชุมนุมชนคนเยอะๆ จึงยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติอยู่

        6. ไม่ควรให้ผู้ที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่(ฤดูกาล)มาก่อนและผู้ที่เป็นAutoimmune (แพ้ภูมิตัวเอง)หรือ SLE ฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 นี้เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้เป็นผลเสียมากกว่าผลดี

                         20ge001

       การตัดสินใจในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009

          บะ” สภากาแฟ จึงเป็นเพียงข้อมูลของผู้ที่มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเพียงให้ท่านที่ยังไม่ตัดสินใจฉีดวัคซีนว่าจะฉีดหรือไม่? ก็อยู่ในดุลพินิจที่ท่านจะพิจารณา แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังมีวัคซีนเหลืออีกจำนวนมากในการให้บริการบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทุกอย่างก็อยู่ที่ความสมัครใจของท่าน ส่วนผึ้งงานเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วและก็มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นแค่เล็กน้อยเท่านั้นในวันแรกๆ แล้วท่านล่ะ? ...ตัดสินใจแล้วหรือยัง?...

          บะ” สภากาแฟ....ในครั้งนี้เป็นเพียงแค่แนวทางให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจและเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันของบุคลากรในสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในเรื่องผลกระทบจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009   

                          พบกันใหม่ใน....กาแฟ...แก้วต่อไปค่ะ.



ความเห็น (12)

ขอบคุณข้อมูลอันเป็นประโยชน์

namsha ฉีดแล้ว ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ

จนท.ที่ รพ.ฉีดวัคซืน 200 คน มีอาการข้าเคียง 1 คน อาการเหมือนคุณพจนีย์ นอนสังเกตอาการที่ รพ. 3 วัน อาการดีขึ้นเป็นปกติ

สวัสดีค่ะคุณnamsha P

  • ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แต่ส่วนมากแค่เล็กน้อย แต่ก็ทำให้ผู้คนวิตกกังวลได้เหมือนกัน
  • บุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ที่เสี่ยงสูง การป้องกันเพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ยามเมื่อมีการระบาดรอบสอง
  • ขอบคุณคุณnamshaที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่ะ

ฉีดแล้วครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผลข้างเคียงมีเล็กน้อย เช่น ไข้ขึ้น ปวดกล้ามเนื้อ แต่ที่เป็นมากหน่อยคือ อาการวิตกจริต

:)

สวัสดีค่ะคุณพิทักษ์ P

  • ผลข้างเคียงมีเล็กน้อย เช่น ไข้ขึ้น ปวดกล้ามเนื้อ แต่ที่เป็นมากหน่อยคือ อาการวิตกจริต....ส่วนมากเป็นอาการเดียวกับคุณพิทักษ์เลยค่ะ โดยเฉพาะอาการหลังสุด
  • ยิ่งหาข้อมูลมาก...ก็ยิ่งทำให้กลัวมากเช่นกัน 
  • ยินดีด้วยที่ฉีดวัคซีนแล้วเพื่อความไม่ประมาทค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์คะ มีความสุขมากๆนะคะ....

ยังไม่ได้ฉีดค่ะ

คิดๆอยู่แต่ยังไปไม่ถึงห้องฉีดยาค่ะ

รณรงคืให้ฉีดก็ดีนะคะ ในรพ.มีโอกาสติดเชื้อเยอะค่ะ

ที่ร.พ.ก็มีจนท.ที่ฉีดแล้วมีอาการหอบหืดกำเริบค่ะ

คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเองเสียด้วย

 

สวัสดีค่ะธนิตย์ สุวรรณเจริญ

  • ภาพพระพุทธชินราช สวยจังค่ะ...
  • สวัสดีปีใหม่แบบไทยๆ...รู้สึกดีจังค่ะ เพราะไทยเรามีวันที่ดีๆ น่านำมาส่งเสริม ...ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ
  • ไม่ทราบว่าอาจารย์ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัด 2009 หรือเปล่า?
  • อย่าลืมแวะมาเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                             Coffee3 

สวัสดีค่ะคุณεöз. . . NinG-WerN . . .εöз P

  • ขอให้มีความสุขมากๆเช่นกันค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                       Coffee3

สวัสดีค่ะพ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิชP

  • คุณหมอ...ยังอยู่ในช่วงตัดสินใจ...
  • ว่าจะฉีดดีหรือไม่ฉีดดี? ...มีข้อมูล...มากย่อมตัดสินใจยากเป็นธรรมดา
  • ผึ้งงานขออวยพรให้คุณหมอมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงในวันปีใหม่ไทยค่ะ
  • ขอบคุณที่ท่านกรุณาแวะมาเยี่ยมค่ะ

                                 Coffee3

สวัสดีค่ะคุณpat

  • คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การจะฉีดวัคซีนต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ
  • เพราะจะมีโอกาสทำให้เกิดผลข้างเคียงมากกว่าคนปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเกิดกับทุกคนเสมอไป
  • แต่ถ้าคนปกติที่ต้องทำงานอยู่ในร.พ. ยอมรับว่าความเสี่ยงสูงกว่าผู้อื่น
  • การป้องกันไว้ดีกว่าค่ะ ส่วนมากอาการข้างเคียงเกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งไม่เกินสามวันค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                                     Coffee3

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท