บันทึกก่อนหน้า
ประสบการณ์ดงขมิ้น (๑) : เป็นนาคฝึกหัดกายใจก่อนบวช
ประสบการณ์ดงขมิ้น (๒) : ท่องคำขอบวช
ผมเป็นนาคแบบไม่ได้บวชนาค อาศัยอยู่วัดถึง ๑๒ วัน
บ่ายวันที่ ๑๒ ของการอยู่วัด เป็นการบวชนาค เพื่อเตรียมบวชพระในวันรุ่งขึ้น
พวกเรา หมายถึงสมาชิกในครอบครัว ตกลงกันว่าจะบวชเงียบ ๆ ไม่เอิกเกริก ไม่จัดงานใหญ่โต ตามภาษาบ้านผมเรียกว่า บวชแบบ “ข้าวหม้อแกงหม้อ” หรือ “โกนหัวเข้าวัด”
ซึ่งผมก็เห็นด้วย ไม่เพียงเพราะจะเป็นการประหยัดเงินเท่านั้น ผมก็ไม่ประสงค์จะให้ใครต่อใครรับรู้ว่าผมบวช เพราะเดิมตั้งใจจะบวชเพียง ๗ วัน ซึ่งต่อมายอมรับข้อตกลงเป็น ๑ เดือน
วันบวชนาคมีเครือญาติฝ่ายพ่อมากันหลายสิบคน เครือญาติฝ่ายแม่มาไม่กี่คน มีเพื่อนสนิทผมมาไม่กี่คน และโชคดีมากที่หญิงสาวที่ผมจีบไว้เป็นแฟนมาได้แค่คนเดียว (อันที่จริงไม่ได้บอกใครสักคน)
วันบวชนาคเริ่มต้นขึ้นก่อนสงกรานต์ไม่กี่วัน คงไม่ต้องบอกว่าอากาศหน้าร้อนของเมืองตากร้อนทารุณเพียงใด ดีที่วัดที่บวชร่มรื่นไปด้วยไม้ใหญ่ ลานหน้าวิหารมีต้นพิกุลใหญ่ถึงสองต้น แผ่กิ่งก้านปกคลุมพื้นซีเมนต์เบื้องล่างจนแสงแดดไม่สามารถตกกระทบลงถึง
จำได้ว่าก่อนจะบวชนาคในช่วงบ่าย ผมแอบไปตัดผมมาก่อนในช่วงเช้า ประมาณว่าขอหล่อทิ้งท้ายสักหน่อย
ทรงผมที่ตัดมาใหม่อยู่บนศรีษะได้ไม่นาน ก็กลายสภาพเหลือแต่ตอผมติดหนังศรีษะในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
ปู่ คือ คนแรกที่ทำการตัดผม ปู่ใช้กรรไกตัดผมหนึ่งฉับ แล้วนำเส้นผมไปใส่ใบบัวที่แม่ถือไว้ข้าง ๆ ๔โษฏ)คือ พ่อ ย่า และแม่ ตามลำดับ จากนั้นหลวงพี่แทน ซึ่งต่อมาเป็นพระคู่สวดผมในวันรุ่งขึ้นเป็นผู้โกนผมด้วยมีดโกน กระทั่งศรีษะผมเลี่ยนเตียนโล่ง
หลังจากปลงผมนาคแล้วก็เป็นขั้นตอนอาบน้ำนาค
เริ่มจากปู่ ตามด้วยย่า พ่อ แม่ แล้วก็ตามด้วยเครือญาติไล่กันลงไปตามอาวุโส
ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม เก้าอี้หัวโล้น ข้าง ๆ มีถังน้ำที่น้องชายทั้งสองไปโยกมาจากบ่อโยกข้าง ๆ ลานใต้ร่มพิกุล แขกเหรื่อเครือญาติตักน้ำในถังนั้นมาราดรดไปบนตัวผมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง
แม้อากาศยามนี้จะร้อน แต่ผมก็รู้สึกหนาวสั่นเพราะอาบที่น้ำค่อนข้างเย็นด้วยโยกเอามาจากใต้ดิน
อาบน้ำเสร็จแล้วผมก็นุ่งห่มด้วยผ้าชุดขาว ผ้านุ่งคล้ายกับผ้าถุง ซึ่งหาเป็นผ้านุ่งของพระจะเรียกว่า “สบง” กายท่อนบนสวมผ้าเฉวียงบ่า ซึ่งหากเป็นของพระจะเรียกว่า “อังสะ” เข็มขัดเป็นเข็ดขัดนาคของย่าที่ให้ยืมมาใส่ก่อน มีทองของใครบ้างไม่รู้ที่ให้ยืมมาใส่หลายเส้น
ผมบวชเป็นนาคเสร็จด้วยพิธีกรรมที่ไม่เกี่ยวกับทางวัดสักเท่าไร นอกจากการดำเนินงานของเครือญาติ
ผมพบว่าญาติหลายคนที่ผมไม่ได้พบมานานก็เดินทางมาร่วมงานบวช และในนั้นหลายคนที่ไม่เจอกันมานานก็มีโอกาสเจอกันในงานนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมเห็นบรรดาอา ๆ ลูกของปู่และย่ามากันพร้อมหน้าในคราวบวชผมนี้
ในช่วงเย็นมีการตระเตรียมทำอาหารเพื่อเลี้ยงพระในเช้าและเพลวันรุ่งขึ้น รวมทั้งทำเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาร่วมงานตั้งแต่วันนี้ ซึ่งแม้บอกว่าจะจัดเพียงงานเล็ก ๆ แต่พอเครือญาติรู้ข่าวก็มาร่วมกันไม่น้อย พร้อมกับต่อว่าฝ่ายปู่ ย่าและพ่อว่า ทำไมจัดงานบวชลูกทั้งทีไม่ยอมไปบอกกัน...
ผมใช้เวลาช่วงเย็นไปจนถึงค่ำพูดคุยกับบรรดาญาติฝ่ายพ่อ รวมทั้งกับเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัด
“เดือนเดียวครับ...”
คือคำตอบที่ตอบออกไปเมื่อถูกถามว่าจะบวชนานเท่าไร ?
เย็นวันนี้รวมทั้งเช้าวันรุ่งขึ้น ผมไม่ต้องไปกวาดลานวัด บิณฑบาตร ร่วมทำวัตร หรือทำกิจอื่น ๆ ร่วมกับพระรูปอื่น ๆ ในวัด
ช่วงค่ำผมใช้เวลาอีกเล็กน้อยก่อนเข้านอนทบทวนคำขอสวด หลังจากที่ท่องบ่นมาหลายวันจนขึ้นใจ
พรุ่งนี้ผมจะเป็นพระแล้ว...
มาชื่นชมการบวชที่เรียบง่าย..แล้วจะมีแห่ลูกแก้วก่อนิ.......ที่ไม่ให้เหยียบดินนะจนถึงวัดก็แบกลงมาประเพณีทางเหนือ..เจ้า
สวัสดีค่ะ..คุณหนานเกียรติ..
สวัสดีเจ้าคุณครู...
ประเพณีทางตากไม่เหมือนทางเหนือครับ
ประเพณีการบวชของที่นี้กระเดียดไปทางภาคกลาง
งานบวชผมมิได้ทำพิธีอะไรมากมัก
แห่รอบโบสถ็ให้นาคเดิน
พิธีกรรมมีนิดหน่อย เช่น ไหว้เสื้อวัด ไหว้เสาพัทธสีมา ให้คนอุ้มยืดแตะประตูโบสถ์ ฯลฯ
ยินดีจ้าดนักตี้แวะมาแอ่วเจ้า...
สวัสดีครับ คุณจำเนียรวดี
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
แหะ แหะ จริง ๆ แล้วผมแอบเข้าไปอ่านทุกบันทึกของคุณจำเนียรวดีมาแล้ว
บางเรื่องไม่สะดวกออกความคิดเห็น
การบวชของผม ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากครับ
บวชแบบไม่จัดงานใหญ่โต ไม่มีฉลอง คนร่วมงานก็ไม่มากนัก มีเฉพาะเครือญาติที่ค่อนข้างสนิทครับ...
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ
ติดตามเรื่องเล่าครับ
รักประเทศไทย ตำรวจเป็นมิตร ใกล้ชิดประชาชน
สวัสดีครับอาจารย์
ภาพชุดนี้เพิ่งพบเมื่อคราวกลับไปบ้านเมื่อปลายปีแล้วครับ
มีอยู่อัลบั้มนึง ถ่ายโดยใครก็ไม่รู้ เลยสแกนเก็บไว้ครับ
แหะ แหะ จะทยอยเอามาลงเป็นระยะ ๆ ครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ...
ติดตามตอนต่อ ๆ ไปด้วยนะครับ
ตามมาแซวพี่ สมัยหนุ่มๆๆนี่หล่อเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ ผมอยู่วัด 7 วันก่อนบวช แม่ไม่ยอมถามว่าจะอยู่กี่วัน ฮ่าๆๆ แถมมีแซวว่าบวชเสร็จแล้ว สึกมาจะเบียดเลยไหม ฮ่าๆๆเซ็งเลย...
สวัสดีครับอาจารย์
ผมเห็นด้วยกับแม่อาจารย์ครับ
เบียดได้แล้วครับ...
แหะ แหะ มีในใจหรือยังครับ
ต้องการให้ช่วยเหลืออะไรในเรื่องนี้บอกได้นะครับ เต็มที่ เต็มที่
ฮิ ฮิ...
สวัสดีครับคุณหนานเกียรติ
ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยเขียนเล่าประสบการณ์ต่างๆ ครับ จะติดต่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไปนะครับ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ คุณเม้ง...
ขอบคุณที่สนใจครับ
ต้ังใจจะเขียนเกร็ดเผื่อจะเป็นประโยชน์ในตอนบวชในตอนต่อไปครับ
สวัสดีค่ะ
* มาจนเย็นเลยค่ะหนาน มัวตอบเม้น แบบมะมุมมะงาหลา ยาวซะยาว ฮา... กว่าจะเสร็จ เล่นเอาค่ำ
* คุณหนานเกียรติบันทึกได้เหมาะกับเวลาเลย ช่วงนี้ มีการบวชแทบทุกวัน บ้านครูใจดีอยู้ใกล้วัดค่ะ..
* คนที่กำลังจะบวช เนี่ยดูมีราศี สง่างาม ผุดผาด รัศมีเจิดจ้า หนานก็เป็นเช่นนั้น นิยมยกย่องลูกผู้ชายที่ผ่านการบวชเรียน อย่างน้อยการผ่านการบวช ได้เรียนรู้พระธรรมคำสอนของพุทธองค์ ทำให้จิตใจของผู้นั้นบริสุทธิ์ เปี่ยมด้วยความดีงาม...
* ประกอบการการบวชแบบเรียบง่าย ยิ่งน่าเลื่อมใสศรัทธาค่ะ... พ่อแม่ยอมมีความสุขมากที่ได้เห็นลูกห่มผ้าเหลือง พ่อถือตาลปัตร แม่อ้มผ้าไตร (แฟนอุ้มหมอน ฮา ) อ้อ.... ขอชม นานจากสง่าราศี แล้ว ตอนหนุ่ม พ่อนาคเกียรติศักดิ์ หล่อ มากๆๆๆๆๆ ฮา
(แต่ น้อยกว่า นาคพ่อบ้านครูใจดี ฮา แต่ตอนนั้นไม่รู้จักกันหรอก เห็นในรูป ตอนนั้นครูใจดี อยู่ ป.5 ฮ่า ฮ่า ก๊ากๆๆๆๆ )
* ขอบคุณบันทึกความทรงจำที่งดงามค่ะ
* ขอให้มีความสุขมากๆๆๆๆ กับครอบครัวนะคะ
(ปล. ว่าแล้ว อย่าให้ครูใจดี ไปเยี่ยมใครได้ เพราะยัยคนนี้ พุโมก ฮา ฮา ไปละค่ะ)
วันที่ 8 - 9 พฤษภาคมนี้
บ้านพี่จะมีงานบวชหลานชาย
(ลูกของพี่ชาย) ตอนแรกกะงานธรรมดาๆ
ตอนนี้ใกล้จะเป็นงานช้างแล้ว
สวัสดีครับคุณพี่
งานช้าง แล้วมีช้างแห่รึยังครับพี่ ฮิ ฮิ...
งานบวชลูกชายเป็นธรรมดาครับที่พ่อแม่ที่ต้องการแสดงออกถึงความศรัทธาครับพี่
ทั้งศรัทธาและหน้าตามาคู่กัน
งานใหญ่ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ซะทีเดียวครับ
มีบางแง่มุมที่เป็นประโยชน์เช่นกันครับ
ขึ้นอยู่ว่าจะมองเห็นและได้ประโยชน์จากมันหรือเปล่า
อนุโมทนาบุญด้วยครับพี่...
แหะ แหะ ฝากบอกคนบวชแวะมาอ่านบันทึกผมหน่อยดิ...
ตอนผมบวช ผมกำลังมีแฟน (แฟนนะครับ ไม่ใช่ภรรยา) และ แฟนก็มางานบวชด้วย ก็แกว่งๆ บ้างเหมือนกันครับ ตอนเป็นนาค พอเป็นพระแล้วก็เฉยๆครับ
ไปวิ่งเพิ่งมา เกษตรผสมผสานเรียกว่า Integrated Farming
เกษตรเชิงเดี่ยวเรียกว่า Single Farming ครับ ปลูกชนิดเดียวเช่น อ้อย กาแฟ ชา ใช่ไหมครับ
เป็นประสพการณืที่ดีนะครับ